Page 33 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
P. 33
ความเป็นผู้น�ำทางวิชาการในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ 15-23
รวมท้ังต้องพยายามคิดในแง่บวกเสมอว่าสิ่งท่ีท�ำจะประสบผลส�ำเร็จ กล้าน�ำการเปลี่ยนแปลง เช่น ถ้าคิดว่า
วิธีการสอนหรือนวัตกรรมใดจะเป็นประโยชน์กับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ก็กล้าท่ีจะน�ำมาใช้แม้จะไม่
เคยมีเพื่อนร่วมงานคนใดเคยใช้มาก่อน ถ้าประสบความส�ำเร็จก็จะเกิดผลดีกับผู้เรียนและสามารถถ่ายทอด
แบง่ ปนั ใหเ้ พอ่ื นรว่ มงานหรอื เพอื่ นครจู ากสถาบนั การศกึ ษาอน่ื เพอื่ ใชป้ ระโยชนไ์ ด้ แตถ่ า้ ไมป่ ระสบความสำ� เรจ็
ผู้น�ำทางวิชาการในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษต้องไม่สูญเสียความม่ันใจหรือท้อแท้ แต่ต้องพยายามใช้
ความคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ ความรู้และประสบการณ์ที่มีมาใช้ในการแก้ไขปรับปรุงวิธีการสอน
หรือนวัตกรรมนั้น
จะเห็นได้ว่า การพัฒนาตนเองให้เป็นผู้น�ำทางวิชาการในด้านการเรียนการสอนต้องอาศัยเพ่ือน
ร่วมงานด้วย เพราะความร่วมมือระหว่างเพื่อนร่วมงาน (collegiality) และการท�ำงานเป็นทีม (team work)
มีส่วนส�ำคัญยิ่งต่อการพัฒนาวิชาชีพ ดังน้ัน ควรมีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดีกับเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งต้องใจกว้าง
ไม่มีทิฐิ ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืนหรือความเห็นที่แตกต่าง เพื่อน�ำมาใช้ในการปรับปรุงตนและการ
เรียนการสอน และท่ีส�ำคัญอีกประการหนึ่งคือ เป็นผู้มีความเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่ รู้จักแบ่งปัน ให้ความช่วยเหลือ
และให้ค�ำแนะน�ำแก่เพ่ือนร่วมงานหรือเป็นครูพ่ีเลี้ยงผู้สอนภาษาอังกฤษที่ยังขาดประสบการณ์ ซึ่งการนิเทศ
และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซ่ึงกันและกันก็เป็นวิธีพัฒนาความรู้และประสบการณ์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
3. การวางแผนในการพฒั นาตนใหเ้ ป็นผ้นู ำ� ทางวชิ าการในการเรยี นการสอนภาษาองั กฤษ
สุรศักด์ิ หลาบมาลา (2554) ได้เสนอแนะแนวทางท่ีจะท�ำให้ผู้สอนได้พัฒนาตนเอง ดังน้ี
1) พิจารณาตนเองว่ามีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร ผู้อ่ืนมองตนว่าอย่างไร และคาดหวังอะไรจากตน ซึ่ง
สอดคล้องกับข้อเสนอแนะของ ผ่องพรรณ กันธิยะ (2554) ที่ให้เรียนรู้ข้อบกพร่องของตนเองก่อน เพื่อให้รู้
ว่าควรพัฒนาในจุดใด ซึ่งอาจจะใช้วิธีการต่าง ๆ ในการส�ำรวจตนเอง เช่น ท�ำแบบสอบถามหรือแบบทดสอบ
ในหนังสือ วารสารต่าง ๆ หรือจากการให้เพ่ือนร่วมงานช่วยสังเกตและวิพากษ์
2) ศึกษาผู้เรียนของตนในสภาพจริง ว่ามีความสามารถเพียงใดและต้องให้ความช่วยเหลือในด้าน
ใด เพ่ือหาทางแก้ไขและพัฒนาให้ตรงจุด
3) พัฒนาวิชาชีพของตนด้วยวิธีการต่าง ๆ ท้ังนี้ ต้องพัฒนาในด้านท่ีสอดคล้องกับค�ำตอบท่ีได้จาก
ข้อ 1 และ 2
ในทางเดียวกัน ริชาร์ดและฟาร์เรล (Richards & Farrell, 2005) ได้แนะน�ำขั้นตอนที่จะน�ำไปสู่การ
พัฒนาตนเองไว้ดังนี้
1) ตดั สินใจใหไ้ ดว้ ่าตอ้ งการจะเรียนรหู้ รือพัฒนาอะไร โดยตงั้ เป้าหมายทช่ี ัดเจน เชน่ ตอ้ งการพฒั นา
ทักษะด้านการพูดและวิธีการสอนพูด ต้องการเรียนรู้เร่ืองการวัดและประเมินผล เป็นต้น
2) คิดหาวิธีท่ีจะเรียนรู้หรือบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
3) พดู คุยขอคำ� แนะน�ำจากผู้ท่เี คยเขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีพัฒนาเร่ืองเดยี วกัน โดยอาจจะพดู คุยผา่ นกลมุ่
สนทนาในอินเทอร์เน็ต
