Page 26 - ไทยศึกษา
P. 26

๕-16 ไทยศกึ ษา
ต้องส่งไพร่ไปขึ้นศาลเมื่อไพร่ในสังกัดมีคดี หรือให้ความช่วยเหลือเม่ือไพร่เป็นโจทก์ย่ืนฟ้องร้องคดีความ
ในศาล ตลอดจนใหค้ วามอนุเคราะห์ในด้านอน่ื ๆ แกไ่ พร่ของตนดว้ ย

       สว่ น พวกไพร่ กม็ พี นั ธะหนา้ ทต่ี อ้ งทำ� งานโยธาหรอื ทำ� ราชการสงครามตามคำ� สงั่ ของมลู นาย ตอ้ ง
ใหค้ วามเคารพเชอ่ื ฟงั ความจงรกั ภกั ดี ใหข้ องกำ� นลั และมอบแรงงานของตนชว่ ยทำ� งานสว่ นตวั ใหม้ ลู นาย
ไพรท่ กุ คนตอ้ งขนึ้ สงั กดั มมี ลู นาย มฉิ ะนน้ั จะไมไ่ ดร้ บั ความคมุ้ ครองจากรฐั เชน่ ไพรจ่ ะฟอ้ งรอ้ งคดตี อ่ ศาลได้
กต็ อ้ งใหม้ ลู นายดำ� เนนิ การให้ จะรอ้ งทกุ ขต์ อ่ หลวงกต็ อ้ งผา่ นมลู นาย และไพรท่ มี่ สี งั กดั จงึ จะขอจดทะเบยี น
เพื่อเอาโฉนดท่ีดินท�ำกินที่หักร้างถางพงได้ ด้วยเหตุนี้ หากไม่มีนาย ไพร่ก็ไม่สามารถจะอยู่ได้เลย ไพร่
ตอ้ งพ่ึงพานาย และจะยึดมั่นในตวั นายของตน

       เมื่อหันมาพินิจความสัมพันธ์ระหว่าง พระมหากษัตริย์และมูลนาย ก็จะอยู่ในลักษณะท่ีว่า
พระมหากษตั รยิ พ์ ระราชทานความอปุ ถมั ภแ์ กเ่ จา้ นายและขนุ นางดว้ ยการพระราชทานตำ� แหนง่ ยศฐาบรรดาศกั ด์ิ
และศักดินาแก่พวกเจ้านายและขุนนาง ทรงเลื่อนยศ เลื่อนต�ำแหน่ง และเพิ่มศักดินาแก่เจ้านายขุนนาง
ผกู้ ระทำ� ความดคี วามชอบ ในขณะเดยี วกนั กท็ รงลดขน้ั ลดศกั ดนิ าของเจา้ นายขนุ นางผกู้ ระทำ� ความผดิ ดว้ ย
เหตนุ พ้ี วกเจา้ นายและขนุ นางจงึ ตอ้ งมงุ่ ความสนใจไปอยทู่ อ่ี งคพ์ ระมหากษตั รยิ ์ ผทู้ รงเปน็ มลู นายสงู สดุ และ
เป็นเจา้ ชวี ิตท่จี ะก�ำหนดอนาคตของพวกตน (ศภุ รัตน์ เลิศพาณชิ ยก์ ุล, ๒๕๔๓, น. ๑๐๑-๑๐๘)

       สว่ นคณะสงฆน์ นั้ อยนู่ อกระบบไพร่ แตท่ ำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ คนกลางชว่ ยเชอื่ มโยงกลมุ่ คนตา่ งๆ ในสงั คม
เข้าด้วยกัน รวมทั้งมีบทบาทส�ำคัญในการช่วยจรรโลงให้สังคมจารีตของไทย ซ่ึงประกอบด้วยพระมหา-
กษัตรยิ ์ เจา้ นาย ขุนนาง ไพร่ ทาส ดำ� รงอยู่อยา่ งม่นั คงและมเี อกภาพ สว่ นพวกชนกลมุ่ นอ้ ยนั้นยกเว้น
พวกชาวจีนอพยพตา่ งกถ็ กู ควบคมุ อยภู่ ายใตร้ ะบบไพร่ทง้ั สิน้

       จากที่ได้บรรยายมา จะเห็นได้ว่า ระบบไพร่มีความส�ำคัญยิ่งต่อสังคมไทยในสมัยจารีต เป็นท้ัง
พื้นฐานอ�ำนาจทางการเมือง พ้ืนฐานการบริหารราชการจัดเก็บผลประโยชน์ของอาณาจักร และเกี่ยวพัน
กับเศรษฐกจิ ในการสร้างผลผลติ ตา่ งๆ ใหร้ ัฐ รวมทั้งการควบคมุ ปัจจยั การผลติ ด้านแรงงาน นอกจากนน้ั
ยังเก่ียวพันกับความม่ันคงของอาณาจักรในฐานะก�ำลังพลในกองทัพ และแนบเน่ืองกับระบบศักดินาใน
การก�ำหนดสถานะ หนา้ ท่ี ตลอดจนความรับผดิ ชอบของชนชน้ั ตา่ งๆ ในสังคมไทยสมัยจารตี

       วรรณกรรมหลายเรื่องในสมัยรัตนโกสินทร์ได้แทรกข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องไพร่ไว้ด้วย จึงตัดตอนมา
ใหน้ กั ศึกษาไดอ้ า่ นสารสนเทศทนี่ ่าสนใจนี้

“ฆราวาสนชี้ าตมิ ันชั่วนกั 	    จะสกึ ไปใหเ้ ขาสกั เอง็ หรอื หวา
ข้อมอื ด�ำแล้วระก�ำทุกเวลา	     โพลก่ ับบา่ แบกกันจนบรรลยั
ถา้ มลู นายรักมงั่ จะยังชว่ั 	  เอ็นดตู วั หาให้ทำ� การหนักไม่
แม้นชังก็จะใช้ใหเ้ จบ็ ใจ	      เล่อื ยไมล้ ากซงุ สารพา”

(เจา้ อาวาสวดั แค เมอื งสพุ รรณ พดู กบั พลายแกว้ เมอ่ื พลายแกว้ ขอลาสกิ ขา จาก ขุนช้างขุนแผน น. ๑๓๐)
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31