Page 29 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 29

การป​ ระยุกต์​ใช้​ผลก​ าร​วิจัย​ทางน​ ิเทศศาสตร์ 14-19

       (4)		การ​ประเมิน​ผล (Evaluating) การ​ประเมิน​ผล​งานการ​ประชาสัมพันธ์​นั้น แม้​เป็น​ขั้น​ตอน​สุดท้าย แต่​
ก็​เป็น​ขั้น​ตอน​ที่​สำ�คัญ​สำ�หรับ​การ​เริ่ม​ต้น​ใน​การ​ดำ�เนิน​งาน​ประชาสัมพันธ์​ครั้ง​ต่อ​ไป การ​วิจัย​ถูก​ใช้​เป็น​เครื่อง​มือ​ใน​
การ​ประเมิน​ประสิทธิภาพ​และ​ประสิทธิผล​ของ​การ​ดำ�เนิน​งาน​ประชาสัมพันธ์ เป็น​ขั้น​ที่​จะ​ตรวจ​สอบ​ว่าการ​ดำ�เนิน​การ​
ตั้งแต่ก​ ารว​ างแผน สื่อท​ ีใ่​ช้ ตลอดจ​ นก​ ารส​ ื่อสารท​ ีเ่​กิดข​ ึ้นใ​นก​ ารป​ ระชาสัมพันธ์น​ ั้น บรรลุผ​ ลต​ ามว​ ัตถุประสงค์ท​ ีไ่​ดต้​ ั้งไ​ว​้
หรือไ​มเ่​พียงใ​ด ควรป​ รับปรุงแ​ ก้ไขใ​นป​ ระเด็นใ​ดบ​ ้าง ทั้งนีผ้​ ลท​ ีไ่​ดจ้​ ากก​ ารป​ ระเมินจ​ ะไ​ดน้​ ำ�​ไปเ​ป็นข​ ้อมูลเ​บื้องต​ ้นส​ ำ�หรับ
ก​ ารด​ ำ�เนิน​การ​ประชาสัมพันธ์​ในค​ รั้งต​ ่อ​ไป

2.	 ความ​ส�ำ คัญข​ องก​ ารว​ ิจัย​เพ่ือก​ าร​ประชาสัมพันธ์

       พรท​ ิพย์ พิมลส​ ินธุ์ (2545) ได้อ​ ธิบายถ​ ึง​ความ​สำ�คัญ​ของก​ ารว​ ิจัย​เพื่อ​การป​ ระชาสัมพันธ์ ไว้​ดังนี้
       (1)	การ​วิจัย​ทำ�ให้​ผู้​บริหาร​หรือ​นัก​ประชาสัมพันธ์​สามารถ​กำ�หนด​นโยบาย​  วัตถุประสงค์​และ​เป้า​หมาย​การ​
ประชาสัมพันธ์ไ​ด้อ​ ย่าง​เหมาะส​ มแ​ ละ​สอดคล้อง​กับส​ ภาพค​ วาม​เป็นจ​ ริง
       (2)	 การ​วิจัย​ทำ�ให้​นัก​ประชาสัมพันธ์​ได้​ทราบ​ถึง​ประสบการณ์​ใน​อดีต​ของ​การ​ดำ�เนิน​งาน​ประชาสัมพันธ์​ของ​
หน่วย​งานข​ องต​ นเอง​และ​สถาบันอ​ ื่น เพื่อใ​ช้​เป็น​กลยุทธ์​และ​กลวิธี​ใน​การว​ างแผนด​ ำ�เนินก​ ารป​ ระชาสัมพันธ์​ต่อ​ไป
       (3)	การว​ ิจัย​ทำ�ให้น​ ักป​ ระชาสัมพันธ์​ได้​ทราบ​สถานการณ์​และ​ภาพ​ลักษณ์​ปัจจุบัน​ของส​ ถาบัน​ได้อ​ ย่างถ​ ูก​ต้อง​
ชัดเจน สามารถท​ ราบร​ ายล​ ะเอียดท​ ั้งค​ วามล​ ุ่มล​ ึกแ​ ละค​ วามก​ ว้าง ตลอดจ​ นค​ าดก​ ารณ์เ​หตุการณ์ใ​นอ​ นาคตไ​ด้ใ​กล้เ​คียง​
ความ​เป็นจ​ ริง​หรือ​มี​ข้อผ​ ิด​พลาด​น้อยท​ ี่สุด
       (4)	 การ​วิจัย​เป็นการ​แสวงหา​ข้อมูล​อย่าง​เป็น​ระบบ​ที่​เอื้อ​ต่อ​การ​เรียน​รู้​เข้าใจ​ใน​สภาพ​ของ​ทรัพยากร​มนุษย์
งบ​ประมาณ วัสดุอ​ ุปกรณ์ การ​จัดการ​และก​ าร​บริหาร ตลอด​จน​นโยบายท​ ี่เ​กี่ยวข้องก​ ับส​ ถาบัน
       (5)	การ​วิจัยช​ ่วยใ​ห้น​ ัก​ประชาสัมพันธ์ม​ ีข​ ้อมูลท​ ี่ล​ ึก​ซึ้ง​เกี่ยวก​ ับส​ ื่อท​ ี่จ​ ะ​นำ�​มาใ​ช้​ประชาสัมพันธ์ ทั้ง​สื่อท​ ี่ส​ ถาบัน​
สามารถจ​ ัดการผ​ ลิตเ​องไ​ด้​และ​สื่อมวลชน
       (6)	การว​ จิ ยั ท​ �ำ ใหน​้ กั ป​ ระชาสมั พนั ธไ​์ ดร​้ ูจ้ กั ป​ ระชาชนก​ ลุม่ เ​ปา้ ห​ มายไ​ดอ​้ ยา่ งถ​ กู ต​ อ้ ง รดั กมุ ทัง้ พ​ ืน้ ค​ วามร​ ู้ ความ​
รู้สึกน​ ึกคิด และพ​ ฤติกรรม​ที่ม​ ี​ต่อส​ ถาบัน ตลอดจ​ น​พฤติกรรม​การ​สื่อสาร
       (7)	การ​วิจัย​ทำ�ให้​นัก​ประชาสัมพันธ์​มี​ความ​รู้​ความ​เข้าใจ​ใน​เรื่อง​ปฏิทิน​เวลา​ต่าง ๆ ได้​อย่าง​กว้าง​ขวาง ซึ่ง​
ช่วย​ในก​ าร​วางแผนแ​ ละ​ตัดสินใ​จ​จัด​ทำ�​กิจกรรมต​ ่าง ๆ ให้สอดคล้องก​ ับ​โอกาสแ​ ละ​วาระ​ต่าง ๆ ได้อ​ ย่างเ​หมาะ​สม
       (8)	การ​วิจัยส​ ามารถเ​สนอ​กิจกรรม​ต่าง ๆ ทางด​ ้าน​ประชาสัมพันธ์ พร้อมท​ ั้งเ​หตุผล​และจ​ ัด​ลำ�ดับค​ วาม​สำ�คัญ​
เพือ่ ป​ ระโยชนใ​์ นก​ ารต​ ดั สนิ ใ​จเ​ลอื กก​ จิ กรรมไ​ดอ​้ ยา่ งถ​ กู ต​ อ้ งเ​หมาะส​ มก​ บั ส​ ภาพป​ จั จบุ นั แ​ ละม​ ป​ี ระโยชนต​์ อ่ ก​ ารเ​สรมิ ส​ รา้ ง
รักษาแ​ ละแ​ ก้ไข​ภาพล​ ักษณ์
       (9)	การว​ จิ ยั ส​ ามารถส​ ง่ เ​สรมิ ใ​หก้ ารด​ �ำ เนนิ ง​ านป​ ระชาสมั พนั ธเ​์ ปน็ การส​ ือ่ สารส​ องท​ าง ไป-กลบั ไ​ดส​้ มบรู ณย​์ ิง่ ข​ ึน้
เพราะก​ ารว​ ิจัยแ​ บบ​เป็น​ทางการแ​ ละไ​ม่​เป็น​ทางการแ​ ฝงไ​ปด​ ้วย​การ​รับ​ฟังค​ วาม​คิดเ​ห็นข​ องป​ ระชาชน​กลุ่มเ​ป้าห​ มาย
       (10)		การ​วิจัย​สามารถ​ให้​ข้อมูล ข้อ​เท็จ​จริง และ​วิทยาการ​ใหม่ ๆ ซึ่ง​ถือว่า​เป็นการ​เปิด​โลก​ทัศน์​ให้​กว้าง​ไกล
ที่เป็น​สิ่งจ​ ำ�เป็น​อย่างย​ ิ่ง​สำ�หรับ​นักป​ ระชาสัมพันธ์ท​ ี่ด​ ี
       (11)		การ​วิจัย​ประเมินผ​ ลส​ ามารถ​ใช้​เป็นก​ระ​จก​สะท้อน​การ​ดำ�เนิน​การป​ ระชาสัมพันธ์​ใน​ช่วงเ​วลา​ต่าง ๆ และ​
เป็นการว​ ัดป​ ระเมินผ​ ลก​ ิจกรรมใ​ดโ​ดยเ​ฉพาะก​ ็ได้ ประโยชน์ท​ ีไ่​ดร้​ ับน​ ั้นจ​ ะท​ ำ�ใหน้​ ักป​ ระชาสัมพันธ์ไ​ดร้​ ู้จักต​ ัวเ​องม​ ากข​ ึ้น
เพื่อท​ ี่​จะไ​ด้พ​ ัฒนาต​ นเองแ​ ละ​งาน​ประชาสัมพันธ์ใ​ห้​ดี​ยิ่งข​ ึ้น​ต่อ​ไป
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34