Page 40 - ความรู้เบื้องต้นการสื่อสารชุมชน
P. 40

6-30 ความรเู้ บอื้ งต้นการสือ่ สารชุมชน
ศตวรรษท่ี 19 เป็นต้นมา ท่แี นวคิดเสรนี ิยมและปจั เจกชนมีอิทธิพลจนลดทอนความสำ� คญั ของชุมชนและ
สังคมลง

       ธเนศวร์ เจริญเมือง (2551) กล่าวถึงความหมายของ “พลเมอื ง” อยู่ 4 ประเดน็ คือ
       ประการแรก ว่าด้วยการเป็นสมาชิกของรัฐ หรือชุมชนการเมือง โดยพลเมืองเป็นค�ำท่ีผูกติดอยู่
กบั การเปน็ สมาชกิ ชมุ ชนการเมอื งหรอื รฐั ทสี่ มาชกิ เขา้ มาอยรู่ วมกนั และมกี ารใชอ้ ำ� นาจในการตดั สนิ ใจและ
บรหิ ารจดั การบางอยา่ งรว่ มกนั ความเปน็ พลเมอื งคอื การเขา้ รว่ มเปน็ สว่ นหนงึ่ ในชมุ ชนการเมอื ง (Citizen-
ship is participation in the affair of polis) ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า หากไม่มีพลเมืองก็จะไม่มีชุมชน
การเมอื งหรือมรี ฐั
       ประการทส่ี อง วา่ ดว้ ยการมสี ว่ นรว่ มในกจิ การสาธารณะ เพราะพลเมอื งถกู กำ� หนดใหม้ สี ทิ ธิ (Right)
และความรบั ผิดชอบ (Obligations) มสี ิทธทิ ่ีจะก�ำหนดนโยบายตา่ งๆ เพือ่ พัฒนาชมุ ชนของตน รวมถึง
พร้อมใจกันแก้ไขส่ิงที่เคยตกลงกันแล้วโดยมีฉันทามติรองรับ การเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจการสาธารณะ
จึงต้องวางบทบาทให้สมดุล มีท้ังสิทธิและหน้าท่ีรวมถึงความรับผิดชอบอย่างสมดุล ใช้ท้ังสิทธิ ท�ำหน้าที่
อย่างสมบรู ณ์
       ประการทสี่ าม พลเมอื งทดี่ จี ะตอ้ งมคี วามปรารถนาในการจะเปน็ พลเมอื งอนั สมบรู ณ์ เปน็ พลเมอื ง
ทเ่ี อาการเอางาน (Active citizen) ซง่ึ ประเดน็ นห้ี าไดเ้ กดิ ขนึ้ เองโดยอตั โนมตั ิ แตจ่ ะตอ้ งผา่ นกระบวนการ
ปลูกฝงั และใหก้ ารศึกษา
       ประการทสี่ ี่ พลเมอื งทส่ี มบรู ณ์ จะตอ้ งเขา้ ใจบทบาทและวธิ กี ารในฐานะผปู้ กครองและผถู้ กู ปกครอง
เขา้ ใจการเปลย่ี นผลดั เปลีย่ น การเรียนรกู้ ารมสี ว่ นรว่ ม การตดั สนิ ใจร่วมกัน
       ธเนศวร์ อธิบายด้วยว่า ค�ำวา่ พลเมอื งนัน้ มกี ารพฒั นาและเปลี่ยนแปลงมาอยา่ งมพี ลวตั ต้งั แตย่ ุค
กรีกโบราณ มากระทั่งชว่ งการขยายตัวของชนชั้นกลางในศตวรรษท่ี 16 - 18 ในยุโรป ตอ่ เน่อื งมาจนถึง
ยคุ โลกาภวิ ตั น์ ทแ่ี นวคดิ เรอ่ื งความเปน็ พลเมอื งยงั คงมคี วามส�ำคญั ในยคุ ทม่ี กั กลา่ วถงึ สทิ ธใิ นการก�ำหนด
ใจตนเอง (Self determination) รวมถึงแนวคดิ สทิ ธิมนษุ ยชน ที่เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นพลเมืองใน
ปัจจบุ นั

ลักษณะส�ำคัญของ “การเมืองภาคพลเมือง”

       ณรงค์ บุญสวยขวัญ (น. 39–55, เร่ืองเดียวกนั ) วเิ คราะหว์ ่า การเมอื งแบบใหมเ่ ชน่ น้ี มคี วาม
แตกต่างจากการเมอื งในอดีตอย่างไร โดยสรปุ ลกั ษณะทีส่ �ำคัญๆ ไว้ 4 ประการ ดงั น้ี

       1)	 มีตัวแสดงทางการเมือง (Political Actor) ในสนามและพื้นทก่ี ารเมืองแบบใหม่ๆ รวมถึงใน
กระบวนการทางการเมอื ง ทที่ ำ� ใหป้ ระชาชนทกุ กลมุ่ สามารถเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มอยา่ งเสมอภาคและเทา่ เทยี มกนั

       2)	 บทบาทในการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมือง มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่จะต้อง
เป็นหนา้ ทข่ี องการเมืองแบบตวั แทนหรือสมาชิกรฐั สภา ได้ถูกเปลยี่ นมาสู่กลมุ่ ทางสงั คมทีเ่ ขา้ สู่ปญั หาและ
ผลประโยชน์ของกลมุ่ คนที่เฉพาะเจาะจงมากข้นึ
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45