Page 28 - ความเป็นครู
P. 28
6-18 ความเป็นครู
1) รู้เป้าหมายท่ีชัดเจน เมื่อสมาชิกรู้เป้าหมายการท�ำงานย่อมสามารถรวมพลังไปสู่เป้าหมายท่ี
ต้องการได้
2) มีความคิดร่วมกันระหว่างสมาชิกในทีมว่าส่ิงท่ีต้องท�ำคืออะไร และจะท�ำอย่างไร
3) แบง่ หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ สมาชกิ ตอ้ งไดท้ ราบภาระหนา้ ทขี่ องตนและสมาชกิ คนอนื่ เพอ่ื ปอ้ งกนั
ความซ้ําซ้อน
4) ยอมรับกติกาการเป็นผู้น�ำและผู้ตาม และจะต้องสามารถเป็นได้ท้ังผู้น�ำและผู้ตามท่ีดี
5) ร่วมกันแสวงหาหนทางสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งหากต้องการความเป็นเลิศทุกคนต้องร่วมกันคิดให้
มากกว่าปกติว่าจะท�ำอย่างไรจึงจะพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศได้
จะเห็นได้ว่าเม่ือทุกคนในทีมมีเป้าหมายร่วมกัน คิดและวางแผนร่วมกัน แบ่งหน้าท่ีความรับผิดชอบ
และปฏบิ ตั ติ นตามบทบาททไ่ี ดร้ บั มอบหมายอยา่ งดที ส่ี ดุ จะทำ� ใหง้ านประสบความสำ� เรจ็ และเปน็ วธิ กี ารทำ� งาน
ที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากจะทราบวิธีการท�ำงานเป็นทีมท่ีมีประสิทธิภาพแล้ว ควรจะทราบปัจจัยท่ีสนับสนุนเพ่ือให้
เกิดส่ิงที่กล่าวถึงด้วย กาญจนา ใจกว้าง (2547, น. 66–69) กล่าวถึงปัจจัยท่ีสนับสนุนการท�ำงานเป็นทีมให้
เกิดประสิทธิภาพ สรุปได้ดังนี้
1) วัตถุประสงค์ท่ีชัดเจนและมีเป้าหมายการท�ำงานที่สอดคล้องกัน
2) ผู้น�ำต้องมีคุณสมบัติ บทบาท และการแสดงออกที่เหมาะสม นอกจากน้ันยังต้องเข้าใจและ
สามารถด�ำเนินการ ดังนี้
(1) ท�ำตามบทบาทและหน้าที่ ได้แก่ การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับสมาชิก ขจัดความขัดแย้ง
เป็นผู้ประสานงาน มีความคิดริเริ่ม มองการณ์ไกล มีความยืดหยุ่น รับฟังสมาชิกทุกคนและให้สมาชิกมี
ส่วนร่วมในการตัดสินใจตามลักษณะงานและจ�ำนวนสมาชิก
(2) สร้างบรรยากาศในการท�ำงาน โดยควรสร้างบรรยากาศให้สมาชิกมีความเปิดเผย จริงใจ
ตระหนักในเป้าหมายของทีม ช่วยเหลือกัน มีขวัญและก�ำลังใจในการท�ำงานสูง มีความเช่ือถือและเคารพซึ่ง
กันและกัน
3) สมาชิก จะต้องมีบทบาทรับผิดชอบในทีมงานอย่างชัดเจน ยอมรับกติกาของการมีผู้น�ำทีม และ
ตระหนักถึงการมีส่วนร่วม ความเสมอภาพหรือความสมดุลของอ�ำนาจ การพัฒนาบุคคล และสัมพันธภาพ
ในกลุ่มสมาชิก ทั้งสัมพันธภาพระหว่างสมาชิกกับสมาชิก และสมาชิกกับผู้น�ำ
4) เคร่ืองมือท่ีใช้ในการท�ำงาน ได้แก่ การสื่อสาร เพ่ือให้เข้าใจจุดมุ่งหมายของงาน เพื่อตัดสินใจ
ร่วมกัน และส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจระหว่างหน่วยงาน โดยวิธีสื่อสารที่ใช้อาจใช้การส่ือสารจากบนลงล่าง
หรือจากล่างข้ึนบนและวิธีอื่น ๆ ตามความเหมาะสม การจัดการความขัดแย้ง ทีมงานจะต้องมีกระบวนการ
จัดการกับความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างการท�ำงาน จะต้องมีโครงสร้างการท�ำงานที่เหมาะสม
ประกอบด้วย ผู้น�ำและสมาชิก มีการแบ่งบทบาทหน้าที่ตามความสามารถ ความรู้ และประสบการณ์ สมาชิก
ในทีมต้องรับรู้ เข้าใจบทบาท สถานภาพของแต่ละคน และโครงสร้างการท�ำงานอย่างดี และมาตรฐานและ
การตรวจสอบ ควรมีการก�ำหนดมาตรฐานของทีมงานเพ่ือให้ได้ผลงานตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายตาม