Page 66 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 66

8-56 ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย

มีโครงเร่อื งเหมอื นกัน แต่โครงเรือ่ งยอ่ ย ชอ่ื ตวั ละคร ชอ่ื บ้านนามเมือง สำ� นวนโวหารและภาษาเเตกตา่ ง
กันไปเฉพาะถน่ิ โดยผแู้ ตง่ ชาวอสี านไดน้ ำ� โครงเรอ่ื งมาประพนั ธต์ ามแบบฉบบั ฉนั ทลกั ษณข์ องอสี านทเี่ รยี กวา่
โคลงสารหรือกลอนล�ำ  เพื่อใช้อ่านเป็นมหรสพในงานศพ หรือใช้เทศน์ จึงท�ำให้เร่ืองสังข์ศิลป์ชัยเป็น
วรรณกรรมนทิ านทเ่ี ปน็ ทน่ี ยิ มชนื่ ชอบเปน็ อยา่ งมากของผคู้ นในภาคอสี านจนมกี ารนำ� มาเลา่ ใหล้ กู หลานฟงั
จงึ ทำ� ใหม้ ที งั้ สำ� นวนมขุ ปาฐะและสำ� นวนลายลกั ษณเ์ ปน็ จำ� นวนมาก มกี ารนำ� มาใชส้ ำ� หรบั แสดงหมอลำ� และ
หนังประโมทัยหรือหนังตะลุงจ�ำนวนมาก ตลอดถึงน�ำไปวาดเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังตามโบสถ์วิหารใน
วัดต่างๆ ในภาคอีสานมากมายนอกเหนือจากเรือ่ งพทุ ธประวตั ิและพระเวสสันดรชาดก

       4.2		ส�ำนวนโวหาร เรื่องสงั ขศ์ ิลปช์ ยั มคี วามโดดเด่นด้านวรรณศิลป์ มีการใช้ถ้อยคำ�  เลน่ คำ� ที่มี
ความสัมผัสคล้องจอง ตามลักษณะฉันทลักษณ์ของโคลงสารไพเราะเป็นอย่างยิ่ง จนนักประพันธ์ถือเป็น
แบบฉบับของการแตง่ โคลงสารและกลอนล�ำของอสี าน โดยเฉพาะบทเดน่ ท่มี ีการส่งบทแบบกลบทที่มกี าร
เลอื กใชค้ ำ� ทสี่ มั ผสั ทงั้ เสยี งสระ เสยี งพยญั ชนะ และเสยี งวรรณยกุ ตต์ ำ่� และสงู ในคำ� ทหี่ า้ กบั คำ� ทเี่ จด็ ในวรรค
เดยี วกนั ทำ� ใหเ้ กดิ จงั หวะลลี าของคำ� ทไี่ พเราะ ไดแ้ กต่ อนทส่ี งั ขศ์ ลิ ปไ์ ชยออกเดนิ ทางไปตามหาอาแลว้ เกดิ
คดิ ถึงแมแ่ ละป้า ขอ้ ความวา่

ผ่อเห็น	  ไม้ล่าวล้ม	                เลียนฮ่อมเขาฮอม	     พุ้นเยอ
	         ภูธรลัด	                   เลียบพะนองน�ำน้อง
	         เห็นผากว้าง	               เขาค�ำค้อยค�่ำ
ดอยน้ัน	  อินทร์แต่งต้ัง	            เขาเฮื้องฮุ่งเฮือง
	         ทุกประกอบแก้ว	             เป็นค�ำทุกค่�ำ
	         ภูวนาถท้าว	                ใจสล่ังฮุ่งหลัง
	         เยื่อนยากเท้า	             ทั้งแห่งโฮยแฮง
	         เดินดงหลวง	                กว่าไกลลือใกล้
	         เลยล่วงขึ้น	               เขางอนเงยง่อน
ท้าวก็	   คึดแป่ป้า	                 ปุนไห้ฮ่�ำไฮ	
	         หลิงดอกไม้	                ก้านก่องอินทร์กอง	 พุ้นเยอ
บาก็	     ยินดีผาย	                  ฮอดซอนซมซ้อน
	         พอใจแล้ว	                  เดินเดียวดั้นเดี่ยว
	         ขว้ามมอบด้าว	              ไปหน้าหน่วงหนา
ฟังยิน	   สักกูณาฮ้อง	               ควายคอนฮ้องค่อน	 พุ้นเยอ
บางพ่อง	  ฮักฮ่วมซู้	                สมก้อยเก่ียวกอย
	         กอยกลมเกี้ยว	              มีไลซ้อนไหล่
คือดัง	   สองก่อซ้อน	                ซมเหง้าหง่วมเหงา
บาก็	     ผายตนดั้น	                 ดงยางเย้ือนย่าง
	         คึดแม่ป้า	                 ปุนไห้ฮ�่ำไฮ
	                                    (พระอริยานุวตั ร, 2531, น. 49-50)
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71