Page 86 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 86

10-76 ภาษาถิ่นและวรรณกรรมทอ้ งถิ่นไทย

       คตคิ วามเชอ่ื เรอ่ื งกฎแหง่ กรรมกป็ รากฏอยา่ งเดน่ ชดั เชน่ กนั เชน่ ในวรรณกรรมเรอื่ ง “สวุ รรณสาม”
นางปริกาตาบอดท้ังสองข้างเพราะถูกพิษงู เพราะผลกรรมที่ได้ท�ำไว้แต่ปางก่อน ดังบทประพันธ์ว่า
(ศุภวรรณ สอนสังข์ และวรวรรธน์ ศรยี าภัย, 2543, น. 15)

	 	 	 บัดนั้นนางเทวี	 อรโฉมศรีนางปาริกา
	 	 จึงบอกไปบ่ช้า	                     ว่าตัวข้าบอดเหมือนกัน
	 	 	 งูร้ายพ่นพิษมา	 ถูกลูกตาข้าด้วยพลัน
	 	 มืดเสียทั้งสองนั้น	                ไม่เห็นทางที่จะไป
	 	 	 ดาบสท้ังสองรา	 ชวนกันมาร้องร่ําไร
	 	 กรรมเวรของเราไซร้	                 จึงมาเป็นดังนี้หนา

2. โบราณคติ

       คตคิ วามเชอ่ื โบราณเปน็ ความเชอ่ื ทไี่ มเ่ กยี่ วขอ้ งกบั ความเชอื่ อนั เนอ่ื งจากพทุ ธศาสนา สนั นษิ ฐาน
วา่ คนในสงั คมโบราณของภาคใตเ้ ชอ่ื กนั เชน่ นน้ั และสบื ทอดตอ่ กนั มาทกุ ยคุ ทกุ สมยั ความเชอื่ บางอยา่ งอาจ
เหมือนหรือคลา้ ยกบั ความเชอื่ ของในไทยในภาคกลางและไทยถน่ิ อ่นื กไ็ ด้ ความเชอ่ื ดงั กล่าวสอดแทรกอยู่
ในวิถีชวี ติ ของผู้คน ครั้นเม่ือผู้นัน้ สรา้ งสรรคว์ รรณกรรมจึงสอดแทรกความเชอ่ื ของตนและคนในทอ้ งถนิ่ ลง
ไปในบทวรรณกรรม ความเชอื่ ของผคู้ นทปี่ รากฏอยา่ งชดั เจนในวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ภาคใต้ เชน่ เทพเทวดา
ภตู ผี เสนห่ ์ยาแฝด ไสยศาสตร์ และโหราศาสตร์

       เทพเทวดาท่ีปรากฏในวรรณกรรมมีมากมายหลายตนและหลายระดับชั้น เทวดาองค์หนึ่งท่ีชาว
ปกั ษใ์ ตร้ จู้ กั ดคี อื แมซ่ อื้ จดั เปน็ นารเี ทพมดี ว้ ยกนั 4 ตน เปน็ เทพทค่ี อยปกปกั รกั ษาเดก็ แรกเกดิ และเดก็ วยั
แบเบาะ ขณะทเี่ ดก็ นอนอยใู่ นเปลเพยี งลำ� พงั พอ่ แมห่ รอื พเ่ี ลย้ี งไมอ่ ยู่ แมซ่ อื้ ทง้ั 4 ตนนจี้ ะมาดแู ลรกั ษา บา้ ง
กว็ า่ อาบนา้ํ ปอ้ นขา้ วใหด้ ว้ ย เพอื่ เดก็ จะไดน้ อนหลบั อยา่ งสบาย ดงั เพลงกลอ่ มเดก็ วา่ (วมิ ล ดำ� ศร,ี 2539ก,
น. 76)

	 	 น้องนอนเหอ 	                       นอนให้หลับดี
	 แม่เซ้อท้ังสี่	 	                    มาช่วยพิทักษ์รักษา
	 อาบน้ําป้อนข้าว	 มารักษาเจ้าทุกเวลา
	 มาช่วยพิทักษ์รักษา	                  เด็กอ่อนนอนในเปลเหอ
	 (แม่เซ้อ = แม่ซื้อ, รักษา = ปกปัก ดูแล คุ้มครอง และเล้ียงดู)

       สว่ นความเช่ือเรื่องผซี งึ่ มอี ยมู่ ากมายหลายผี เชน่ ผตี ายาย ผคี รูหมอ ผีเจา้ ท่ี และผีทัว่ ไปท่ยี ังไม่
ไปผดุ ไปเกดิ ผเี หลา่ นน้ั หากเลย้ี งไวด้ พี ลถี กู กจ็ ะใหค้ ณุ แกม่ นษุ ย์ หากไมไ่ หวไ้ มเ่ คารพกอ็ าจใหโ้ ทษแกม่ นษุ ย์
ได้ เช่นในวรรณกรรมเรอ่ื ง “จ�ำปาส่ตี ้น” นางตักโทสไี ดบ้ นบานกับผตี ่างๆ อาทิ ผียักษ์ ผีพราย พระภมู ิ
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91