Page 51 - ประวัติศาสตร์ไทย
P. 51
อาณาจักรอยธุ ยา 4-41
อย่างไรก็ตาม ในช่วงอยุธยาตอนปลายอาจเป็นรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองหรือสมเด็จ-
พระเพทราชา ไดม้ กี ารเปลย่ี นแปลงใหส้ มหุ พระกลาโหมบงั คบั บญั ชากจิ การทง้ั ฝา่ ยทหารและฝา่ ยพลเรอื น
ในหวั เมอื งฝา่ ยใต้ และสมหุ นายกควบคมุ หวั เมอื งฝา่ ยเหนอื โดยมอี ำ� นาจบงั คบั บญั ชาทงั้ ดา้ นการทหารและ
การพลเรือน หวั เมืองตา่ งๆ จงึ สง่ บญั ชที ะเบียนไพรพ่ ลทัง้ ฝ่ายทหารและฝา่ ยพลเรือนแกส่ มหุ พระกลาโหม
และสมหุ นายก ขน้ึ อยกู่ ับวา่ หัวเมอื งนั้นสังกัดอย่ฝู า่ ยใต้หรือฝา่ ยเหนอื
แมว้ า่ จะมีการแบง่ เปน็ ไพรห่ ลวงฝา่ ยทหารและฝา่ ยพลเรือน แตเ่ วลาท่ีเกิดศกึ สงครามไพร่ท้งั สอง
ฝ่ายจะถูกเกณฑ์ไปรบเหมือนๆ กนั
ก�ำลังคนที่สังกัดอยู่ในกรมกองและหัวเมืองต่างๆ นอกจากจะให้ประโยชน์แก่รัฐเรื่องการท�ำงาน
โยธา ปราบปรามโจรผู้รา้ ย อยู่เวรรักษาความสงบในเมอื ง และเป็นกองกำ� ลังในยามศึกสงครามแลว้ ยังให้
ประโยชนด์ า้ นเศรษฐกจิ ดว้ ย พวกไพรเ่ ปน็ แรงงานสำ� คญั ในการผลติ อาหารเลย้ี งผคู้ นในอาณาจกั ร เกบ็ ของปา่
ทม่ี คี า่ และผลติ สง่ิ ของอนื่ ๆ ทพ่ี อ่ คา้ ตา่ งชาตติ อ้ งการในกจิ การคา้ สำ� เภาของรฐั และของมลู นาย นอกจากนนั้
พวกไพรย่ งั รับภาระเสยี ภาษีใหร้ ฐั เช่น อากรคา่ นา ค่าธรรมเนียมต่างๆ
การควบคุมก�ำลังคนและการจัดเก็บผลประโยชน์เหล่านี้จะด�ำเนินการเป็นล�ำดับข้ันจากไพร่ผ่าน
มลู นายระดับล่าง ขึน้ มายงั มลู นายระดบั สูง จนถึงพระมหากษัตรยิ ์ มูลนายจึงเปน็ คนกลางทเ่ี ช่ือมโยงการ
ตดิ ตอ่ ระหวา่ งพระมหากษตั รยิ ก์ บั พวกไพร่ แรงงานไพรน่ อกจากจะสรา้ งความมง่ั คงั่ แกอ่ าณาจกั ร ยงั ใหผ้ ล
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่มูลนายด้วย มูลนายจะได้ของก�ำนัลต่างๆ จากไพร่ ได้ใช้แรงงานไพร่ท�ำงาน
ส่วนตัว ผลิตพืชผลและส่ิงของต่างๆ นอกจากน้ันแรงงานไพร่ยังใช้เป็นฐานอ�ำนาจทางการเมืองและเป็น
เครอ่ื งแสดงสถานะทางสังคมของมูลนายดว้ ย
ดังนั้น ระบบบริหารราชการสมัยอยุธยาจึงอาศัยระบบไพร่เป็นพ้ืนฐาน การบริหารงานจะด�ำเนิน
ไปราบร่ืนหรอื ไมข่ ้นึ อยูก่ ับความสมั พันธร์ ะหวา่ งมูลนายกับไพรใ่ นสงั กัด ส่วนระเบยี บภายในบ้านเมืองนนั้
ขึ้นอยู่กับพระปรีชาสามารถขององค์พระมหากษัตริย์ในการควบคุมแจกจ่ายก�ำลังไพร่พล และการถ่วงดุล
อำ� นาจของพวกเจ้านายและขุนนาง
4. ความสัมพันธ์ระหว่างมูลนายกับไพร่
คำ� วา่ “มลู นาย” หรอื “นาย” หมายถงึ เจา้ นายและขนุ นางทมี่ หี นา้ ทคี่ วบคมุ กำ� ลงั คนหรอื แรงงาน
ไพร่ มูลนายและไพร่มีความสัมพนั ธก์ ันในลักษณะความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ เป็นความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง
คน 2 คนที่มิใช่ญาติและมีฐานะไม่เท่าเทียมกัน ฝ่ายที่อยู่เหนือกว่าคือ มูลนาย จะอยู่ในฐานะผู้อุปถัมภ์
และฝ่ายท่ีอยู่ตํ่ากว่าคือ ไพร่จะเป็นผู้อยู่ใต้อุปถัมภ์ ทั้งสองฝ่ายจะมีความผูกพันกันเป็นส่วนตัวและมีการ
แสวงหาแลกเปลยี่ นผลประโยชนก์ นั โดยมลู นายจะใหป้ ระโยชนใ์ นเรอ่ื งความคมุ้ ครองแกไ่ พร่ ขณะเดยี วกนั
ไพร่กจ็ ะให้ผลประโยชนแ์ กม่ ูลนายในรูปของความจงรกั ภกั ดี แรงงาน และของกำ� นลั
ภายใตค้ วามสมั พนั ธแ์ บบอปุ ถมั ภ์ มลู นายและไพรต่ า่ งกม็ หี นา้ ทท่ี จ่ี ะตอ้ งปฏบิ ตั ติ อ่ กนั หนา้ ทขี่ อง
มลู นายมหี ลายประการตงั้ แตค่ วบคมุ การยา้ ยถน่ิ ทอ่ี ยขู่ องไพร่ มลู นายตอ้ งคอยดแู ลใหไ้ พรต่ ง้ั หลกั แหลง่ อยู่
ในภูมิล�ำเนาเดิมของตน และคอยควบคุมไม่ให้หลบหนีไปซุ่มซ่อนอยู่ตามป่าเขา เมื่อทางการเรียกเกณฑ์
แรงงานมา ไมว่ า่ จะไปทำ� งานโยธาหรอื ไปราชการสงคราม มลู นายจะตอ้ งสง่ จำ� นวนไพรใ่ หร้ ฐั อยา่ งครบถว้ น