Page 29 - การวิจัยเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
P. 29
การวิจัยพรรณนาและการวิจัยทดลองเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา 2-19
2. ลักษณะของการวิจยั ประวตั ิศาสตรเ์ ทคโนโลยีและสอ่ื สารการศึกษา
การวิจัยประวัติศาสตร์เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาเป็นการวิจัยที่มีรูปแบบที่เป็นระบบระเบียบ
มุ่งหาข้อความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือปรากฏการณ์ในอดีตที่เกี่ยวกับประเด็นด้านเทคโนโลยีและสื่อสาร
การศึกษา ลักษณะของข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยประวัติศาสตร์จะได้ข้อมูลมาจาก 2 แหล่ง คือ แหล่งปฐมภูมิ
และแหล่งทุติยภูมิ ดังนี้
2.1 ข้อมูลจากแหล่งปฐมภูมิ (Primary Source) คือ ข้อมูลที่ดีที่สุดที่นำ�มาใช้ในการวิจัย
ประวัติศาสตร์ทางด้านเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา เพราะเป็นข้อมูลที่มีความเที่ยงสูง ซึ่งได้แก่ เรื่องราว
ตา่ ง ๆ ทเี่ ปน็ ประจกั ษพ์ ยานทแี่ ทจ้ รงิ หรอื ผวู้ จิ ยั ไดเ้ หน็ หรอื ไดย้ นิ เรอื่ งราวเหลา่ นนั้ ดว้ ยตนเอง รวมทงั้ ยงั หมายถงึ
สื่อ วัสดุ ที่มีอยู่ในอดีตที่สามารถให้ผู้วิจัยสามารถศึกษาได้โดยตรง ข้อมูลจากแหล่งปฐมภูมิ สามารถแบ่ง
ได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่
2.1.1 เอกสาร (Documents) หมายถึง เอกสารที่ได้รวบรวมบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตที่
มีความเกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา เพื่อเป็นหลักฐาน ได้แก่ เอกสาร หนังสือ จุลสาร
ใบลาน จดหมาย เป็นต้น
2.1.2 ซากหรือสิ่งที่เหลือจากอดีต (Remains) หมายถึง สิ่งที่เป็นหลักฐานแสดงถึงความ
เกี่ยวพันกับเหตุการณ์ในอดีตที่ยังคงหลงเหลือแสดงให้เห็นอยู่ถึงปัจจุบัน ซากหรือสิ่งที่เหลือจากอดีตที่มี
ความเกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ได้แก่ อาคาร พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ หอสมุด
ภาพถ่าย ภาพวาด แผนภาพ ภาพยนตร์ หนังสือพิมพ์ สไลด์ เทปบันทึกเสียง แผ่นเสียง ตลอดจนสื่อวัสดุ
ต่าง ๆ ที่สามารถสื่อข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้น ๆ
2.1.3 หลักฐานทางคำ�พูด หรือคำ�สัมภาษณ์ (Oral Testimony) หมายถึง ข้อมูลที่ได้จากการ
บอกเลา่ ของผูท้ ีอ่ ยูใ่ นเหตกุ ารณ์ อาจมกี ารบนั ทกึ อยูใ่ นรปู ของเทปบนั ทกึ เสยี ง นทิ าน คติ เพลง หรอื การแสดง
พื้นบ้าน
2.2 ข้อมูลจากแหล่งทุติยภูมิ (Secondary Source) คือ แหล่งข้อมูลที่ผู้วิจัยไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน
ไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้น ๆ โดยตรง แต่ได้รับการบอกเล่าจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาอีกต่อหนึ่ง ข้อมูล
จากแหล่งทุติยภูมิจะมีความน่าเชื่อถือ หรือความถูกต้องของข้อมูลลดลง ถ้ามีระยะห่างจากการบอกเล่าจาก
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาอีกหลาย ๆ ต่อ ข้อมูลจากแหล่งทุติยภูมิ มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือน้อยกว่าข้อมูล
จากแหล่งปฐมภูมิ ดังนั้นหากผู้วิจัยจะดำ�เนินการวิจัยประวัติศาสตร์ทางด้านเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
แล้วใช้ข้อมูลจากแหล่งทุติยภูมิ ควรตระหนักว่าหลักฐานที่ได้มาจากแหล่งนี้มักจะมีคุณค่าจำ�กัด ข้อมูลอาจ
มีความคลาดเคลื่อนมากเนื่องจากการได้มีการเล่าต่อ ๆ กันมาหลายทอด
โดยสรุป ลักษณะของข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยประวัติศาสตร์จะได้ข้อมูลมาจาก 2 แหล่ง คือ แหล่ง
ปฐมภมู ิ อนั ไดแ้ ก่ เอกสาร ซากหรอื สง่ิ ทเ่ี หลอื จากอดตี หลกั ฐานทางค�ำ พดู หรอื ค�ำ สมั ภาษณ์ และ แหลง่ ทตุ ยิ ภมู ิ
คือ แหล่งข้อมูลที่ผู้วิจัยไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้น ๆ โดยตรง แต่ได้รับการบอกเล่า
จากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาอีกต่อหนึ่ง