Page 35 - การบริหารจัดการและกลยุทธ์ การสื่อสารชุมชน
P. 35
การบริหารจดั การและกลยทุ ธ์การสื่อสารเพือ่ การจดั การความรูใ้ นชุมชน 5-25
แบบเผชิญหน้าและการสื่อสารโดยผ่านสื่อกลาง การสื่อสารแบบเผชิญหน้า เช่น การประชุมอย่างเป็น
ทางการ การพูดคุยรวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ เป็นต้น มีข้อได้เปรียบตรงท่ีสามารถตีความข้อมูล
ทำ� ความเขา้ ใจขอ้ มลู ไดง้ า่ ย และสมาชกิ สามารถซกั ถามเพอื่ ความชดั เจนของขอ้ มลู ไดง้ า่ ย แตม่ ขี อ้ จำ� กดั ใน
แงข่ องระยะทาง เนอ่ื งจากการสอื่ สารแบบเผชญิ หนา้ สมาชกิ จำ� เปน็ ตอ้ งเดนิ ทางเพอื่ มาพบปะกนั ในสถานท่ี
ใดท่ีหน่ึง ในขณะท่ีการถ่ายทอดความรู้โดยผ่านสื่อกลางจะเอาชนะข้อจ�ำกัดนี้ได้ เช่น การสื่อสารผ่าน
เทคโนโลยตี า่ งๆ เชน่ อนิ เทอรเ์ นต็ ซงึ่ สมาชกิ ของชมุ ชนไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเดนิ ทางมาอยใู่ นสถานทเ่ี ดยี วกนั เพอื่
ถ่ายทอดความรู้ ทำ� ใหป้ ระหยัดเวลาและค่าใชจ้ ่ายในการเดินทาง
การเลือกใช้รูปแบบและช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมเป็นสิ่งส�ำคัญท่ีจะให้การถ่ายทอดความรู้
อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การเลอื กชอ่ งทางการสอ่ื สารเพอื่ ถา่ ยทอดความรคู้ วรคำ� นงึ ตวั แปรทสี่ ำ� คญั สองประการ
ได้แก่ ลักษณะของความรูท้ จ่ี ะถา่ ยทอด และบรบิ ทของการถา่ ยทอดความรู้ การถ่ายทอดความรูจ้ ะประสบ
ความสำ� เรจ็ หากคำ� นงึ ถงึ ลกั ษณะของความรทู้ จ่ี ะถา่ ยทอด เชน่ การสอื่ สารแบบเผชญิ หนา้ จะเออื้ ใหเ้ กดิ การ
ถา่ ยทอดความรแู้ บบซอ่ นเรน้ ไดม้ ากกวา่ การสอื่ สารโดยผา่ นเทคโนโลยี เชน่ การสง่ จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
(e-mail) ในขณะเดียวกันการสื่อสารโดยการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์มีจุดเด่นท่ีความสะดวก รวดเร็ว
ประหยดั คา่ ใชจ้ ่าย แตเ่ หมาะกบั การถ่ายทอดความรู้แบบชดั แจง้ ตวั แปรทส่ี �ำคัญอีกประการทค่ี วรคำ� นงึ ถึง
ในการถา่ ยทอดความรู้ ได้แก่ บริบทของการถา่ ยทอดความรู้ ซงึ่ บริบทของการถ่ายทอดความรู้ของแตล่ ะ
ชมุ ชนอาจจะแตกตา่ งกนั ออกไป เชน่ ชมุ ชนทส่ี มาชกิ เขา้ ถงึ อนิ เทอรเ์ นต็ ไดง้ า่ ย อาจจะมที างเลอื กอน่ื ๆ นอก
เหนอื จากการสื่อสารแบบเผชิญหน้าในการถ่ายทอดความรู้ เชน่ การประชุมผ่านทางวดิ โี อคอนเฟอร์เรนซ์
หรือผ่านทางโปรแกรมสไกพ์ เปน็ ตน้
ขั้นตอนที่ 4 การน�ำความรู้ไปใช้
กระบวนการแลกเปล่ียนเรียนรู้จะสมบูรณ์เม่ือความรู้ที่สร้างขึ้นถูกน�ำไปใช้ประโยชน์เพื่อตัดสินใจ
แก้ไขปัญหา หรือเพ่ือสร้างประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ เม่ือความรู้ถูกสร้างข้ึนแล้ว ข้ันตอนสุดท้ายใน
กระบวนการจัดการความรูก้ ็คือ การนำ� ความรไู้ ปใช้ โดยสมาชกิ ของชุมชนสามารถนำ� ความรู้แบบซ่อนเร้น
ซง่ึ พฒั นามาเป็นความรแู้ บบชดั แจง้ ไปใช้ประโยชนใ์ นสถานการณต์ ่างๆ ทงั้ นก้ี ระบวนการจัดการความรจู้ ะ
เกิดขึ้นและหมุนวนเป็นวัฏจักรต่อเน่ืองไป การน�ำความรู้ไปใช้ยังรวมถึงการจัดเก็บความรู้ที่ถูกสร้างขึ้นใน
กระบวนการจดั การความรู้
วิธีการจัดการความรู้ในบริบทสังคมไทย
การจัดการความรู้ในสังคมไทยเน้นการพูดคุยปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก อาจเริ่มจากการท�ำ
กิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่มขนาดเล็ก ซ่ึงเอ้ือให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ท้ังนี้วิจารณ์ พานิช
(2547) ได้เสนอวิธกี ารจัดการความรูห้ ลักไว้ 2 วิธีคือ
1. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในชุมชนนักปฏิบัติ หรืออาจเรียกว่าชุมชนแห่งการเรียนรู้ มกั เรยี ก
ยอ่ ๆ วา่ CoP (Community of Practice) เป็นเครอ่ื งมือทสี่ ำ� คญั อย่างหน่ึงในกระบวนการจดั การความรู้
ชมุ ชนนกั ปฏบิ ัติเปน็ กลุ่มทีร่ วบรวมสมาชกิ ท่มี คี วามสนใจในเรื่องเดียวกนั มารว่ มแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ด�ำเนิน
กิจกรรมต่างๆ ร่วมกันเพ่ือแลกเปล่ียนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เพ่ือร่วมกันสร้างองค์ความรู้ใหม่