Page 52 - หลักการประชาสัมพันธ์และโฆษณา
P. 52

13-42 หลกั การประชาสัมพันธแ์ ละโฆษณา

       1.1 เพ่ือแจ้งข้อมูลที่ส�ำคัญและจ�ำเป็นต้องรับรู้ร่วมกันของสมาชิกในสังคม โครงการรณรงค์เพ่ือ
วตั ถปุ ระสงคใ์ นการสรา้ งความตระหนกั รใู้ นปญั หาของสงั คมรว่ มกนั สามารถใชบ้ ทบาททง้ั การโฆษณาและ
การประชาสมั พนั ธเ์ พอื่ แจง้ ขอ้ มลู ขา่ วสารหรอื สรา้ งความตระหนกั ในประเดน็ ปญั หา ซง่ึ บางครงั้ สงั คมกล็ ะเลย
ที่จะให้ความช่วยเหลือ หรือให้ความสนใจกับประเด็นน้ันๆ น้อยเกินไป เพราะไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาของ
ตนเอง ตัวอย่างเช่น ในการรณรงค์ไม่ให้ชาวบ้านตัดไม้ท�ำลายป่า คนกรุงเทพฯ อาจรู้สึกว่าปัญหานั้น
ไม่เกี่ยวกับตนเอง แต่แท้จริงแล้วปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาระบบนิเวศที่มีผลกระทบร่วมกัน การ
ตดั ไมท้ ำ� ลายปา่ นำ� มาซง่ึ ปญั หา นำ�้ ทว่ ม ปญั หาความแหง้ แลง้ ปญั หาอณุ หภมู อิ ากาศทร่ี อ้ นขน้ึ ฯลฯ หรอื
ปัญหาขยะล้นเมืองท่ีเป็นวิกฤติในหลายพ้ืนท่ี ก็ไม่ใช่แค่ปัญหาของคนในพื้นที่ใดพ้ืนที่หน่ึงแต่เป็นปัญหา
ร่วมกัน ซึ่งการสร้างความเข้าใจและรณรงค์ให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการลดปัญหาด้วยการเปล่ียน
พฤติกรรมเปน็ การใชข้ องซำ้�   หรอื การรไี ซเคลิ ของทสี่ ามารถนำ� มาใชซ้ ำ้� ได้ เชน่ ถงุ พลาสตกิ กระดาษ ขวด
แกว้ จะชว่ ยลดปรมิ าณขยะลงได้ถงึ ร้อยละ 30 การเสนอข้อมูลดว้ ยการประชาสัมพันธแ์ ละการสรา้ งความ
รู้สึกรว่ มในปัญหาด้วยการโฆษณาผ่านส่อื ประเภทตา่ งๆ จึงเปน็ เร่ืองท่มี คี วามสำ� คัญ

       1.2 	เพอ่ื การเชญิ ชวน การสรา้ งเครอื ขา่ ยความสนใจรว่ ม การสรา้ งจติ อาสา เพอ่ื ใหพ้ นกั งาน หรอื
กลมุ่ คนตา่ งๆ เขา้ มามสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการแสดงความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ทง้ั ในลกั ษณะของการมสี ว่ น
รว่ มตง้ั แตก่ ารวางแผนรว่ มกนั การดำ� เนนิ การรว่ มกนั และการรบั ผลจากการดำ� เนนิ การรว่ มกนั จำ� เปน็ ตอ้ ง
อาศยั เครอื่ งมอื สอ่ื สารและวธิ กี ารสอื่ สารทสี่ รา้ งความไวเ้ นอ้ื เชอ่ื ใจในกนั และกนั ตลอดจนการสรา้ งเครอื ขา่ ย
การส่ือสารเพ่ือการสร้างความร่วมมือจากองค์การและพันธมิตรหุ้นส่วนจากภาคส่วนต่างๆ เข้ามามี
ส่วนรว่ มกนั โดยการประชาสมั พันธท์ ่ีดจี ะช่วยให้การสรา้ งการมีส่วนร่วมท�ำได้อยา่ งกว้างขวางทัว่ ถึง

       1.3 	เพื่อสรา้ งความมั่นใจและความไว้เนือ้ เชอ่ื ใจและความผกู พันทางใจ องค์การทกุ องค์การต่างมี
ความสมั พนั ธก์ บั ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ในสงั คมดว้ ยรปู แบบของการพงึ่ พากนั และกนั ทงั้ นเ้ี พราะความสามารถ
ในการแขง่ ขนั ขององคก์ ารธรุ กจิ สว่ นหนง่ึ ขนึ้ อยกู่ บั ความสมั พนั ธก์ บั สงั คมทอ่ี งคก์ ารนน้ั เปน็ สมาชกิ อยู่ กลา่ วคอื
สังคมต้องการธุรกิจท่ีประสบความส�ำเร็จและเติบโตเพื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้และความก้าวหน้าให้คนใน
สังคม ขณะเดียวกันองคก์ ารธรุ กิจก็จำ� เป็นต้องพ่งึ พาสังคม ในแงข่ องการเป็นผบู้ ริโภคสนิ คา้ ทต่ี นผลติ และ
ใหส้ ภาพแวดลอ้ มทเี่ ออ้ื ตอ่ การดำ� เนนิ ธรุ กจิ การประชาสมั พนั ธแ์ ละการโฆษณากจิ กรรมการแสดงความรบั
ผิดชอบต่อสังคมขององค์การให้เป็นท่ีรับรู้ต่อสาธารณะจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการส่ือสารเพ่ือสร้างความ
สัมพนั ธ์ สร้างการมสี ว่ นร่วมตอ่ การพฒั นาสงั คมที่องคก์ ารน้นั เป็นสมาชิก สร้างภาพลักษณท์ นี่ า่ เช่ือถือให้
กบั องคก์ าร ชว่ ยสรา้ งความมนั่ ใจ และความไวเ้ นอ้ื เชอื่ ใจซงึ่ เปน็ รปู แบบความสมั พนั ธซ์ ง่ึ เปน็ ทต่ี อ้ งการของ
องคก์ าร

2. ขั้นตอนการประชาสัมพันธ์และการโฆษณาการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของ
  องค์การ

       เมื่อองค์การตัดสินใจท่ีจะเลือกแนวทางในการด�ำเนินงานด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม
การประชาสมั พนั ธแ์ ละการโฆษณาเพอื่ แสดงความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมขององคก์ าร จะประกอบดว้ ยขนั้ ตอน
การท�ำงานทส่ี ำ� คญั 4 ข้นั ตอนตามภาพท่ี 13.9 ดังนี้
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57