Page 41 - ประวัติศาสตร์ไทย
P. 41
อาณาจกั รอยธุ ยา 4-31
ตำ� แหนง่ อยา่ งไรกต็ าม แมว้ า่ พวกขนุ นางจะมอี ำ� นาจเพมิ่ มากขน้ึ แตก่ ย็ งั ไมถ่ งึ ขดี สงู สดุ เพราะระบบราชการ
ที่จัดต้ังใหม่นี้ยังมีเอกภาพและความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ ต้องใช้กาลเวลาอีกระยะหน่ึงในการเสริมสร้าง
สิ่งเหลา่ น้ี
แมว้ า่ การปฏริ ปู การปกครองครง้ั นจี้ ะถกู พวกเจา้ นายบางพระองคต์ อ่ ตา้ นบา้ ง แตใ่ นทสี่ ดุ กป็ ระสบ
ความส�ำเรจ็ สามารถจดั การปกครองตามรูปแบบทไี่ ด้ปรบั ปรุงขึน้ ใหม่
3. การปรับปรุงการปกครองหลังเสียกรุงศรีอยุธยาและสมัยอยุธยาตอนปลาย
รูปแบบการปกครองที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงวางรากฐานไว้นี้ เม่ือใช้มาถึงสมัยสมเด็จ
พระนเรศวรมหาราช ก็ได้มีการเปล่ียนแปลงการปกครองหวั เมอื งจากรูปแบบเดิมเลก็ น้อย ก่อนการปฏิรูป
การปกครอง พวกเจ้านายเปน็ ผ้ปู กครองหัวเมืองตา่ งๆ หลังการปฏริ ปู การปกครอง พวกขนุ นางไดเ้ ข้ามา
มบี ทบาทแทน อยา่ งไรกต็ ามการสง่ เจา้ นายไปปกครองหวั เมอื งยงั มอี ยบู่ า้ ง โดยจะสง่ ไปเปน็ เจา้ เมอื งเฉพาะ
หัวเมอื งช้ันนอกท่ีส�ำคญั และอยหู่ ่างไกลจากราชธานี เจ้านายองค์สำ� คัญที่สุดจะไปปกครองเมืองพษิ ณโุ ลก
เพือ่ คุมหัวเมอื งฝา่ ยเหนอื
ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรไดม้ กี ารปรบั ปรงุ การปกครองยกเลกิ การสง่ เจา้ นายบางพระองคไ์ ป
ปกครองหัวเมืองช้ันนอกที่ส�ำคัญ ให้บรรดาเจ้านายประทับในเมืองหลวง และให้ขุนนางเป็นผู้รับผิดชอบ
การปกครองหวั เมอื งทั้งหมด
การท่ีสมเด็จพระนเรศวรทรงปรับปรุงการปกครองหัวเมืองน้ันเป็นเพราะว่า ระหว่างสงครามเสีย
กรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 เจ้าเมืองพิษณุโลก คือ พระมหาธรรมราชา ได้ไปเข้าข้างพม่า ท�ำให้สมเด็จ-
พระนเรศวรทรงตระหนักว่า การให้เจ้านายปกครองหัวเมืองชั้นนอกที่ส�ำคัญโดยมีอ�ำนาจมากเกินไปน้ัน
เป็นอันตรายต่อความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันของอาณาจักร จึงทรงยกเลิกการส่งเจ้านายไปครองเมือง
การปรบั ปรงุ การปกครองครง้ั นที้ ำ� ใหอ้ ำ� นาจของชนชนั้ เจา้ นายลดนอ้ ยลงยงิ่ กวา่ เดมิ ขณะทอี่ ำ� นาจของชนชนั้
ขนุ นางทวคี วามกลา้ แข็งขน้ึ ระบบราชการจึงพลอยมีความแข็งแกร่งมากขึ้นดว้ ย
ความเปลย่ี นแปลงทเี่ กดิ ขนึ้ ในระบบราชการทำ� ใหอ้ ำ� นาจของพวกขนุ นางซง่ึ เรม่ิ เพมิ่ มากขนึ้ ตง้ั แต่
หลงั การปฏิรูปการปกครองใน พ.ศ. 1998 ไดท้ วีมากยิง่ ขน้ึ ถึงขดี สูงสุด จนขนุ นางผู้ใหญท่ า่ นหน่งึ สามารถ
ต้งั ตนเปน็ กษตั รยิ ไ์ ดใ้ น พ.ศ. 2172 ขนุ นางผนู้ ั้นคือ เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ ผซู้ ึง่ ได้แยง่ ชงิ ราชสมบัติ
จากพระอาทิตย์วงศ์ เยาวกษัตริย์แห่งราชวงศ์สุโขทัยแล้วตั้งตนเองเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า สมเด็จ
พระเจา้ ปราสาททอง (พ.ศ. 2172–2199) ราชวงศป์ ราสาททองครองอำ� นาจอยรู่ ะหวา่ งชว่ ง พ.ศ. 2172–2231
ด้วยเหตุน้ี ในรัชสมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199–2231) และรัชกาลตอ่ ๆ มา จงึ แก้
ปัญหาด้วยการต้ังกรมให้พวกเจ้านายดูแล เป็นกรมที่ไม่มีหน้าที่ในการบริหารงานราชการ มีหน้าที่เพียง
ควบคมุ กำ� ลงั คนเทา่ นนั้ เราเรยี กกรมพวกนว้ี า่ “กรมเจ้า” การทใ่ี หพ้ วกเจา้ นายคมุ แรงงานคนนน้ั เพราะใน
สมัยก่อนก�ำลังคนเป็นแหล่งท่ีมาของอ�ำนาจทางการเมืองและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ การตั้งกรมเจ้า
จึงท�ำให้พวกเจ้ากลับมามีอ�ำนาจทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง