Page 69 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 69
วรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ภาคอีสาน 8-59
มีทั้ง ไฟเฟืองส้ม ผุงผางใกล้พ่าง พุ้นเยอ
ล�ำดวนดก ดู่เลียนล�ำเลี้ยน
เลียนล�ำเลี้ยน เลียนล�ำต้นต�่ำ
ต้นต่อต้น ป�ำไป้สืบไป
(พระอริยานวุ ตั ร, 2523, น. 14)
(ยม = มะยม ม้ี = ขนุน ผาง = มะปราง พา่ ง = ใกล ้
เหม้า = มะเม่า ตา้ ว = ต้นไมช้ นิดหนึง่ คล้ายต้นแต้ว
เหมือด = ต้นไมช้ นิดหน่งึ มีหลายชนดิ ใชก้ นิ หรือทำ� ยาได้ เช่น เหมือดแอ่ เหมือดคน เปน็ ต้น
ตว้ิ = ต้นไมช้ นดิ หน่งึ ใบและดอกใชท้ �ำเปน็ อาหารได้ มรี สเปรี้ยว)
5.3 คณุ คา่ ของเรอื่ ง เรอื่ งเสยี วสวาดมคี ณุ คา่ ดา้ นการสง่ั สอนทเ่ี ปน็ ปรศิ นาธรรม มสี าระทเ่ี ปน็ คำ� คม
และมอี รรถรสลกึ ซง้ึ กนิ ใจทสี่ งั คมอสี านถอื เปน็ แบบฉบบั ในการดำ� เนนิ ชวี ติ หลายอยา่ ง ใชใ้ นการสงั่ สอนผคู้ น
ในสงั คม ถงึ แมว้ า่ วรรณกรรมเรอ่ื งนจ้ี ะแตง่ มานาน ถอื ไดว้ า่ เปน็ วรรณกรรมโบราณแตค่ ำ� สอนสว่ นมากลว้ น
ยงั มคี วามทนั สมยั อยเู่ สมอ เชน่ หญงิ สามผวั เจา้ หวั สามโบสถ์ หรอื อยา่ ดา่ พด่ี า่ นอ้ ง ไสอ้ ยทู่ อ้ งจกั เกดิ เปน็
หนอน เป็นตน้
5.4 เรื่องย่อ
ณ เมอื งพาราณสี มกี ฎุมพอี ย่คู นหน่ึงแกช่ ราแลว้ มบี ตุ รชาย 2 คน คนพี่ชอ่ื ทา้ วสเี สลียว คนน้อง
ชอื่ ทา้ วเสยี วสวาด เมอ่ื ใกลจ้ ะตายกฎมุ พไี ดแ้ บง่ เรอื นใหล้ กู ชายทง้ั สองคนละหลงั ทา้ วสเี ฉลยี วไดเ้ ลอื กเรอื น
ท่ีสร้างเสร็จแล้ว ส่วนท้าวเสียวสวาดได้เลือกเรือนที่ยังสร้างไม่เสร็จ จึงท�ำนายว่าลูกชายคนเล็กเป็นคน
มีปัญญาจะประสบความสําเร็จในชีวิตเป็นแน่แท้ หลังจากนั้นจึงส่ังสอนบุตรชายทั้งสองให้ปฏิบัติตนอยู่ใน
จารีตประเพณีและศีลธรรมอันดีโดยได้เล่านิทานประกอบ เมื่อกฎุมพีตายไปแล้ว ท้ังสองพี่น้องได้ปฏิบัติ
ตามคำ� สง่ั สอนของพอ่ ดว้ ยดตี ลอดมา อยมู่ าวนั หนง่ึ ไดม้ เี รอื สำ� เภามาจอดทที่ า่ นำ้� เมอื งพาราณสี ทา้ วเสยี วสวาด
ได้ขอเดินทางไปค้าขายด้วย นายส�ำเภารับค�ำยินดีให้ท้าวเสียวสวาทเดินทางไปด้วย ท้าวเสียวสวาดดีใจ
มากไดไ้ ปลาพช่ี ายและญาตพิ น่ี อ้ งแลว้ เดนิ ทางไปกบั เรอื สำ� เภา นายสำ� เภาไดเ้ กดิ มคี วามรกั ความเมตตาตอ่
ทา้ วเสยี วสวาดเหมือนลกู ของตน เม่อื เดนิ ทางไปและเรือสำ� เภาแล่นผ่านสถานที่ต่างๆ เชน่ หมู่บ้าน เมือง
ปา่ เขา วดั วาอาราม เปน็ ตน้ ทา้ วเสยี วสวาทจงึ ซกั ถามนายเรอื ส�ำเภาถงึ สถานทต่ี า่ งๆ ทเี่ รอื สำ� เภาแลน่ ผา่ น
เช่น ถามวา่ หมู่บา้ นน้มี ีคนอย่ไู หม ในเมอื งนม้ี เี จา้ เมอื งไหม ในป่ามีตน้ ไมไ้ หม ในวัดมีพระสงฆไ์ หม เมอื ง
น้ีมีคนแก่ไหม เป็นต้น บรรดาลูกเรือท่ีได้ยินค�ำถามของท้าวเสียวสวาดต่างก็พากันหัวเราะเห็นเป็นเรื่อง
ตลกคดิ ว่าเปน็ ค�ำถามทโ่ี ง่ที่สุด นายส�ำเภาจงึ เตือนท้าวเสยี วสวาดวา่ ควรพูดแต่เรอ่ื งก�ำไรขาดทนุ หรอื สง่ิ ท่ี
เป็นมงคล อย่าพูดเร่ืองท่ีไร้สาระ จนเดินทางมาถึงเมืองจ�ำปาซึ่งเป็นบ้านเมืองของนายส�ำเภา ท้าวเสียว
สวาทได้ไปพักอยู่บ้านนายส�ำเภา และนายส�ำเภาได้เล่าเรื่องการไปค้าขายให้ลูกเมียฟังและบอกว่าโชคดี
ได้ลูกชายมาดว้ ย เป็นคนขยันหนักเอาเบาสู้ ซ่ือสตั ย์ แต่เสยี ดายทีช่ อบถามเรือ่ งไร้สาระ นางศรไี วจงึ ถาม
คำ� ถามของท้าวเสยี วสวาดจากผเู้ ปน็ พอ่ เม่ือได้ฟังแลว้ จึงไดอ้ ธบิ ายความหมายของคำ� ถามของเสยี วสวาด
ให้บิดามารดาฟัง บิดามารดาจึงเห็นถึงความเฉลียวฉลาดของลูกสาวและท้าวเสียวสวาด จึงได้จัดการ
แตง่ งานใหก้ ับนางศรไี วและทา้ วเสยี วสวาทอยา่ งสมเกียรติ