Page 33 - ความเป็นครู
P. 33
มนุษยสัมพันธ์และการท�ำงานเป็นทีม 6-23
3) ให้ความสนิทสนม
4) ไม่ใช้อารมณ์และอ�ำนาจ ไม่ข่มขู่ศิษย์ ไม่ขี้บ่น
5) ไม่ล�ำเอียง
6) ให้ก�ำลังใจ
7) ขยันดูแลเอาใจใส่ศิษย์ ทั้งการสอนและอบรมจริยธรรม
8) ท�ำตนให้ศิษย์ศรัทธา
9) สอนหลักประชาธิปไตยให้ศิษย์ ส่งเสริมให้มีเหตุผลและรู้วิธีแก้ปัญหา
10) ส่งเสริมให้ศิษย์ก้าวหน้า และประสบความส�ำเร็จในชีวิต
11) ควรหาเวลารู้จักกับผู้ปกครองของศิษย์
เริงชัย หมื่นชนะ (2535, น. 78-79) กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน 2 ประเภท คือ
ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ ในลักษณะท่ีครูมีความรับผิดชอบต่อนักเรียนโดยตรง ย่อมมีความสัมพันธ์
กันอย่างใกล้ชิด มีอ�ำนาจบังคับบัญชานักเรียนในห้องเรียนท้ังด้านการเรียน ความคิด การแสดงออก ความ
ประพฤติ กิริยามารยาท การแต่งกาย และทุกส่ิงทุกอย่างท่ีนักเรียนแสดงออก ความสัมพันธ์อีกลักษณะหนึ่ง
คือ ความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการ ซ่ึงอาจเป็นไปได้หลายทางนอกจากในฐานะครูกับศิษย์ในห้องแล้ว
อาจมคี วามสนทิ สนมกนั ในดา้ นอน่ื ๆ เชน่ ทำ� หนา้ ทร่ี บั ฟงั นกั เรยี นปรบั ทกุ ขแ์ ละไปเยย่ี มครอบครวั ของนกั เรยี น
และยังกล่าวถึงการสร้างมนุษยสัมพันธ์ของครูกับนักเรียนว่า ครูกับนักเรียนจะติดต่อสัมพันธ์กันด้วย
การสอน ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียว ครูควรลดบทบาทของตนในห้องเรียนโดยพยายามให้ผู้เรียนมีโอกาส
แสดงความคิดเห็น นอกจากน้ียังควรแสดงออกซึ่งพฤติกรรมท้ังทางอ้อมและทางตรง ดังนี้
พฤติกรรมทางอ้อม ได้แก่
1) ยอมรับความรู้สึกของผู้เรียนทั้งทางวาจาและการกระท�ำ
2) ให้ค�ำชม และให้ก�ำลังใจการกระท�ำหรือการแสดงออกของผู้เรียน
3) ยอมรับหรือน�ำความคิดเห็นของผู้เรียนมาปรับปรุงการสอนของตน
4) ถามนักเรียนเก่ียวกับเนื้อหาวิชาเพ่ือให้นักเรียนตอบ
5) สนใจนักเรียน ช่วยเหลือเม่ือผู้เรียนมีปัญหาด้วยความเห็นใจ ส่งเสริมให้ปฏิบัติตนเป็น
พลเมืองดี ขยัน เรียนดี และช่วยเหลือตนเองได้
พฤติกรรมทางตรง ได้แก่
1) บรรยายเนื้อหาวิชา
2) ให้แนวทางออกค�ำส่ังหรือแนะแนวเพ่ือให้ผู้เรียนปฏิบัติตาม
3) ใหอ้ ำ� นาจวา่ กลา่ วหรอื วจิ ารณก์ ารกระทำ� ของผเู้ รยี น เพอื่ ใชเ้ ปลย่ี นพฤตกิ รรมไปในแนวทาง
ท่ีพึงประสงค์
โดยสรุปจะเห็นได้ว่าครูมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้เรียนอย่างยิ่ง และการมีแนวทางใน
การสร้างมนุษยสัมพันธ์ท่ีดีกับผู้เรียน ดังน้ี