Page 35 - วิถีไทย
P. 35

วิถไี ทยกบั ความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม 2-25
       แตเ่ มอ่ื ตกถงึ สมยั พระเจา้ ฟ้างุ้มในพทุ ธศตวรรษที่ 19 การเดินทางติดตอ่ ระหว่างเขมรกบั ลา้ นช้าง
สะดวกมากขน้ึ ผา่ นเส้นทางแม่น้ำ� ชแี ละแม่น�้ำมูล เมือ่ บา้ นเมืองในแถบแม่นำ�้ มูลตอนบนของเขตอีสาน ได้
ผูกพันกับบ้านเมืองในลุ่มแม่น�้ำโขงอย่างหลวงพระบาง เวียงจันทน์ และจ�ำปาสัก เพราะผู้คนในแถบลุ่ม
แม่นำ้� โขงได้อพยพมาตง้ั ชุมชนอยูใ่ นบริเวณอสี านเป็นอันมาก จนน�ำมาสู่การสถาปนาเมอื งวัฒนธรรมลาว
ข้นึ ในอีสานชว่ งพุทธศตวรรษท่ี 19 ยคุ สมยั เดียวกับท่ีสมเดจ็ พระรามาธบิ ดีท่ี 1 (อู่ทอง) ทรงสถาปนากรงุ
อโยธยา
       ท้ังน้ีพระเจ้าฟ้างุ้มทรงแสดงตัวเป็นทายาททางวัฒนธรรมของเขมรพระนคร เช่นเดียวกับสมเด็จ
พระรามาธิบดีท่ี 1 (อู่ทอง) ซ้�ำพระเจ้าฟ้างุ้มยังได้อภิเษกกับธิดากษัตริย์กัมพูชา และได้พระขรรค์ชัยศรี
ของกษตั รยิ ก์ มั พชู าดว้ ย ภายหลงั จากแผข่ ยายอำ� นาจจากหลวงพระบางลงมาจนถงึ ทร่ี าบสงู โคราช อนั เปน็
ดินแดนเดิมของราชวงศ์เช้ือสายเขมรผู้สถาปนาเมืองพระนคร เช่น ราชวงศ์มหิธรปุระ มณฑลหรือเขต
อ�ำนาจของกษัตริย์ล้านช้างกับอโยธยาก็มาบรรจบกัน หลักฐานพงศาวดารลาวระบุถึงการเจรจาอ่อนน้อม
ขอเป็นไมตรีกบั พระเจา้ ฟ้างมุ้ ของสมเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ 1 (อู่ทอง) โดยตกลงใหถ้ ือเอาเขาดงพญาไฟเปน็
เขตแดนระหว่างท้ังสอง42
       แม่น้�ำลพบุรี
       “แมน่ ำ�้ ลพบรุ ”ี ถงึ จะเปน็ แมน่ ำ�้ สายสน้ั ทไ่ี หลจากสงิ หบ์ รุ ไี ปยงั ลพบรุ แี ลว้ วกลงใตม้ ายงั อโยธยา แต่
กเ็ ปน็ เส้นทางคมนาคมส�ำคัญ แมน่ ้�ำลพบุรเี ป็นเส้นทางการเดินทางไปยังดนิ แดนสพุ รรณภมู ทิ างตะวนั ตก
เฉียงใต้และดินแดนภาคเหนือตอนล่างอย่างสุโขทัย พิษณุโลก ศรีสัชนาลัย อุตรดิตถ์ นครไทย และ
ภาคเหนืออย่างลา้ นนา เมอื งล�ำพูน ล�ำปาง เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ นา่ น เป็นตน้ โดยมีเมืองชยั นาทและ
เมอื งพระบาง (นครสวรรค์) เป็นจดุ เช่อื มต่อสำ� คญั
       นอกจากนีแ้ ม่น้�ำลพบุรยี งั เปน็ ที่ตั้งของเมอื งราม ซง่ึ สันนษิ ฐานวา่ เป็นเมืองคสู่ ำ� คญั ของลพบุรี แต่
ตง้ั อยไู่ มน่ าน เนอ่ื งจากเมอื งอโยธยาตงั้ อยใู่ นทช่ี ยั ภมู สิ ำ� คญั กวา่ ลพบรุ จี งึ ใหค้ วามสำ� คญั กบั อโยธยามากกวา่
และอาจเป็นไปไดท้ ีจ่ ะมีการเคลือ่ นยา้ ยผูค้ นประชากรจากเมอื งนี้ไปยังอโยธยา เพราะชว่ งพุทธศตวรรษที่
17 ที่เมืองรามร้างไปนั้น เป็นช่วงท่ีตรงกับการสถาปนากรุงอโยธยาท่ีตอนล่างของแม่น้�ำป่าสักและแม่น้�ำ
ลพบุรี
       เนอ่ื งจากแมน่ ำ�้ ลพบรุ มี แี พรกนำ�้ ตดิ ตอ่ กบั แมน่ ำ้� นอ้ ยทส่ี งิ หบ์ รุ ี จงึ เปน็ เหตใุ หว้ ฒั นธรรมลพบรุ แี พร่
ไปยงั เมอื งสรรคบรุ แี ละเมอื งโบราณเนนิ ทางพระ ชว่ งเวลาเจรญิ รงุ่ เรอื งของลพบรุ ี ทม่ี าตรงกบั ชว่ งเวลาของ
อโยธยาในพทุ ธศตวรรษที่ 17-18 เปน็ เหตใุ หเ้ กดิ ความสบั สนขน้ึ ไดว้ า่ วฒั นธรรมเขมรในยา่ นนม้ี ศี นู ยก์ ลาง
อยู่ท่ีใดแน่ระหว่างลพบุรีกับอโยธยา แต่หากเราพิจารณาตามข้อเสนอและหลักฐานของนักโบราณคดีใน
ชั้นหลัง จะพบว่าเมืองลพบุรีมีช่วงเวลาที่ทับซ้อนกับสมัยทวารวดี ร่นขึ้นไปถึงช่วงพุทธศตวรรษท่ี 11-12
กอ่ นวัฒนธรรมเขมรจะแพร่เขา้ มาในช่วงพทุ ธศตวรรษท่ี 15-1643
       ดังนน้ั สมัยลพบุรที ่ีกลา่ วถงึ ในพุทธศตวรรษท่ี 17-19 น้นั เป็นชว่ งสมัยอโยธยาแลว้ ขณะทก่ี อ่ น
นั้นร่นขึ้นไปต้ังแต่ราวสมัยพุทธศตวรรษที่ 15-16 เป็นช่วงสมัยทวารวดี แต่ทว่าเมืองลพบุรียังคงมีความ

         42 กำ� พล จำ� ปาพนั ธ.์ (2558). นาคยุดครุฑ: “ลาว” การเมืองในประวัตศิ าสตรน์ พิ นธ์ไทย. กรุงเทพฯ: มติชน. น. 3-22.
         43 Saraya, Dhida. (1999). op.cit.
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40