Page 41 - วิถีไทย
P. 41

วิถไี ทยกบั ความหลากหลายทางสังคมและวฒั นธรรม 2-31

เร่ืองท่ี 2.2.1
ความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์และถ่ินฐานบ้านช่องในสังคมไทย

       สงั คมสยาม-ไทย ประกอบดว้ ยกลมุ่ ชาติพันธุ์ต่างๆ อาทิ จนี เขมร ลาว มอญ ญวน กยุ หรือสว่ ย
แขกมสุ ลมิ ฝรัง่ หรือชาติตะวันตก กะเหรี่ยง มง้ ชอง เปน็ ตน้ กลมุ่ ชาติพันธุเ์ หล่านีต้ ัง้ ถ่ินฐานบ้านช่องอยู่
ตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย มีตั้งแต่กลุ่มท่ีอพยพมาจากที่อ่ืนแล้วค่อยๆ พัฒนากลายมาเป็น
ส่วนหนึ่งของสังคมไทย อย่างเช่น ชาวจีน ชาวลาว ชาวมอญ แขกมุสลิม ฝร่ังชาติตะวันตก เป็นต้น
รวมทง้ั กลมุ่ ท่ชี าติพันธุท์ ีอ่ ยใู่ นดินแดนแถบน้มี าแตเ่ ดมิ แตก่ ลมุ่ น้มี ักถกู เหยยี ดและจดั ประเภทเปน็ อ่นื เชน่
เป็น “ชาวเขา” เป็น “ชนกลมุ่ น้อย” ไป อยา่ งเชน่ กลุม่ กะเหรี่ยง มง้ ชอง เป็นตน้ รายละเอียดประวัติ
ความเปน็ มาของแต่ละกลุ่มโดยย่อมดี ังต่อไปน้ี

ชาวจีน

       “ชาวจีน” เดิมเป็นชาวต่างชาติกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาต้ังถ่ินฐานท�ำการค้า มาตั้งแต่ก่อนสมัยกรุง-
ศรีอยุธยา มีต�ำนานบอกเล่าความเป็นมาและความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีนกับชาวสยามอยุธยา อย่างเช่น
ตำ� นานเรอ่ื งเจา้ ชายสายนำ้� ผง้ึ กบั พระนางสรอ้ ยดอกหมาก อนั เปน็ ตำ� นานบอกเลา่ ความเปน็ มาของการสรา้ ง
วดั พนญั เชงิ จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ซง่ึ เปน็ ศนู ยก์ ลางชมุ ชนจนี เกา่ แกใ่ นสยาม มพี ระประธานปางสมาธิ
ขนาดใหญ่ นามวา่ “พระพทุ ธไตรรตั นนายก” แตช่ าวบา้ นนยิ มเรยี กวา่ “ซำ� ปอกง” มาจากคำ� วา่ “ซำ� ปอ”
แปลว่า “พระพทุ ธ” ผสมกับค�ำว่า “กง” ทแ่ี ปลวา่ “บรรพบุรุษ”

       ชาวจีนนับเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ท่ีมีบทบาททางการค้าสูง เน่ืองจากสมัยอยุธยา ชาวจีนท่ีเข้ามาตั้ง
ชมุ ชนอยอู่ าศยั ไดร้ บั อภสิ ทิ ธ์ิ ไมถ่ กู สกั เลก ไมต่ อ้ งสงั กดั มลู นาย ทำ� ใหม้ อี สิ ระสามารถเดนิ ทางไปมาคา้ ขาย
ได้ท่ัวราชอาณาจักร ชาวจีนเป็นพ่อค้าคนกลาง ท�ำหน้าท่ีรวบรวมสินค้าจากหัวเมือง เข้ามายังส่วนกลาง
และในขณะเดยี วกนั กท็ ำ� หนา้ ทน่ี ำ� เอาสนิ คา้ จากเมอื งหลวงไปขายใหแ้ กห่ วั เมอื ง โดยเมอื งหลวงจะทำ� หนา้ ท่ี
เปน็ ผสู้ ง่ั ซอื้ สนิ คา้ จากตา่ งประเทศเขา้ มาไวใ้ หค้ นจนี นำ� เอาไปแพรห่ ลายใหแ้ กต่ ลาดตามหวั เมอื งตอ่ ไป48

       คนจนี ในสงั คมไทยจงึ มกั เปน็ กลมุ่ คนทตี่ งั้ ถนิ่ ฐานอยกู่ บั ตลาดและยา่ นการคา้ โดยในสมยั ทผี่ คู้ นยงั
เดนิ ทางโดยอาศัยแมน่ ้�ำล�ำคลอง บริเวณแพรกนำ�้ อนั เปน็ จดุ ส�ำคญั ในเส้นทางคมนาคม ก็จงึ มักจะเป็นยา่ น
ตลาดการค้าทมี่ ผี ้คู นมากหนา้ หลายตามาพบปะและแลกเปลย่ี นสินคา้ กัน บริเวณดังกลา่ วมกั เป็นทีต่ งั้ ของ
ชมุ ชนเมอื งหรอื ยา่ นการคา้ ไปดว้ ยพรอ้ มกนั อาทิ บรเิ วณเกาะเมอื งพระนครศรอี ยธุ ยา ทเี่ ปน็ จดุ บรรจบกนั
ของแม่น�้ำสามสาย ได้แก่ แมน่ �้ำเจา้ พระยา แม่น้�ำป่าสกั และแมน่ ำ้� ลพบุรี บรเิ วณตวั เมืองลพบุรี ที่เปน็ จุด
บรรจบกนั ของแมน่ �ำ้ ปา่ สัก แม่น้�ำลพบุรี และคลองบางขาม บริเวณตัวเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัย ท่ี
เป็นจุดบรรจบกันระหว่างแม่น�้ำปิงกับแม่น้�ำยม บริเวณตัวเมืองพิษณุโลก ท่ีเป็นจุดบรรจบกันระหว่าง

         48 สกนิ เนอร,์ จ.ี วลิ เลยี่ ม. (2548). สงั คมจนี ในประเทศไทย: ประวตั ศิ าสตรเ์ ชงิ วเิ คราะห.์ กรงุ เทพฯ: มลู นธิ โิ ครงการตำ� รา
สังคมศาสตร์และมนษุ ยศาสตร.์
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46