Page 70 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 70

8-60 ภาษาถิ่นและวรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ไทย
       กลา่ วถึงเจา้ เมอื งจำ� ปาปกครองบา้ นเมอื งอย่างไร้คณุ ธรรม ท�ำใหป้ ระชาชนเดือดร้อนและอยอู่ ยา่ ง

หวาดระแวงเพราะเจ้าเมืองได้จัดให้คนมาเป็นยาม เม่ือใครหลับก็จับลงโทษประหารชีวิตหรือยึดทรัพย์สิน
สว่ นนายสำ� เภาเกรงวา่ จะมภี ยั มาถงึ ตนจงึ มอบทรพั ยส์ มบตั ใิ หล้ กู สาวลกู เขยแลว้ เลา่ เรอ่ื งใหท้ า้ วเสยี วสวาด
ฟัง ท้าวเสียวสวาดจึงได้ไปหาเจ้าเมืองและบอกข้อเท็จจริงที่ประชาชนเดือดร้อนให้พระราชารับทราบและ
สงั่ สอนเจา้ เมอื งพรอ้ มทง้ั เลา่ นทิ านเรอ่ื งตา่ งๆ ประกอบ เชน่ เลา่ นทิ านเรอ่ื งความโหดรา้ ยของพระราชาผหู้ เู บา
เรอ่ื งเลห่ เ์ หลยี่ มของคน เรอื่ งการตดั สนิ คดคี วามทเ่ี ปน็ ธรรมและไมเ่ ปน็ ธรรม เปน็ ตน้ เจา้ เมอื งไดเ้ ชอ่ื ในคำ� สอน
ของทา้ วเสยี วสวาดและไดแ้ ตง่ ตง้ั ใหท้ า้ วเสยี วสวาดเปน็ บณั ฑติ และใหท้ า้ วเสยี วสวาดชว่ ยสง่ั สอนเหลา่ เสนา
อ�ำมาตย์และชาวเมืองของเมืองจ�ำปาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ด้วยคุณลักษณะพิเศษท่ีเสียวสวาดเป็นคนดีมี
สตปิ ญั ญาเฉลยี วฉลาด แตไ่ มล่ มื ตวั เคารพออ่ นนอ้ มถอ่ มตนตอ่ คนทวั่ ไปและปฏบิ ตั หิ นา้ ทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ดว้ ยความขยนั หมนั่ เพยี ร จนเมอื งจำ� ปาผา่ นพน้ ภยั พบิ ตั ิ เจา้ เมอื งกลบั มามศี ลี ธรรม ปกครองบา้ นเมอื งดว้ ย
ทศพธิ ราชธรรม เหลา่ เสนาอำ� มาตยแ์ ละประชาชนขยนั หมน่ั เพยี ร รกั ษาศลี ฟงั ธรรม เคารพในจารตี ประเพณี
อนั ดีงามของบ้านเมอื ง ทา้ วเสียวสวาดจงึ เปน็ ท่ีรักใครโ่ ปรดปรานของเจ้าเมอื งจำ� ปายิง่ นัก และเมอื งจำ� ปา
ก็เจรญิ รงุ่ เรืองอดุ มสมบรู ณแ์ ละสงบสขุ

6. 	 ต�ำนานเมืองฟ้าแดดสงยาง

       6.1 	ความส�ำคัญของเรื่อง ต�ำนานเมอื งฟา้ แดดสงยาง เปน็ วรรณกรรมทเี่ ป็นตำ� นานบา้ นต�ำนาน
เมืองโบราณทมี่ ีอยูจ่ รงิ ปัจจุบนั อยู่ในเขตตำ� บลหนองแปน อำ� เภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ มซี ากเมอื ง
เกา่ เปน็ คนู ำ้� สองชนั้ มเี ศษภาชนะดนิ เผา และสง่ิ สำ� คญั ทเี่ ปน็ เอกลกั ษณข์ องเมอื งโบราณแหง่ นค้ี อื ใบเสมา
หินทรายจ�ำนวนมากหลากหลายรูปแบบ มีความสมบูรณ์พอท่ีจะเป็นหลักฐานและข้อสันนิษฐานถึงความ
เจรญิ รงุ่ เรอื งในอดตี ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี มใี บเสมาทมี่ คี ณุ คา่ ทางศลิ ปกรรมสงู อยมู่ ลี กั ษณะศลิ ปกรรมแบบทวารวดี
มีอายรุ าว 1,300 ปี จ�ำหลักเรอื่ งราวเกยี่ วกบั พุทธประวัติสวยงามยง่ิ ตำ� นานฟ้าแดดสงยาง กลา่ วถงึ กรณี
พิพาทของกลุ่มชน 2 อาณาจักร 2 กลุ่มชนดั้งเดิม และสถานท่ีที่มีการกล่าวถึงในเน้ือเรื่องก็ยังมีอยู่ใน
ปัจจบุ นั เชน่ สระน�้ำ และโนนสาวเอซ้ ่ึงมสี ถปู เก่าแก่ ข้างล่างมพี ระพทุ ธรูปเกา่ แก่ ชาวบา้ นเชอ่ื ว่าเป็นที่ตง้ั
ของเจดยี ท์ บ่ี รรจอุ ฐั ขิ องนางฟา้ หยาดและพระยาจนั ทราช ซงึ่ ปจั จบุ นั เปน็ เนนิ ดนิ สงู ตงั้ อยใู่ นกลางทงุ่ นา ทงุ่ นา
ท่ลี ้อมรอบเรยี กว่า ทงุ่ ฟา้ แดด และมเี จดีย์ท่ีเปน็ หนง่ึ ในโบราณสถานท่ีคน้ พบในเขตเมอื งฟา้ แดด ปัจจุบัน
เรียกว่า “พระธาตยุ าค”ู

       6.2 	ส�ำนวนโวหาร ต�ำนานฟ้าแดดสงยางเป็นวรรณกรรมท่ีแต่งด้วยโคลงสาร มีการใช้ถ้อยค�ำ 
เล่นค�ำทม่ี คี วามสมั ผสั คลอ้ งจอง ตามลกั ษณะฉันทลักษณข์ องโคลงสารไพเราะเปน็ อยา่ งยิง่ ใชภ้ าษาทง่ี า่ ย
ในการพรรณนาเนอื้ เรอื่ ง ทำ� ใหง้ า่ ยตอ่ การเขา้ ใจเนอ้ื เรอื่ งและเขา้ ถงึ อารมณค์ วามรสู้ กึ ของผอู้ า่ นผฟู้ งั ไดล้ กึ ซงึ้
ดังตัวอย่างบทพรรณนาบรรยากาศบ้านเมืองฟ้าแดดตอนท่ีพ่อค้าชาวเมืองไปค้าขายกลับมาเมื่อจอดเรือ
แล้วภรรยาวง่ิ มาตอ้ นรบั และเลี้ยงข้าวเล้ียงเหลา้ ญาตพิ ี่นอ้ ง ขอ้ ความว่า
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75