Page 29 - สื่อศึกษา
P. 29

สื่อกับเพศสภาวะ 14-19

เรื่องที่ 14.2.1
ทฤษฎีสายเพศสภาวะ

       ในอดีตการศกึ ษาส่ือและเพศสภาวะศึกษาแบบแยกสว่ นกนั ทัง้ ที่ในโลกแห่งความเป็นจริงส่อื และ
ความเปน็ เพศสภาวะเปน็ เร่อื งเดียวกัน ดังทลี่ ซิ เบธ แวน ซแู นน (Liesbet Van Zoonen, 1994 อา้ งใน
กาญจนา แก้วเทพ และสมสุข หินวิมาน, เรื่องเดิม, น. 625) วิจารณ์ต�ำราทฤษฎีส่ือสารมวลชนของ
Denis McQuail ฉบบั ตพี มิ พค์ รง้ั ท่ี 1 และ 2 วา่ ไมม่ ปี ระเดน็ เรอื่ งเพศสภาวะอยเู่ ลยทงั้ ๆ ทสี่ งั คมตะวนั ตก
ขณะน้นั เป็นชว่ งการเรยี กร้องสทิ ธสิ ตรอี ยา่ งกว้างขวาง ซึ่งไม่ตา่ งจากแวดวงวชิ าการสาขาอนื่ ๆ ทไ่ี ม่สนใจ
ประเดน็ เพศสภาวะ ไมว่ า่ จะเปน็ สาขาวชิ าประวตั ศิ าสตรท์ ถ่ี กู เขยี นและศกึ ษาโดยผชู้ าย สาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์
ท่ีเห็นว่า ขณะที่เรามองเห็นว่าผู้หญิงท�ำงานท้ังในบ้านและนอกบ้าน แต่กลับไม่มีผู้หญิงปรากฏอยู่ใน
เศรษฐศาสตร์แต่อย่างใด

       การศกึ ษาสอ่ื และเพศสภาวะถกู นำ� มาศกึ ษาอยา่ งเชอื่ มโยงกนั ในทศวรรษท่ี 1970-1980 โดยลซิ เบธ
แวน ซแู นน และนกั วชิ าการสตรใี นสำ� นกั วฒั นธรรมศกึ ษาทเ่ี รม่ิ ตงั้ ขอ้ สงั เกตวา่ บรรดารายการตา่ งๆ ทผี่ หู้ ญงิ
ชอบอา่ นชอบดไู มว่ า่ จะเปน็ ละครโทรทศั น์ คอลมั นส์ ตรี คอลมั นบ์ นั เทงิ เกมโชว์ มกั เปน็ รายการทถ่ี กู มองวา่
เป็นรายการที่ให้แต่ความสนุกสนานอย่างไร้สาระและให้ค่าว่ามีคุณค่าน้อยทั้งส้ิน ซึ่งนักวิชาการกลุ่มน้ี
ตั้งค�ำถามว่า บรรดารายการเหล่านี้มีคุณค่าต�่ำอยู่แล้ว หรือเพราะเป็นรายการที่ผู้หญิงดูรายการนั้นจึงมี
คุณค่าต�่ำลงไปด้วย โดยนักสตรีนิยมสนใจตัวแปรที่สร้างและเผยให้เห็นการต่อสู้ของผู้หญิง เช่น เพศวิถี
(sexuality) ความบนั เทิง (entertainment) ความร่นื รมย์ (pleasure) เวลาว่าง (leisure) รา่ งกาย พื้นท่ี
บ้าน (domestic) พ้นื ทสี่ าธารณะ (public sphere) ฯลฯ

       ในตอนทแ่ี ลว้ ผเู้ ขยี นไดก้ ลา่ วถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสอ่ื และเพศสภาวะไปแลว้ วา่ มคี วามสมั พนั ธ์
ซงึ่ กนั ทงั้ ในแงค่ วามเปน็ ผผู้ ลติ เนอื้ หาสาร การใชส้ อ่ื และการเปน็ ผรู้ บั สาร ผอู้ า่ น และผใู้ ชส้ าร อกี ทงั้ ความ
เปน็ เพศสภาวะยงั เขา้ มากำ� กบั กระบวนการเขา้ รหสั และการถอดรหสั สาร เพอ่ื ทจี่ ะศกึ ษาใหเ้ หน็ ความสมั พนั ธ์
ดังกล่าว เราจึงจ�ำเป็นต้องท�ำความเข้าใจทฤษฎีและแนวคิดทั้งสายการส่ือสารและสายสตรีนิยมควบคู่กัน
ไปดว้ ย โดยเนอื้ หาในสว่ นนผ้ี เู้ ขยี นจะไดก้ ลา่ วถงึ ทฤษฎสี ตรนี ยิ ม ความเปน็ ชาย (masculinity) และทฤษฎี
เควียร์ หรือทฤษฎีความหลากหลายทางเพศ (Queer Theory) ร่วมดว้ ย

1. 	ทฤษฎีสตรีนิยม (Feminist Theory)

       ทฤษฎีสายสตรีนิยมถูกพัฒนาข้ึนในช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 เพ่ือหาแนวคิดในการอธิบาย
ปรากฏการณ์ เพอื่ ทจ่ี ะแกไ้ ขความไมเ่ ทา่ เทยี มกนั ระหวา่ งเพศ และเปลย่ี นแปลงความสมั พนั ธแ์ บบชายเปน็
ใหญ่ทั้งในระดบั สังคม วฒั นธรรม และเศรษฐกิจ จากทฤษฎีกระแสหลักซึ่งมีลักษณะเปน็ ทฤษฎสี ายบุรษุ
(malestream) ดงั นนั้ ทฤษฎีสตรีนยิ มจึงมคี ณุ ลักษณะสองประการ คอื เปน็ ท้ังแนวคิดและเปน็ แนวทางใน
การเคลอื่ นไหวทางสังคม (Victoria Robinson และ Diane Richardson, อ้างแลว้ , p. 23) โดยทฤษฎี
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34