Page 20 - สื่อศึกษา
P. 20
6-10 ส่ือศกึ ษา
theory) ก็จะพบว่า ผู้รับสารเองก็ยังหนีไม่พ้นอ�ำนาจที่ก�ำหนดมา เพียงแต่ว่า เกิดการปะทะสังสรรค์ต่อ
อ�ำนาจได้อย่างไร
การมองผรู้ บั สารมอี ำ� นาจนนั้ สว่ นหนง่ึ ยงั เปน็ ผลมาจากการเตบิ โตของเทคโนโลยกี ารสอื่ สารสมยั
ใหม่ โดยเฉพาะอนิ เทอรเ์ นต็ ในชว่ งทศวรรษที่ 1990 เป็นต้นมา ซูลิแวน (Sullivan, 2013) ชี้ว่า ในยุคนี้
ผู้รับสารสามารถก้าวมามีส่วนร่วมในสื่ออย่างสูง ทั้งในการแสดงความคิดเห็น ให้คะแนนกับเน้ือหาสื่อที่
ผลติ มา เชน่ การลงคะแนนโหวตผ้เู ขา้ รว่ มแข่งขันในรายการโทรทัศน์ เพราะมีความงา่ ยไมย่ ุ่งยากซับซอ้ น
อันน�ำไปสู่สังคมการมีสว่ นร่วม (participatory culture) อกี ทัง้ พฤตกิ รรมของผรู้ บั สารในยุคน้ียงั เคลื่อน
ตวั ไปสกู่ ารสำ� รวจตรวจสอบสภาพรอบกาย (lateral surveillance) เชน่ เพื่อน ครอบครวั ครู่ ัก ซ่ึงหนา้ ท่ี
นีใ้ นอดีตการสำ� รวจตรวจสอบมักจะเป็นหนา้ ท่ีของส่ือมวลชน
ซูลิแวน ยังมองว่า ภายใต้การเติบโตของระบบดิจิทัล ส่ือใหม่และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ดงั ปรากฏการณ์การถอื ก�ำเนดิ ของยทู ปู เฟซบุ๊ก ผูร้ ับสารยุคใหมจ่ งึ ไมใ่ ชเ่ ปน็ เพียงคนอา่ นหรอื ชม (read-
only) เทา่ นน้ั แตย่ งั เป็นทัง้ อา่ นและเปน็ ผสู้ ง่ สาร (read-write) ตัวอยา่ งเชน่ การสร้างนยิ ายตอ่ เนอ่ื งจาก
นยิ ายเรอ่ื งโปรด ดังกล่มุ แฟนคลับ ทมี่ ักจะเขยี นนยิ ายต่อจากเรอื่ งราวท่ีตนชน่ื ชม การคัดลอกตดั ปะเพลง
ต่างๆ ที่ชื่นชอบลงในอัลบั้มส่วนตัวหรือในเว็บไซต์ อีกท้ังยังก้าวไปสู่การผลิตสารหรือเนื้อหาต่างๆ
(user-genereated content) ตามความตอ้ งการของตน เช่น การตัดต่อหนัง การสร้างมิวสิกวดิ โี อ การ
สร้างบลอ็ ก (blog) และท่สี �ำคัญภายใต้เทคโนโลยีดจิ ิทลั ท�ำให้สามารถกา้ วไปสู่การเป็นผู้เผยแพร่ขา่ วสาร
ด้วยตนเอง นอกจากจะสร้างอัตลักษณ์แล้วผู้รับสารบางคนยังขยับไปสู่การเป็นนักข่าวพลเมือง (citizen
journalist) ในโลกออกไลน์ หรอื เรียกวา่ “โมโจ” (mobile journalist) ทจี่ ะสื่อสารประเด็นต่างๆ ทงั้ ขา่ ว
คราว ความสนใจตา่ งๆ ผา่ นสอ่ื สมยั ใหมไ่ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ กา้ วขา้ มขดี จำ� กดั ในอดตี ทตี่ อ้ งมชี อ่ งทางการสอื่ สาร
เพียงช่องเดียวคือส่ือมวลชน และในบางคร้ังก็มักจะไม่ได้รับความสนใจในการคัดเลือกสารเพ่ือน�ำเสนอ
แตส่ อื่ ใหม่กลบั เออื้ ให้เกิดการแพรก่ ระจายได้ง่ายและรวดเร็ว
ปัจจัยด้านดิจิทัลยังเอื้อต่อการก้าวไปสู่การเป็นผู้ผลิตสารที่สามารถก้าวสู่ระบบธุรกิจได้ด้วย เช่น
การท�ำเพลง ท�ำนิยายขายเอง จุดน้ีถือเป็นการโต้ตอบแนวคิดทุนนิยมในอดีตท่ีผู้ผลิตมักจะมาจาก
อุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนขนาดใหญ่เท่านั้น ผู้รับสารเป็นเพียงผู้บริโภคอย่างเดียว และมักจะแบ่งแยก
ระหวา่ งผสู้ ง่ สารและผรู้ บั สารออกจากกนั อยา่ งสนิ้ เชงิ แตส่ ำ� หรบั ในยคุ นเี้ กดิ การเคลอ่ื นตวั ของผรู้ บั สารมาสู่
ผสู้ ง่ สาร
ปรากฏการณส์ ำ� คญั ของการสง่ และเผยแพรเ่ นอื้ หาในยคุ ใหมน่ ้ี กค็ อื ระบบคราวด์ ซอสซง่ิ (crowd-
sourcing) เป็นระบบท่ีผู้รับสารที่หลากหลายได้ก้าวมาระดมความรู้ลงในพื้นท่ีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตร่วม
ตรวจสอบให้ความรู้ ตวั อย่างทเ่ี ดน่ ชดั คอื คอื วิกพิ ีเดีย (Wikipedia) ทัง้ หมดนี้ เท่ากับวา่ ผรู้ บั สารกลาย
เปน็ ผู้มีอำ� นาจของตนเอง (audience autonomy)