Page 19 - การศึกษาชุมชนเพื่อการวิจัยและพัฒนา
P. 19
การศกึ ษาและวเิ คราะหช์ มุ ชนเพือ่ การวจิ ยั การส่อื สารชมุ ชน 3-9
กนั กจ็ ะพบวา่ ชมุ ชนยอ่ มมศี กั ยภาพในการแกไ้ ขปญั หา เพยี งแตเ่ ราอาจละเลยหรอื มองขา้ มไป หรอื แนวทาง
การแกไ้ ขปญั หาอาจจะหมดหรอื ลดลงไป หากเปน็ กรณหี ลงั นกั พฒั นากจ็ ำ� เปน็ ตอ้ งเสรมิ เตมิ ศกั ยภาพเพม่ิ ขนึ้
ดังนั้น เมื่อจะลงไปชุมชน จ�ำเป็นต้องศึกษาวิเคราะห์ชุมชนให้รอบด้านอย่างเข้าใจมิใช่การด่วน
ตดั สนิ ชมุ ชนในเชงิ ลบ แตเ่ ปน็ การพจิ ารณาอยา่ งละเอยี ดเพอื่ หาคำ� อธบิ ายวา่ “ทำ� ไม” การกระทำ� ของชมุ ชน
นน้ั มมี ลู เหตุ ความหมายแฝงอยา่ งไร รวมถงึ ชมุ ชนมแี นวทางการดำ� เนนิ การ แกไ้ ขปญั หาทผี่ า่ นมาอยา่ งไร
กาญจนา แก้วเทพ (2538, น. 43) เสนอวา่ การท�ำงานของนักพฒั นาด้วยแนวทางเชิงบวกจะทำ� ใหเ้ วลา
ทำ� งานกจ็ ะเลอื กจดุ เดน่ หรอื ศกั ยภาพของชมุ ชนมากกวา่ จะมองดา้ นลบ แลว้ คอ่ ยๆ เสรมิ ศกั ยภาพเพอื่ ชว่ ย
แก้ไขปัญหาทเ่ี กิดข้ึน
3. การวิเคราะห์คุณลักษณะ
การวเิ คราะหค์ ณุ ลกั ษณะ (attribute analysis) เปน็ การวเิ คราะหล์ กั ษณะของสง่ิ ทศี่ กึ ษา โดยเนน้
การแยกแยะลักษณะหรือองค์ประกอบที่กลายเป็นสิ่งนั้น ย่ิงสามารถจ�ำแนกแยกแยะได้ละเอียดก็จะเข้าใจ
ธรรมชาติของสงิ่ น้ันได้อยา่ งเด่นชดั น�ำไปสู่การเห็นความสมั พนั ธ์ การควบคมุ และการเปล่ยี นแปลงได้ใน
ทสี่ ดุ (กาญจนา แกว้ เทพ, 2548) การวเิ คราะหค์ ณุ ลกั ษณะจะเปน็ พน้ื ฐานของการวเิ คราะหท์ กุ อยา่ ง เพราะ
จะเนน้ การแยกแยะองคป์ ระกอบ
หากนำ� แนวคดิ การวเิ คราะหค์ ณุ ลกั ษณะมาวเิ คราะหล์ กั ษณะของชมุ ชนกจ็ ะพบวา่ หากเปน็ ชมุ ชน
ชนบท กจ็ ะมลี กั ษณะความสมั พนั ธแ์ บบเครอื ญาติ มคี วามผกู พนั เชงิ สายใย ปฏบิ ตั ติ ามธรรมเนยี มประเพณี
สถาบันวัดมีความส�ำคัญเพ่ือรวมจิตใจ ใช้การส่ือสารผ่านส่ือบุคคล ส่ือประเพณี หากวิเคราะห์คุณลักษณ์
ของชุมชนเมืองก็จะพบแง่มุมที่ต่างกัน คือ มีความผูกพันอย่างหลวมๆ แต่ก็มีการแบ่งหน้าที่การท�ำงาน
อยา่ งชัดเจน ยึดกฎกติกา การใช้การสื่อสารมักจะเปน็ ลายลักษณ์อักษร สอ่ื มวลชน และสำ� หรบั ชุมชนใน
ออนไลน์ กจ็ ะพบวา่ เปน็ ชุมชนทไี่ มม่ พี ้ืนท่ีทางกายภาพเหมือนกบั ชมุ ชนเมืองและชนบท แตจ่ ะมลี กั ษณะ
ความสมั พนั ธก์ นั ในโลกเสมอื น อาจไมเ่ คยพบหนา้ คา่ ตากนั แตส่ นใจในประเดน็ รว่ มกนั อยา่ งไรกต็ ามบางคน
หลงั จากสอื่ สารกนั ในโลกออนไลน์ กจ็ ะขยบั ไปสกู่ ารพบกนั ในโลกจรงิ แตบ่ างคนกอ็ าจแฝงตวั ในโลกออนไลน์
และสวมหนา้ กากแห่งการหลอกลวง การสอื่ สารจะใช้สือ่ ใหม่ คอื อินเทอร์เนต็ เป็นสำ� คญั
การวเิ คราะหค์ ณุ ลกั ษณะจงึ เปน็ การวเิ คราะหเ์ บอ้ื งตน้ ทำ� ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในสงิ่ ตา่ งๆ และยงิ่ เขา้ ใจ
กส็ ามารถเหน็ ความสัมพันธแ์ ละนำ� ไปสกู่ ารควบคมุ และบริหารจัดการต่อไปได้
4. การวิเคราะห์เชิงประวัติศาสตร์
การวเิ คราะหเ์ ชงิ ประวตั ศิ าสตรอ์ ยบู่ นพนื้ ฐานความคดิ ทว่ี า่ ชมุ ชนยอ่ มมกี ารเปลยี่ นแปลงไมห่ ยดุ นง่ิ
ดังน้ัน เพื่อจะเข้าใจจ�ำเป็นต้องย้อนดูมิติเชิงประวัติศาสตร์เพื่อจะแสดงให้เห็นถึงอดีตที่ผ่านมามีอะไรที่
เปลย่ี นแปลง อะไรทม่ี คี วามตอ่ เนอื่ ง และปจั จยั ใดทที่ ำ� ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงและตอ่ เนอ่ื ง (กาญจนา แกว้ เทพ,
2538, น. 202) รวมถงึ การคน้ ไปในเชงิ ประวัติศาสตรก์ จ็ ะท�ำใหเ้ ห็นสภาพของทนุ ของชุมชน การด�ำรงอยู่
ของชมุ ชนในอดีต ซง่ึ จะเปน็ เสมือนพลังในการต่อสกู้ บั ปัญหาตา่ งๆ ในปัจจบุ ัน