Page 49 - ประวัติศาสตร์ไทย
P. 49

อาณาจักรอยธุ ยา 4-39
ตามศักดินา โดยปกติแล้ว ไพร่ส่วนใหญ่ท่ีอยู่ในความควบคุมของขุนนางจะเป็นไพร่หลวง ส่วนไพร่สม
จะมจี �ำนวนนอ้ ย

       การปฏิรูปการปกครองของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้แบ่งงานราชการเป็นฝ่ายทหารภายใต้
การบังคับบัญชาของสมุหพระกลาโหม และฝ่ายพลเรือนภายใต้การบังคับบัญชาของสมุหนายก กรม
ขนุ นางจึงแบ่งเป็นกรมฝา่ ยทหารพวกหนึง่ และกรมฝา่ ยพลเรอื นอีกพวกหนง่ึ และไพร่ทั้งอาณาจักรไดแ้ บง่
เปน็ ไพร่ฝ่ายทหารและไพรฝ่ า่ ยพลเรือนดว้ ย ขุนนางสำ� คัญในแต่ละกรมจะประกอบดว้ ยเจา้ กรม ปลดั กรม
และสมหุ บ์ ญั ชี ถัดจากนนั้ เปน็ ขุนนางระดับกลางและระดบั ลา่ งท่ีท�ำหนา้ ทช่ี ่วยเจ้ากรมควบคุมไพร่และช่วย
ราชการอืน่ ๆ

       การควบคมุ แรงงานไพรใ่ นแตล่ ะกรมจะมกี ารควบคมุ เปน็ ล�ำดบั ขนั้ จากเจา้ กรม นายกอง นายหมวด
ลงมาถงึ เจา้ หมู่ เจา้ หมจู่ งึ เปน็ มลู นายระดบั ลา่ งสุดและอยใู่ กล้ชดิ ไพรม่ ากท่สี ุดด้วย แตล่ ะกรมจะตอ้ งจดั ท�ำ
บญั ชรี ายชอ่ื และทอ่ี ยขู่ องไพรห่ ลวงทส่ี งั กัดกรมของตน และสมหุ บ์ ญั ชีจะเปน็ ผดู้ แู ลเกบ็ รายชอ่ื นซ้ี ง่ึ เรยี กวา่
“บญั ชหี างวา่ ว” บญั ชหี างวา่ วนเี้ มอื่ ผา่ นไปหลายๆ ปี กจ็ ะมกี ารชำ� ระแกไ้ ขกนั ครง้ั หนง่ึ สมยั อยธุ ยาตอนปลาย
จะช�ำระบญั ชหี างว่าว 10 ปีตอ่ ครง้ั

       สนั นษิ ฐานวา่ สมหุ บ์ ญั ชแี ตล่ ะกรมคงจะท�ำบญั ชหี างวา่ วของกรมตนไว้ 3 ชดุ ชดุ หนง่ึ เกบ็ ไวท้ กี่ รม
อีกชุดหนึ่งส่งให้สมุหพระกลาโหมหรือสมุหนายกขึ้นอยู่กับว่าเป็นกรมฝ่ายทหารหรือฝ่ายพลเรือน ส่วน
ชุดสุดท้ายส่งให้ กรมสุรัสวดี (กรมสัสดี) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางท่ีท�ำหน้าท่ีควบคุมและประสานงานกับ
กรมต่างๆ ในเรอื่ งทะเบยี นไพรพ่ ล การเกณฑไ์ พร่ การตดั สนิ กรณีพิพาทระหวา่ งกรมเก่ียวกบั จำ� นวนไพร่
และการแก่งแย่งไพร่ กรมสุรัสวดีมีพระราชสุภาวดีเป็นเจ้ากรม พระราชสุภาวดีจึงเป็นประดุจสมุห์บัญชี
ใหญ่ ควบคุมดูแลบัญชีไพร่พลท่ัวทั้งราชอาณาจักร สันนิษฐานว่ากรมสุรัสวดีคงจะต้ังขึ้นในสมัยสมเด็จ-
พระรามาธิบดที ี่ 2 (พ.ศ. 2034–2072) และข้ึนโดยตรงตอ่ องค์พระมหากษัตริย์

       จากรูปแบบการควบคุมก�ำลังคนที่ได้บรรยายมาจะเห็นได้ว่า พระมหากษัตริย์ได้ทรงมอบหมาย
อ�ำนาจในการควบคุมไพรห่ ลวงแก่ขุนนางกรมต่างๆ และในฐานะมูลนายสูงสดุ พระองค์ไดท้ รงรวมอำ� นาจ
การควบคมุ ทไี่ ดแ้ บง่ ปนั ออกไปนนั้ มาอยทู่ พ่ี ระองค์ โดยมกี รมสรุ สั วดซี งึ่ ขน้ึ ตรงตอ่ พระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ กลไก
ช่วยรวมอ�ำนาจการควบคุม อยา่ งไรกต็ ามนี่เปน็ เพยี งทฤษฎี ในทางปฏบิ ัติ สมุหพระกลาโหม สมุหนายก
และเจา้ กรมตา่ งๆ ไมย่ อมใหก้ รมสรุ สั วดเี ขา้ ไปท�ำหนา้ ทเี่ กยี่ วกบั ไพรใ่ นสงั กดั กรมของตน อำ� นาจและหนา้ ที่
ของกรมสุรัสวดีจึงไม่มีมากมายดังท่ีก�ำหนดไว้ กรมสุรัสวดีรู้แต่บัญชีไพร่ แต่มักไม่มีอ�ำนาจบังคับบัญชา
อำ� นาจในการควบคุมบงั คบั บัญชาไพรอ่ ยา่ งแทจ้ รงิ มกั ตกอยู่กับสมุหพระกลาโหมและสมหุ นายก

       กรมขุนนางต่างๆ น้ีเม่ือต�ำแหน่งเจ้ากรมว่างลง ด้วยเหตุที่คนเดิมย้ายต�ำแหน่งหรือถึงแก่กรรม
พระมหากษตั รยิ จ์ ะทรงแตง่ ตงั้ ขนุ นางคนอน่ื มาดำ� รงตำ� แหนง่ เจา้ กรมแทน ขนุ นางและไพรพ่ ลในกรมนนั้ จะ
ยังสังกดั อยกู่ บั กรมเดิม และอยู่ใตบ้ ังคบั บญั ชาของเจา้ กรมคนใหม่ตอ่ ไป

       3.2	 กรมเจ้า เป็นกรมท่ีพระมหากษัตริย์ทรงตั้งข้ึนเพื่อให้เจ้านายเป็นผู้บังคับบัญชา เป็นกรม
ท่ีไม่มีหน้าท่ีบริหารงานราชการ มีหน้าท่ีเฉพาะการควบคุมก�ำลังคนไว้จ�ำนวนหน่ึง และท�ำงานตามท่ี
พระมหากษัตริย์มีพระบรมราชโองการให้ท�ำ  เช่น ไปราชการสงคราม สร้างหรือบูรณะปฏิสังขรณ์วัดวา-
อารามตา่ งๆ กรมของเจา้ นายเปน็ กรมชวั่ คราว ตง้ั อยไู่ ดน้ านเทา่ พระชนมายเุ จา้ นายพระองคน์ นั้ หรอื นาน
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54