Page 32 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 32

4-22 ความรูท้ างสงั คมศาสตร์และเทคโนโลยสี �ำ หรับนักนเิ ทศศาสตร์
กำ� หนดแลว้ ใหค้ ณะรฐั มนตรเี สนอพระราชกำ� หนดนน้ั ตอ่ รฐั สภาเพอื่ พจิ ารณาโดยไมช่ กั ชา้ หากสภาผแู้ ทน
ราษฎรมมี ตไิ มอ่ นมุ ตั ิ พระราชกำ� หนดนนั้ กต็ กไปโดยไมต่ อ้ งสง่ ใหว้ ฒุ สิ ภาพจิ ารณา แตถ่ า้ สภาผแู้ ทนราษฎร
อนมุ ตั แิ ลว้ สง่ ใหว้ ฒุ สิ ภาพจิ ารณา วฒุ สิ ภาไมอ่ นมุ ตั ิ ใหส้ ง่ กลบั ไปยงั สภาผแู้ ทนราษฎรเพอื่ ยนื ยนั การอนมุ ตั ิ
อีกคร้ัง หากสภาผู้แทนราษฎรมีมติยืนยันด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ�ำนวนสมาชิกท้ังหมด
เท่าทม่ี อี ยขู่ องสภาผู้แทนราษฎรใหพ้ ระราชกำ� หนดมีผลใชบ้ ังคบั เป็นพระราชบญั ญัตติ อ่ ไป

                          - การแก้ไขเพิ่มเติมรฐั ธรรมนูญ
                      (2) 	ดา้ นควบคมุ ตรวจสอบการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ สภาผแู้ ทนราษฎรมอี ำ� นาจ
หนา้ ทใ่ี นการควบคมุ ตรวจสอบการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ซงึ่ เปน็ กลไกการตรวจสอบและถว่ งดลุ ระหวา่ ง
ฝ่ายนติ ิบัญญตั แิ ละฝ่ายบรหิ ารตามระบบรฐั สภา ดังนี้

                          (ก) การตง้ั กระทถู้ าม โดยทส่ี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรมสี ทิ ธติ งั้ กระทไู้ ด้ 2
ประเภทคือ (1) กระทถู้ ามทวั่ ไป ซงึ่ เป็นการต้ังกระทู้ถามรฐั มนตรเี กยี่ วกับงานในหน้าที่ โดยท่ีรัฐมนตรมี ี
สิทธิที่จะไม่ตอบ เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นว่าเรื่องนั้นยังไม่ควรเปิดเผย เพราะเก่ียวกับความปลอดภัยหรือ
ประโยชนส์ ำ� คญั ของแผน่ ดนิ และ (2) กระทถู้ ามสด โดยสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรแจง้ เปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร
ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อนเริ่มประชุมว่าจะถามนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในการบริหารราชการ
แผ่นดินเร่ืองที่เป็นปัญหาส�ำคัญท่ีอยู่ในความสนใจของประชาชน หรือเป็นเร่ืองท่ีกระทบถึงประโยชน์ของ
ประเทศชาติหรือประชาชน หรอื เปน็ เรอื่ งเรง่ ด่วน ทั้งนี้ โดยไมต่ อ้ งระบุคำ� ถาม และให้ถามและตอบกระทู้
ดงั กลา่ วไดส้ ปั ดาหล์ ะ 1 ครงั้ โดยทสี่ มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรตง้ั กระทถู้ ามดว้ ยวาจาไดเ้ รอ่ื งละไมเ่ กนิ 3 ครง้ั

                          (ข) การอภปิ รายทว่ั ไป สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรมสี ทิ ธคิ วบคมุ ตรวจสอบ
การบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ผา่ นการอภปิ รายทวั่ ไปได้ 4 ประเภท คอื การอภปิ รายไมไ่ วว้ างใจนายกรฐั มนตรี
การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี และการอภิปราย
ท่ัวไปโดยไมม่ กี ารลงมติ

                          (ค) การตง้ั คณะกรรมาธกิ าร โดยทส่ี ภาผแู้ ทนราษฎรมอี ำ� นาจเลอื กสมาชกิ
สภาผู้แทนราษฎรต้ังเป็นคณะกรรมาธิการสามัญและมีอ�ำนาจเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือบุคคลท่ี
มิได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้ังเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญเพ่ือกระท�ำกิจการ พิจารณาสอบสวน
หรอื ศึกษาเรื่องใดๆ อนั อยใู่ นอำ� นาจหนา้ ท่ีของสภาผู้แทนราษฎรได้

                      (3) 	ดา้ นการเปน็ ผแู้ ทนของปวงชนชาวไทย รฐั ธรรมนญู กำ� หนดใหส้ มาชกิ สภา-
ผแู้ ทนราษฎรเปน็ ผแู้ ทนปวงชนชาวไทย โดยไมอ่ ยใู่ นความผกู มดั แหง่ อาณตั ิ มอบหมาย หรอื ความครอบงำ�  
ใดๆ และตอ้ งปฏบิ ตั หิ นา้ ทดี่ ว้ ยความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ เพอื่ ประโยชนส์ ว่ นรวมของปวงชนชาวไทย โดยปราศจาก
การขัดกันแห่งผลประโยชน์ และก�ำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามีเอกสิทธิ์ ความคุ้มกัน รวมท้ังหลักประกัน
ความเป็นอิสระในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทดี่ ้านตา่ งๆ ดว้ ย

                      (4) 	ดา้ นการพจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบเรอื่ งตา่ งๆ นอกจากบทบาทอำ� นาจหนา้ ท่ี
หลกั ดา้ นตา่ งๆ ดงั กลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้ รฐั ธรรมนญู กำ� หนดใหร้ ฐั สภามบี ทบาทอำ� นาจหนา้ ทใี่ นการพจิ ารณา
ให้ความเห็นชอบเร่ืองต่างๆ กล่าวคือ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ร่วมกันพิจารณาให้ความเห็นชอบ
เรอื่ งต่างๆ ในที่ประชมุ รัฐสภา อาทิ พิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบในการประกาศสงคราม พิจารณาให้ความ
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37