Page 20 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 20
13-10 ความรู้ทางสงั คมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีสำ� หรับนกั นเิ ทศศาสตร์
2.2 วัฒนธรรมมีพ้ืนฐานจากสัญลักษณ์ (Culture is based on symbols) มนุษย์ได้สร้าง
วัฒนธรรมข้ึนโดยผ่านสัญลักษณ์เป็นสำ� คัญ เกยี ร์ซกล่าววา่ ทมี่ าของวฒั นธรรมคือสัญลักษณท์ ่ไี ด้รวบรวม
เพมิ่ ขน้ึ เรอ่ื ยๆ สญั ลกั ษณจ์ งึ เปน็ สง่ิ จำ� เปน็ สำ� หรบั การดำ� เนนิ ชวี ติ ในสงั คมในทกุ ดา้ น (อคนิ รพพี ฒั น,์ 2551:
78) สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมท่ีส�ำคัญของมนุษย์ก็คือภาษาท่ีอาจอยู่ในรูปของวัจนภาษาและอวัจนภาษา
เช่น อาจอยูใ่ นรูปของหนงั สอื สง่ิ ของ สญั ลกั ษณห์ รอื งานเขียนเก่ยี วกบั ศาสนา รปู ภาพ ทา่ ทาง ธงประดับ
เป็นต้น
2.3 วัฒนธรรมเป็นความคิดร่วม (Culture is shared ideas) วัฒนธรรมเป็นของส่วนรวม
ค่านิยม ความคิด พฤติกรรม รูปแบบในการด�ำเนินชีวิตที่เป็นมาตรฐาน ไม่ใช่ส่ิงที่สมาชิกคนใดคนหน่ึง
ของสังคมยึดถือปฏิบัติแต่จะต้องเป็นสิ่งท่ีสมาชิกยอมรับร่วมกัน ซ่ึงจะท�ำให้สมาชิกสามารถคาดเดา
พฤตกิ รรมที่สงั คมปฏิบัติและยอมรับ สมาชกิ จึงแสดงพฤติกรรมตามความคาดหวังของสงั คมนั้นๆ ได้
2.4 วัฒนธรรมเป็นพฤติกรรมท่ีมนุษย์เรียนรู้ (Culture is learned) วฒั นธรรมไมใ่ ชส่ ง่ิ ทม่ี นษุ ย์
ไดร้ บั จากพนั ธกุ รรม ไมไ่ ดต้ ดิ ตวั มาแตก่ ำ� เนดิ และไมไ่ ดเ้ ปน็ พฤตกิ รรมทเ่ี กดิ จากสญั ชาตญาน หากแตเ่ ปน็
สิ่งซึ่งมนุษย์ในแต่ละสังคมค่อยๆ ซึมซับเรียนรู้ไปทีละเล็กละน้อยจากการเกิดและเติบโตมาในสังคมหนึ่ง
โดยผ่านกระบวนที่นักมานุษยวิทยาเรียกว่าการเรียนรู้ทางวัฒนธรรม (enculturation) โดยกระบวนการ
เรยี นร้ทู างวฒั นธรรมของผูค้ นทีเ่ ติบโตในวัฒนธรรมหนง่ึ ๆ น้นั เปน็ การเรยี นรู้ตลอดชวี ติ ทั้งจากการศึกษา
นอกระบบและการศึกษาในระบบ การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมนั้นเกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในสังคม
ไดร้ บั การสง่ั สมในฐานะสมาชกิ ของสงั คม รวมไปถงึ การอบรมจากบดิ า มารดา ครอู าจารยแ์ ละประสบการณ์
ตา่ งๆ ทำ� ใหส้ ามารถแสดงความประพฤตทิ เี่ หมาะสมต่อสถานการณแ์ ละการยอมรับของสังคม
มนุษย์สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมได้หลายทาง เช่น ผ่านทางสุภาษิต ส�ำนวน คติพจน์ ค�ำคมซ่ึง
เกิดจากการใช้ค�ำที่มีสีสัน มีชีวิตชีวา ไม่เยิ่นเย้อ สามารถสะท้อนภูมิปัญญา สร้างค่านิยม หล่อหลอม
ความเชอ่ื ใหแ้ กส่ มาชิกของสงั คมได้ นกั ปราชญจ์ นี หลายทา่ น เช่น ขงจ้ือ ได้ใชข้ ้อความส้ันๆ นแี้ สดงความ
เหน็ สงั่ สอนสมาชกิ ทำ� ใหค้ า่ นยิ มดำ� รงในสงั คมได้ นอกจากนยี้ งั สามารถเรยี นรวู้ ฒั นธรรมผา่ นนทิ านพนื้ บา้ น
ต�ำนาน เทพนิยาย ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความส�ำคัญกับศีลธรรม ค่านิยมทางวัฒนธรรมท่ีเป็นที่ยอมรับและ
ไม่ยอมรับท�ำให้ผู้อ่านซึมซับคุณสมบัติน้ีไป นอกจากนี้ยังสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านศิลปะและผ่าน
สอ่ื มวลชน ซงึ่ เป็นเสมอื นห้องเรยี นท่ีกวา้ งใหญข่ องสมาชกิ ในสังคมไดอ้ ีกดว้ ย
2.5 วัฒนธรรมมีผลต่อพฤติกรรมและการแปลความหมายพฤติกรรมของมนุษย์ (Culture
affects behaviour and interpretation of behaviour) ทีส่ ัมพันธก์ ับลกั ษณะของบริบทคอื เฉพาะเวลา
เฉพาะสภาพภูมิศาสตร์ ฮอฟสตีด (1994) ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับประเด็นส�ำคัญของวัฒนธรรมไว้ว่า
วฒั นธรรมทแี่ สดงออกใหเ้ หน็ ในเชงิ พฤตกิ รรมนนั้ ยงั คงมคี วามหมายแฝงไวท้ เี่ รามองไมเ่ หน็ การแปลความ
หมายของวัฒนธรรมที่มองไม่เห็นนี้ ผู้ท่ีอยู่ภายในสังคมน้ันๆ จึงจะสามารถแปลความหมายได้ตรงตาม
พฤติกรรมดังกล่าว เช่น การพยักหน้าในประเทศต่างๆ โดยทั่วไปแล้วเป็นการแสดงพฤติกรรมท่ีบ่งบอก
ถงึ ความเห็นดว้ ย แตพ่ ฤตกิ รรมลักษณะเดียวกันนีใ้ นบางประเทศ เชน่ ประเทศอินเดียจะมกี ารแปลความ
หมายไปในทางท่ีไม่เห็นด้วย เป็นการปฏิเสธ หรือเร่ืองของการแต่งกายในประเทศทางตะวันตกหากเป็น
พธิ ีการต่างๆ จะนยิ มสวมเครือ่ งแต่งกายสีดำ� ในขณะท่ปี ระเทศแถบตะวันออกนยิ มสวมใสเ่ คร่ืองแตง่ กายสี