Page 54 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
P. 54
15-44 การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
20-25 นาที ในการน�ำเสนอผลงานของตนในกลุ่มผู้ท่ีสนใจ และมีเวลา 5-10 นาทีในการเปิดโอกาสให้ผู้เข้า
ฟังการน�ำเสนอไต่ถาม ซ่ึงจะได้รับค�ำแนะน�ำ หรือข้อเสนอแนะค่อนข้างน้อย ส่วนการน�ำเสนอแบบโปสเตอร์
นั้น ผู้น�ำเสนอต้องยืนอยู่ในบริเวณที่มีการน�ำโปสเตอร์ไปติดในช่วงระยะเวลาท่ีผู้จัดงานประชุมก�ำหนด ซ่ึง
อาจเป็นได้ต้ังแต่หนึ่งชั่วโมงถึงเป็นวัน โดยต้องคอยตอบค�ำถามของผู้ที่เข้าชมโปสเตอร์เป็นรายคน แต่ข้อดี
คืออาจจะได้ข้อแนะน�ำ ความคิดเห็น หรือข้อมูลย้อนกลับแบบละเอียดและลึกกว่า (webguru.neu.edu)
ความแตกต่างระหว่างการน�ำเสนอแบบบรรยาย (Oral presentation) และการน�ำเสนอแบบโปสเตอร์
(Poster presentation)ได้สรุปไว้ในตารางที่ 15.5
ตารางที่ 15.5 ความแตกตา่ งระหวา่ งการนำ� เสนอแบบบรรยายและการนำ� เสนอแบบโปสเตอร์
การน�ำเสนอแบบโปสเตอร์ การนำ� เสนอแบบบรรยาย
ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการเตรียมน�ำเสนอมากกว่า เตรียมน�ำเสนอได้เร็วกว่าและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
มีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ชม มีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เข้าฟัง
โปสเตอร์มากกว่า เพียงแค่ 5 นาที ในช่วงถาม-ตอบเท่าน้ัน
มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างความร่วมมือกับผู้น�ำเสนอ มีเวลาในการพูดคุยเกี่ยวกับผลงานกับผู้น�ำเสนอราย
โปสเตอร์รายอ่ืน ๆ อ่ืน ๆ น้อย
ในงานประชุมบางแห่ง จะถูกพิจารณาว่าเป็นผลงานท่ี บางคร้ัง ผลงานที่ได้รับเลือกให้น�ำเสนอแบบบรรยาย
ด้อยกว่าผลงานท่ีได้รับการคัดเลือกให้น�ำเสนอแบบ จัดว่าเป็นผลงานที่ดีในสาขาน้ัน
บรรยาย
ทม่ี า: www.medicine.mercer.edu
การขอน�ำเสนอผลงานในงานประชุมวิชาการส�ำหรับการน�ำเสนอแบบบรรยายและน�ำเสนอแบบ
โปสเตอร์มีขั้นตอนเหมือนกัน จะแตกต่างกันเฉพาะวิธีการน�ำเสนอเท่าน้ัน ขั้นตอนทั่วไปมีดังน้ี
1) ตรวจสอบหัวข้อ (Theme and Topics) ของการประชุมวิชาการ เพ่ือพิจารณาว่าผลงาน
ที่ต้องการไปน�ำเสนอตรงกับหัวข้อการประชุมหรือไม่
2) ส่งบทคัดย่อ (abstract) ภายในเวลาที่ก�ำหนด ท้ังน้ี ต้องตรวจสอบรูปแบบของบทคัดย่อ
ด้วย เช่น จ�ำนวนค�ำของชื่อเรื่อง ความยาวหรือจ�ำนวนค�ำในบทคัดย่อ ตัวอักษรที่ใช้พิมพ์และขนาด ซ่ึงงาน
ประชุมบางงานอาจมีแบบฟอร์มในการส่งพร้อมให้ระบุวิธีการน�ำเสนอว่าต้องการน�ำเสนอแบบบรรยายหรือ
แบบโปสเตอร์ ในกรณีที่ไม่มีการให้แสดงความประสงค์ ทางกรรมการผู้คัดเลือกบทความจะเป็นผู้พิจารณา
ว่าบทความใดเหมาะแก่การน�ำเสนอด้วยวิธีใด
3) รอผลการพิจารณาว่าบทคัดย่อที่ส่งไปได้รับการตอบรับให้น�ำเสนอหรือไม่