Page 36 - วิถีไทย
P. 36
2-26 วิถไี ทย
ส�ำคัญในฐานะเมืองคู่ของเมืองอโยธยา ในลักษณะคล้ายกับเมืองสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย กับเมืองพิษณุโลก
คือเป็นเมืองมีความส�ำคัญในอาณาจักรทั้งคู่ จนดูราวกับเมืองศูนย์กลางทั้งสองแห่ง ดังจะเห็นได้จากการ
สถาปนาพระปรางคว์ ดั พระศรรี ตั นมหาธาตุ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั ลพบรุ ี ในขณะทภี่ ายในตวั เมอื งอโยธยาเอง
กป็ รากฏพระบรมธาตเุ จดยี ส์ ำ� คญั อยา่ งเชน่ ปรางคป์ ระธานวดั ใหญช่ ยั มงคล ปรางคป์ ระธานวดั ขนุ เมอื งใจ
เปน็ ต้น
แม่น้�ำบางปะกง
“แม่นำ�้ บางปะกง” เปน็ ลุม่ แม่น�้ำผนื กว้างครอบคลุมต้งั แต่อาณาบรเิ วณทศิ ใตข้ องเขาใหญ่ ทีร่ าบ
กบินทร์บรุ ี จรดอา่ วบางปะกง เขาบางทราย เขาสามมขุ เทอื กเขาจนั ทบรุ ี ลำ� นำ�้ สาขาของแมน่ ำ้� บางปะกง
ล้วนเป็นเส้นทางคมนาคมส�ำคัญสมัยโบราณและเป็นที่ตั้งของเมืองส�ำคัญ อันได้แก่ แม่น�้ำนครนายกเป็น
ทต่ี ง้ั ของเมอื งโบราณดงละคร เมอื งนครนายก แมน่ ำ้� ปราจนี บรุ เี ปน็ ทต่ี ง้ั ของเมอื งปราจนี บรุ ี แมน่ ำ้� บางปะกง
เป็นท่ีต้ังของเมืองฉะเชิงเทรา เมืองศรีมโหสถ เมืองอมรเทวี แควหนุมานเป็นที่ต้ังของโบราณสถาน
บ้านปราสาท แควพระปรงเป็นที่ต้ังของเมืองสระแก้วสระขวัญ ล�ำน�้ำพานทองเป็นที่ต้ังของเมืองพระรถ
เมอื งศรีพโล เมืองพญาเร่ คลองทา่ ลาดเปน็ ที่ตง้ั ของเมอื งพนม สนามชยั เขต ท่าตะเกยี บ คลองนารายณ์
เป็นท่ตี ัง้ ของเมืองโบราณเพนียด เป็นต้น
เมอื งนครนายก เมืองปราจีนบรุ ี และเมอื งฉะเชงิ เทราเก่า มีแพรกน�้ำสำ� คัญท่ีเปน็ จุดเชอื่ มตอ่ แดน
อย่ทู ี่ปากน้�ำโยทะกา เมอื งโบราณในลุ่มแมน่ ้�ำบางปะกงบางเมอื ง เชน่ เมอื งศรมี โหสถ เมืองอมรเทวี บา้ น
ปราสาท เมอื งดงละคร เมอื งเพนียด เป็นเมืองทม่ี หี ลักฐานชัดเจนถึงการเปน็ เมอื งโบราณทีม่ มี ากอ่ นสมัย
อยธุ ยา ตำ� นานของทอ้ งถนิ่ กส็ ะทอ้ นเรอ่ื งราวทสี่ อดคลอ้ งกบั หลกั ฐานทางโบราณคดี เพยี งแตเ่ นอื่ งจากผคู้ น
ทเี่ ขา้ ไปอยใู่ หมภ่ ายหลงั ในสมยั อยธุ ยาตอนปลายถงึ รตั นโกสนิ ทร์ นยิ มเลา่ ตำ� นานทอ้ งถน่ิ โดยองิ กบั วรรณคดี
ชาดกเชน่ เรอ่ื งมโหสถชาดก เร่ืองพระรถ-เมรี เปน็ ตน้
ทง้ั นเ้ี พราะเรอื่ งราวของบา้ นเมอื งในแถบนไี้ ดส้ ญู หายไป บางเมอื งไดม้ กี ารพฒั นาสบื เนอื่ งจากสมยั
ทวารวดีถึงอโยธยาในระยะแรก เชน่ เมืองศรมี โหสถ เมอื งพระรถ เมอื งดงละคร เมืองเพนียด แตก่ ็จำ� กดั
อย่เู พยี งพทุ ธศตวรรษที่ 19 ตามหลกั ฐานที่มีการคน้ พบโบราณวตั ถอุ ายตุ กถึงช่วงระหว่างพุทธศตวรรษท่ี
11-19 บางเมอื งไดป้ รากฏในหลกั ฐานจารกึ ของเขมร เชน่ เมอื งนครนายก เมอื งปราจนี บรุ ี เมอื งฉะเชงิ เทรา
ขณะทีช่ ลบรุ ีและจนั ทบุรีเริม่ ปรากฏในหลกั ฐานพระราชพงศาวดารกรุงศรอี ยุธยา กลา่ วถงึ วา่ เปน็
เมือง 1 ในจ�ำนวน 16 เมอื งท่สี ่งเครอื่ งราชบรรณาการมาถวายสมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 (อู่ทอง) เมอ่ื ครัง้
ทรงสถาปนากรงุ ฯ เม่อื พ.ศ. 189344 ภายหลังทั้งเมอื งนครนายก ปราจนี บุรี ฉะเชงิ เทรา ชลบุรี จนั ทบุรี
ปรากฏในรายการหัวเมืองช้ันนอกของราชอาณาจักรอโยธยา โดยในรัชกาลสมเด็จพระราเมศวรได้
กวาดตอ้ นผู้คนจากเชียงใหม่ ให้มาตั้งถ่ินฐานอยู่ทฉี่ ะเชงิ เทรา ชลบุรี จนั ทบุรี เปน็ เหตุให้เกิดชมุ ชนเมอื ง
ภายใตว้ ฒั นธรรมอโยธยาขนึ้ ในยุคทสี่ อง
44 กรมศิลปากร. (2553). เรื่องเดมิ . น. 38.