Page 51 - การวิจัยทางการวัดและประเมินผลการศึกษา
P. 51
6-41
2. ธรรมชาติของเจตพิสัยแตกต่างจากคุณลักษณะภายในอื่น ๆ 5 ประการ คือ 1) เป็นพฤติกรรม
ที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกหรืออารมณ์ การแสดงออกอาจเปลี่ยนแปลงตามเงื่อนไขหรือสถานการณ์ 2) เป็น
คุณลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล บุคคลอาจมีความรู้สึกเหมือนกัน แต่มีพฤติกรรมแสดงออกแตก
ต่างกัน 3) เป็นคุณลักษณะที่มีทิศทางได้สองทาง ทิศทางบวกจะเป็นที่พึงปรารถนามากกว่าทิศทางลบ 4)
เป็นคุณลักษณะที่มีระดับความมากน้อย และ 5) เป็นคุณลักษณะที่มีเป้าหมาย อาจจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ
เหตุการณ์ หรือสภาวะใด ๆ
แนวตอบกจิ กรรม 6.1.2
1. วิธีการวัดด้านเจตพิสัยที่จำ�แนกประเภทตามวิธีการเก็บข้อมูล ได้แก่
1) การสังเกต การวัดโดยครูสังเกตการปฏิบัติตนของผู้เรียน
2) การใช้มาตรประมาณค่า เป็นการวัดเจตพิสัยที่มีระดับความเข้มของความรู้สึก
3) การซักถาม/สัมภาษณ์ เป็นการที่พูดคุยซักถามกับผู้เรียนโดยตรง
4) การใชแ้ บบวดั สถานการณ์ เปน็ การนำ�เอาเรอ่ื งราวปญั หาเชงิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มากระตนุ้
ให้ผู้ตอบแสดงความรู้สึกออกมา เป็นการวัดในเชิงแนวโน้มของพฤติกรรมทางจริยธรรม
5) การวดั จากโครงงาน พอรต์ ฟอลโิ อ แบบฝกึ หดั เปน็ วธิ กี ารวดั รว่ มกบั การวดั สมรรถภาพอน่ื
6) เทคนิคด้านจิตวิเคราะห์ เป็นการวัดเจตคติโดยการให้สร้างจินตนาการจากภาพ กระตุ้น
ให้บุคคลนั้นแสดงความคิดเห็นออกมา ได้แก่ เทคนิคการฉายออก
2. ข้อดีและข้อจำ�กัดของเครื่องมือวัดเจตพิสัยมีรายละเอียด ดังนี้
เครอ่ื งมือวัด ข้อดี ขอ้ จ�ำ กัด
1. แบบบันทึกการสังเกต ได้เห็นข้อมูลที่ตรงความเป็นจริง ใช้เวลามาก
เหมาะกับการวัดในชั้นเรียน
2. แบบวัดมาตร ตัง้ คำ�ถามมากขอ้ หากผูต้ อบอยูก่ ระจาย คำ�ตอบอาจไม่ตรงประเด็นที่ต้องการ
ประมาณค่า
ในพื้นที่ต่าง ๆ วิธีนี้สะดวกกว่าวิธีอื่น ได้รับคืนจำ�นวนน้อย และผู้ตอบอาจ
ค่าใช้จ่ายตํ่า ไม่ใช่ผู้ที่ต้องการให้ตอบ
3. แบบสัมภาษณ์ ได้ข้อมูลลึกซึ้งและละเอียดขึ้น ใช้เวลามากและค่าใช้จ่ายมาก
ในมุมมองที่กว้างขวางกว่าการให้ตอบ
แบบสอบถาม
4. แบบสังคมมิติ ได้ข้อมูลที่เป็นจริงจากผู้ตอบหลายคน ผู้ตอบต้องไว้วางใจและเชื่อมั่นว่าไม่มี
ที่รู้จักคุ้นเคย การเปิดเผยความลับ
5. แบบวัดสถานการณ์ สะท้อนถึงผลที่ได้รับจากการสอน การ เป็นการวัดความสามารถทางสมอง
อบรม คะแนนจากแบบทดสอบปรนัย ไม่ครอบคลุมความสามารถด้านอื่น
ไม่มีอคติจากการตรวจให้คะแนน