Page 21 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 21

ความร้ดู ้านวัฒนธรรมและศาสนา 13-11
ด�ำในงานศพ แต่ในปัจจุบันความนิยมเกี่ยวกับสีเริ่มมีการเปล่ียนแปลงดังนั้นความหมายจึงเปล่ียนไปด้วย
ตวั อยา่ งเหลา่ นไ้ี ดส้ ะทอ้ นใหเ้ หน็ ลกั ษณะสำ� คญั ของวฒั นธรรมทสี่ ง่ อทิ ธพิ ลตอ่ บคุ คลและการแปลความหมาย
พฤติกรรมของมนษุ ยท์ ่ีสมั พันธ์กับลกั ษณะของบรบิ ท

       2.6 	วฒั นธรรมสอ่ื สารถา่ ยทอดเปน็ มรดกของสงั คม (Culture is transmitted from generation
to generation) มนุษย์มีความสามารถในการส่ือสารจึงได้มีการสรรค์สร้างสัญลักษณ์เพ่ือใช้ในการสร้าง
ความเขา้ ใจกบั ผอู้ นื่ สญั ลกั ษณส์ ำ� คญั ทส่ี ดุ คอื ภาษาทใี่ ชเ้ ปน็ สอ่ื กลางในการสอ่ื สาร การสอ่ื สารนบั เปน็ เครอื่ ง
มือส�ำคัญท่ีช่วยให้มนุษย์สามารถสืบทอดวัฒนธรรมจากสมาชิกของสังคมในรุ่นหนึ่งไปยังสมาชิกรุ่นต่อไป
โดยกระบวนการถา่ ยทอดน้นั จะตอ้ งใชเ้ วลา วัฒนธรรมจงึ เป็นมรดกของสังคมทีม่ คี ณุ ค่ายง่ิ

       2.7 	วัฒนธรรมเป็นส่ิงที่ไม่หยุดนิ่ง มีลักษณะเป็นพลวัต (Culture is dynamic) วัฒนธรรมมี
การเปล่ียนแปลงได้และเกิดข้ึนได้ตลอดเวลา โดยอาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงจากภายในสังคม หรือ
ภายนอกสงั คม ดงั น้ันวฒั นธรรมจึงมกี ารเปลีย่ นแปลงปรบั ตวั ไปตามสภาวะแวดล้อมทเ่ี กดิ ข้นึ เชน่ ความ
นิยมดื่มน�้ำขวดของคนไทยในปัจจุบันท่ีแตกต่างไปจากอดีตอย่างเห็นได้ชัดดังท่ี มรว.อคิน รพีพัฒน์ได้
กลา่ ววา่ “...คนไทยในสมยั ร.7-8 เคยพดู วา่ เมอื งไทยนถี้ า้ ใครมาผลติ นำ�้ ดม่ื (อยา่ งเมอื งนอก) คงตอ้ งลม่ จม
แน่เพราะน�้ำท่าอุดมสมบูรณ์เหลือเกิน…” (อ้างถึงใน วราคม ทีสุกะ, 2544: 89) แต่ในยุคนี้น�้ำดื่มเพื่อ
จำ� หน่ายกลายเป็นสินคา้ ทท่ี �ำรายได้อย่างมหาศาลจนผูผ้ ลิตกลายเปน็ เศรษฐีกนั ไปแล้ว นอกจากนใ้ี นด้าน
ภาษาจะเหน็ ไดว้ า่ มกี ารเปลย่ี นแปลงไปตามยคุ สมยั ในสงั คมยคุ ใหมน่ จ้ี ะเหน็ ความนยิ มใชภ้ าษาองั กฤษใน
การสื่อความหมายมากข้ึน ด้านกระแสแฟช่ันที่เคยนิยมแบบญ่ีปุ่นหรือเจ ป๊อปในปัจจุบันก็ลดน้อยลงหัน
ไปนยิ มแฟชนั่ เกาหลี การเปลย่ี นแปลงทางวฒั นธรรมนจ้ี งึ เปน็ สง่ิ ปกตธิ รรมดา นธิ ิ เอยี วศรวี งศ์ (2547) ได้
ตั้งข้อสังเกตถงึ เอกลักษณ์ของวฒั นธรรมไว้ว่า

       ...เพราะเปน็ ระบบ วฒั นธรรมจงึ มใิ ชส่ งิ่ ทห่ี ยดุ นง่ิ กบั ที่ เนอ่ื งจากความเปลยี่ นแปลงยอ่ มเกดิ แกส่ ว่ นใดสว่ น
หนึ่งของระบบอยู่ตลอดเวลา เม่ือส่วนหน่ึงเปลี่ยนแปลง ส่วนท่ีเหลือก็ต้องปรับตัวตามไปด้วยดังที่กล่าวแล้ว จึง
เปน็ ผลใหว้ ฒั นธรรมทเี่ ปน็ องคร์ วมตอ้ งเปลยี่ นตามไปดว้ ย… ฉะนนั้ จงึ อาจกลา่ วโวหารถงึ ทสี่ ดุ ไดว้ า่ ไมม่ วี ฒั นธรรม
ใดท่เี ราหมายรู้ไดจ้ ริงเลย เพราะวัฒนธรรมย่อมอยูใ่ นสภาวะอนจิ จงั เสมอ …

                                                                     (นิธิ เอยี วศรวี งศ์, 2547: 6)
       จากทไี่ ดก้ ลา่ วมาขา้ งตน้ จะเหน็ ไดว้ า่ “วฒั นธรรม” มคี วามหมายทหี่ ลากหลายแตกตา่ งไปตามมมุ
มองแนวคดิ ของผใู้ หค้ ำ� นยิ าม มกี ารเปลย่ี นแปลงในดา้ นความหมายและการขยายขอบเขตของคำ� ตามบรบิ ท
ทเ่ี ปลยี่ นแปลง อยา่ งไรกด็ ลี กั ษณะสำ� คญั บางประการของวฒั นธรรมกค็ อื เปน็ สง่ิ ทม่ี นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ มพี น้ื ฐาน
จากสญั ลกั ษณ์ เปน็ ความคดิ รว่ ม เปน็ พฤตกิ รรมทม่ี นษุ ยเ์ รยี นรู้ มผี ลตอ่ พฤตกิ รรมและการแปลความหมาย
พฤตกิ รรมของมนุษย์ เป็นสง่ิ ท่ีถา่ ยทอดเป็นมรดกของสงั คม และมีลักษณะเปน็ พลวัต
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26