Page 30 - การวิจัยเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
P. 30
2-20 การวิจัยเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
3. ขน้ั ตอนของการวจิ ัยประวตั ิศาสตรเ์ ทคโนโลยีและสอื่ สารการศกึ ษา
การวิจัยประวัติศาสตร์เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา เป็นการศึกษาเพื่อค้นหาสิ่งว่าสิ่งที่ผ่าน
มาแล้วเป็นอย่างไร การวิจัยรูปแบบนี้มีข้อเสียเปรียบเมื่อเทียบกับการวิจัยในรูปแบบอื่น ๆ เนื่องจากไม่
สามารถควบคุมตัวแปร หรือไม่สามารถทำ�การทดลองซํ้าได้ แต่การวิจัยประวัติศาสตร์มีรูปแบบการวิจัยที่
ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรเ์ พอ่ื จะท�ำ ใหข้ อ้ เทจ็ จรงิ ในอดตี เปน็ ทเ่ี ชอ่ื มน่ั ได้ โดยมขี น้ั ตอนในการวจิ ยั 7 ขน้ั ตอน
ได้แก่ (1) เลือกและกำ�หนดปัญหาการวิจัย (2) รวบรวมหลักฐานและข้อมูล (3) วิพากษ์คุณภาพของข้อมูล
(4) สังเคราะห์ข้อมูล (5) วิเคราะห์ข้อมูล (6) แปลผลการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผลการวิจัย และ (7) เขียน
รายงานโดยมีรายละเอียด ดังนี้
3.1 เลือกและกำ�หนดปัญหาการวิจัย ขั้นตอนการวิจัยประวัติศาสตร์เริ่มด้วยการเลือกและกำ�หนด
ปัญหาการวิจัยเช่นเดียวกันกับการวิจัยทั่ว ๆ ไป ปัญหาการวิจัยอาจจะตั้งเป็นคำ�ถาม หรือสมมติฐาน โดย
หากตั้งเป็นคำ�ถามจะต้องชัดเจนได้ใจความผู้วิจัยต้องตรวจสอบว่าปัญหานั้นมีความเป็นไปได้ที่จะทำ�การ
วิจัยได้หรือไม่ สำ�หรับการตั้งสมมติฐานในการวิจัยประวัติศาสตร์ไม่นิยมตั้งในเชิงสถิติ แต่จะตั้งในลักษณะ
ของสาเหตุ หรือผลของสถานการณ์
3.2 รวบรวมหลักฐานและข้อมูล ผู้วิจัยต้องศึกษาหัวข้อปัญหาวิจัยและพิจารณาดูว่าต้องการข้อมูล
ใดบ้าง ดังได้กล่าวมาแล้วว่าแหล่งข้อมูลในทางประวัติศาสตร์จะได้ข้อมูลมาจาก 2 แหล่ง คือ แหล่งปฐมภูมิ
และแหล่งทุติยภูมิ ดังนั้นผู้วิจัยจึงควรพยายามรวบรวมจากแหล่งปฐมภูมิให้ได้ก่อนเพราะเป็นข้อมูลที่มี
ระดับความน่าเชื่อถือมากกว่าข้อมูลจากแหล่งทุติยภูมิ
3.3 วิพากษ์คุณภาพของข้อมูล เนื่องจากการวิจัยประวัติศาสตร์เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก
เหตุการณ์ในอดีต ผู้วิจัยไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้น ๆ โดยตรง แต่ได้รับการบอก
เล่าจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาอีกต่อหนึ่ง ผู้วิจัยไม่ควรสรุปทันว่าข้อมูลที่ได้สามารถใช้เป็นหลักฐานที่
ถูกต้องได้ทันที ผู้วิจัยควรนำ�ข้อมูลนั้นมาตรวจสอบก่อนว่าข้อมูลนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ใน
การวิจัยประวัตินั้นต้องมีการวิพากษ์คุณภาพของข้อมูล โดยแบ่งเป็น 2 แบบ คือ การวิพากษ์คุณภาพของ
ข้อมูลภายนอก และการวิพากษ์คุณภาพของข้อมูลภายใน
3.3.1 การวพิ ากษ์คณุ ภาพของข้อมูลภายนอก (External criticism) เป็นการพิจารณาวา่ ขอ้ มูล
หรือหลักฐานที่ได้นั้นเป็นของจริงหรือไม่ โดยพิจารณาว่าหลักฐานนั้นผลิตขึ้นที่ใด เมื่อใด และใครเป็นผู้ผลิต
การวิพากษ์วิจารณ์ภายนอกในการวิจัยประวัติศาสตร์เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา อาจใช้วิธีทดสอบ
ทางเคมีในการตรวจสอบหมึกจากกระดาษ ใบลาน และแผ่นหนังที่ใช้เขียน เพื่อตรวจสอบหาอายุว่าอยู่ใน
ช่วงเวลาที่ได้ศึกษาข้อมูลนั้นจริงหรือไม่ หรือตลอดจนตรวจสอบอายุของวัสดุหรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
สื่อต่าง ๆ ก็ได้
3.3.2 การวิพากษ์คุณภาพของข้อมูลภายใน (Internal criticism) เป็นการพิจารณาหลังจากที่
ได้ทำ�การวิพากษ์วิจารณ์ภายนอกแล้วเป็นการตรวจสอบลักษณะภายในของข้อมูลโดยตรงเป็นการพิจารณา
ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ได้แก่ พิจารณาว่าผู้เขียนมีจุดมุ่งหมายอย่างไรในการเขียน มีความรอบรู้และ