Page 21 - สื่อศึกษา
P. 21
สอ่ื กบั เพศสภาวะ 14-11
เพลงเข้าใจแล้วครับพ่อ ป่นั ไพบูลเกยี รติ เขยี วแก้ว
ไม่เคยนึกถงึ ความรสู้ กึ แบบน้ี ไม่เคยมคี นตวั เล็กๆ ให้กอด
ไม่เคยนึกวา่ เราจะเล้ยี งใครรอด แลว้ เราก็ทำ� ได้จรงิ ๆ
ถ้าพอ่ เหน็ พอ่ คงจะแอบไปขำ� ท่ีเคยท�ำอะไรเอาไวท้ กุ สิง่
ท่พี ่อเคยวา่ เรามนั จุ้นจริงๆ กเ็ จอเขา้ แลว้ เตม็ เปา
ก็เลยไดร้ ู้ ว่าทำ� ไม พอ่ ต้องทำ� โอที
ตืน่ เช้าๆ เลกิ สูบบหุ ร่ี ทำ� อย่างนเี้ พอ่ื ใคร
กเ็ ลยได้รู้ ที่ทำ� มากมาย พอ่ เอาเรีย่ วแรงจากไหน
ก็เลยไดร้ ู้ วา่ เพราะอะไร พอ่ ถึงชอบกอดเรา
เจ้าตัวเลก็ เขาคือเราในวนั นน้ั ที่วันๆ กไ็ ดแ้ ค่จุ้นแคซ่ น
ไมเ่ ข้าใจถ้าพ่อจะว่าจะบน่ ก็เบือ่ กเ็ ซ็งพอ่ ทุกที
และสักวนั เขาคงจะเข้าใจดี วา่ ทกุ อย่างเพอ่ื เขาคนเดียว
จากเพลงขา้ งตน้ จะเหน็ ไดว้ า่ เพลงสะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ความแตกตา่ งทางเพศสภาวะของหญงิ ชายท่ี
สมั พันธ์กับบทบาทของพอ่ และแม่ที่อยูใ่ นชีวิตประจ�ำวัน ท่เี รารับรโู้ ดยปริยาย (take for granted) วา่ แม่
เป็นผู้เล้ียงดู ให้นมลูก และอบรมสั่งสอนลูก ส่วนพ่อท�ำหน้าที่หาเล้ียงครอบครัว บทบาทหน้าที่ทั้งหลาย
เหล่านีถ้ กู มองวา่ เปน็ หน้าทท่ี ตี่ ิดตวั ผูห้ ญิงและผชู้ ายมาแตก่ ำ� เนิด และถกู ยดึ ถือให้เป็นเรอ่ื งปกติของสงั คม
อย่างไรก็ตามนักสตรีนิยมและนักสังคมศาสตร์ได้พยายามช้ีให้เห็นว่า การบ่มเพาะเร่ืองความแตกต่าง
ระหวา่ งเพศสภาวะ ไมเ่ พยี งแตป่ รากฏในความสมั พนั ธแ์ บบหญงิ ชายเทา่ นน้ั แตย่ งั ปรากฏในความสมั พนั ธ์
แบบรักเพศเดียวกัน (homosexual) กล่าวคอื การสรา้ งความแตกตา่ งของเพศสภาวะดว้ ยการแบง่ คูต่ รง
ข้าม มสี ่วนทำ� ให้อตั ลกั ษณ์ (identity) ของผู้หญงิ ผู้ชาย และผมู้ ีความหลากหลายทางเพศ มลี กั ษณะท่ี
เนน้ ความแตกตา่ งระหวา่ งกนั อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั ทต่ี อ้ งมฝี า่ ยใดฝา่ ยหนงึ่ เปน็ ผนู้ ำ� และเปน็ ผตู้ ามแมว้ า่ จะอยใู่ น
ความสมั พันธร์ ะหวา่ งเพศเดยี วกัน เชน่ คู่รักชายรักชายจะตอ้ งมีฝา่ ยรุกเป็นตัวแทนของเพศชายและฝ่าย
รบั เปน็ ตวั แทนของเพศหญงิ ครู่ กั หญงิ รกั หญงิ จะตอ้ งมที อมและด้ี โดยทที่ อมมบี คุ ลกิ ลกั ษณะเหมอื นผชู้ าย
และดเี้ ปน็ ผูห้ ญิง
4. ระบบชายเป็นใหญ่
สง่ิ ทนี่ กั วชิ าการสายสตรนี ยิ มตะวนั ตกพยายามคน้ หาวา่ อะไรคอื เงอื่ นไขทน่ี ำ� ไปสคู่ วามสมั พนั ธท์ ่ี
เหล่อื มลำ้� ระหวา่ งเพศและช่วยอธบิ ายเหตผุ ลทีผ่ ู้หญิงถกู กดข่ีและเอารดั เอาเปรยี บในสังคม แนวคิดหนึง่ ท่ี
ถูกน�ำเสนอให้เป็นเงื่อนไขส�ำคัญ คือ “ระบบชายเป็นใหญ่หรือปิตาธิปไตย” (patriarchy) โดยนิยามว่า
ระบบชายเปน็ ใหญ่ เปน็ “กฎเกณฑข์ องพอ่ ” (Father’s Rules) หรอื การควบคมุ ทางสงั คมทผี่ ชู้ ายในฐานะ
ที่เป็นพ่อมีอ�ำนาจเหนือภรรยาและลูกสาว และระบบที่ผู้ชายในฐานะที่เป็นกลุ่มทางสังคมถูกสร้างให้มี
บทบาทฐานะสงู กวา่ และมอี ำ� นาจเหนอื ผหู้ ญงิ ทง้ั ในบรบิ ทครอบครวั สงั คม อดุ มการณ์ และระบบการเมอื ง