Page 61 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 61

วรรณกรรมท้องถิน่ ภาคอีสาน 8-51

ฤดูกาลดังเดิม เเละจะลงมาปลูกพันธุ์ข้าวทิพย์เม็ดเท่าลูกมะพร้าวให้ นับเเต่นั้นเป็นต้นมา พอถึงฤดูกาล
ท�ำนา ฝนก็ตกลงมายงั โลกมนษุ ยใ์ หค้ วามชุ่มชื้นเเกพ่ ้ืนเเผน่ ดินเป็นประจ�ำทกุ ปี

            พญาคันคากปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม ถือศีลภาวนา สร้างบุญกุศล อยู่
มไิ ดข้ าด ทำ� ใหป้ ระชาชนอยรู่ ม่ เยน็ เปน็ สขุ กนั ถว้ นหนา้ พญาคนั คากมอี ายไุ ดเ้ เสนปจี งึ สนิ้ ชวี ติ หลงั จากนนั้
เป็นต้นมา ชาวโลกก็ได้อาศัยหนทางท่ีพญาคันคากสร้างไว้ขึ้นไปเรียนเอาเวทมนตร์คาถาจากพญาเเถน
เม่ือกลับลงมายงั โลกมนุษยเ์ เลว้ กใ็ ช้คาถาอาคมทีต่ นเองเรียนมาจากครูบาอาจารย์เดียวกันรบราฆ่าฟนั กนั
ลม้ ตายเปน็ จำ� นวนมาก นอกจากน้ีพวกมนษุ ยย์ งั พากนั เกียจครา้ นไม่เอาใจใส่เรอื กสวนไร่นา เมอ่ื ขา้ วกลา้
ท่พี ญาเเถนปลกู ไว้ตามทส่ี ญั ญากบั พญาคันคากสกุ เเกเ่ ต็มท่เี เลว้ กไ็ มพ่ ากนั ทำ� ยุ้งฉางไว้ใส่ มิหนำ� ซ้ำ�   ยงั
พากันโกธรเเค้นที่ให้เมล็ดข้าวใหญ่เท่าลูกมะพร้าว จึงช่วยกันสับฟัน จนเเตกเป็นเม็ดเล็กเม็ดน้อย เมล็ด
ขา้ วจงึ กลายเปน็ เมลด็ เลก็ ๆ ดงั ทเ่ี หน็ ในปจั จบุ นั น้ี จากนนั้ มาขา้ วจงึ ไมเ่ กดิ เอง มนษุ ยต์ อ้ งหวา่ น ไถ ปกั ดำ�  
จงึ จะได้ขา้ วกิน

            เมื่อพญาเเถนเห็นชาวโลกละเลยศีลธรรม ไม่ตั้งตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม พญาเเถนจึง
ทำ� ลายเสน้ ทางการตดิ ตอ่ ระหวา่ งชาวโลกกบั พวกเเถนเสยี นบั ตงั้ เเตน่ นั้ เปน็ ตน้ มาชาวโลกจงึ ไมอ่ าจขน้ึ ไป
ยังเมืองฟ้าพบพญาเเถนได้อกี

2. 	 ผาแดงนางไอ่

       2.1 	ความส�ำคัญของเร่ือง วรรณกรรมทอ้ งถนิ่ อสี านเรอื่ ง ผาแดงนางไอ่ เปน็ วรรณกรรมทม่ี คี วาม
สำ� คญั ทางดา้ นประวัตศิ าสตรท์ ้องถิน่ ชอ่ื บา้ นนามเมอื ง เชน่ หนองหานเมืองสกลนคร และหนองหานนอ้ ย
เมอื งอดุ รธานี และชอ่ื บา้ นนามเมอื งทอ่ี ยใู่ นเขตจงั หวดั มหาสารคามและจงั หวดั รอ้ ยเอด็ และโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ
ความสำ� คัญทางดา้ นประเพณี คอื ประเพณีบุญบงั้ ไฟของชาวอสี านทเ่ี ชื่อวา่ มีตน้ กำ� เนดิ มาจากเรื่องนี้ และ
เป็นวรรณกรรมท่มี เี ฉพาะในภาคอีสาน มีหลากหลายส�ำนวนทั้งรอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง โดยเฉพาะส�ำนวน
มขุ ปาฐะทมี่ กี ารเลา่ สบื ตอ่ กนั มา บางหมบู่ า้ นเชน่ บา้ นเชยี งเหยี น จงั หวดั มหาสารคาม ซงึ่ เปน็ ชอื่ เมอื งหนง่ึ
ที่ปรากฏในเร่ือง และเป็นเมืองโบราณ มีกระรอกเผือกในชุมชนเป็นจ�ำนวนมาก ก็ได้มีการสร้างส�ำนวน
เฉพาะของตนโดยใชส้ ถานทที่ ่มี ีอยู่รอบๆ ประกอบเปน็ สถานท่ใี นเนอื้ เรือ่ งดว้ ย

       2.2 	ส�ำนวนโวหาร ผาแดงนางไอ่ ประพนั ธด์ ว้ ยโคลงสาร และมสี ำ� นวนโวหารทโี่ ดดเดน่ หลายแหง่
ทส่ี ะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ระยะเวลา กระบวนการทำ� บง้ั ไฟ และการเตรยี มงานบญุ บง้ั ไฟทที่ กุ คนมสี ว่ นรว่ ม ผชู้ าย
จดั ปะรำ� พธิ ี หาขา้ วปลาอาหารมาเตรยี มไวต้ อ้ นรบั แขก สว่ นผหู้ ญงิ ใหท้ อหกู ทอผา้ แพรไวเ้ ปน็ ของฝากแขก
ทีม่ างานบุญ ดังเชน่ ส�ำนวนบอกระยะเวลาทที่ �ำบญุ บ้งั ไฟคือเดือนหก ดังข้อความว่า

พอฮอด	    เดือนหกข้ึน	  บุญหลวงบั้งไฟใหญ่
แต่งให้	  เสเนตร์ท้าว	  หาไม้ดู่หลวง
	         สามวาแง้น	    ลวงกลมเหลาเซ่ียน
	         เลาใหญ่บ้ัง	  ประมาณได้เก้าวา	 เจ้าเฮย
	
           	                (พระอริยานวุ ตั ร, 2524, น. 56)

(ฮอด = ถึง 	 บญุ หลวง = บญุ ใหญ่ 	 เซี่ยน = กลงึ 	 ลวง = ขนาด 	 เลา = ลำ� บง้ั ไฟ)
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66