Page 65 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 65
วรรณกรรมทอ้ งถ่ินภาคอสี าน 8-55
รับปากการสู่ขอของขุนลาง นางเสียใจมากเเละไม่ยอมรับการสู่ขอโดยกล่าวว่าขุนลางเป็นคนนอกศาสนา
ไม่นับถือพระธรรม เเต่มารดาก็สั่งคนของขุนลางให้ไปบอกว่ายอมรับค�ำสู่ขอของขุนลาง เเม้ว่าลูกสาว
ไมย่ อมก็จะช่วยหาวธิ ปี ลอมใหย้ อมในภายหลัง
ฝา่ ยทา้ วขลู ู เมอ่ื กลบั ถงึ เมอื งกาสกี เ็ ฝา้ คดิ ถงึ เเตน่ างอวั้ จงึ ขอรอ้ งใหม้ ารดาสง่ คนไปสขู่ อนางอวั้
เมอ่ื คนของทา้ วขลู ไู ปสขู่ อครงั้ เเรก มารดาของนางอว้ั กลบั ไมย่ อมตกลง เเละอา้ งวา่ ไดต้ กลงกบั ฝา่ ยขนุ ลาง
ไว้ก่อนเเล้ว เมอ่ื มารดาของท้าวขลู ู ทราบข่าววา่ มารดาของนางอวั้ ไม่ตกลงจงึ ได้อา้ งถึงคำ� พูดที่เคยสัญญา
กันไว้ในอดีต ดังน้ันจึงเดินทางไปเมืองกายพร้อมท้าวขูลูเพื่อทวงค�ำมั่นสัญญาเเละตั้งใจจะไปท�ำพิธีเส่ียง
สายเเนนเพราะเช่ือกันว่าทุกคนจะมีสายรกพัวพันกันอยู่บนเมืองเเถนก่อนลงมาเกิดเเละคนเราต้องเป็นไป
ตามสายเเนนดงั นน้ั เพอื่ ทจี่ ะดวู า่ ทง้ั สองคนคอื ทา้ วขลู เู เละนางอวั้ เปน็ คกู่ นั หรอื ไม่ จงึ มกี ารเสยี่ งทาย สายแนน
ผลเสยี่ งสายเเนน พบวา่ สายเเนนของทา้ วขลู เู เละนางอวั้ พนั กนั เเตต่ อนปลายยอดดว้ นเเละเเยกออกจากกนั
ซงึ่ เเสดงวา่ เปน็ เนอื้ คกู่ นั เเตไ่ มไ่ ดอ้ ยดู่ ว้ ยกนั หรอื อาจตอ้ งพรากจากกนั เมอื่ รดู้ งั นนั้ ฝา่ ยเมอื งกาสจี งึ ลากลบั ไป
หลงั จากนน้ั ขนุ ลางไดส้ ง่ คนมาทาบทามอีกครงั้ หนง่ึ เพอ่ื ก�ำหนดวนั อภเิ ษกสมรสเเละเพ่อื ฟงั
ขา่ ววา่ นางอวั้ วา่ ตกลงปลงใจหรอื ยงั เเละมารดานางอว้ั ไดต้ อบตกลงพรอ้ มทง้ั กำ� หนดวนั เเตง่ งานเรยี บรอ้ ย
สรา้ งความโศกเศรา้ เสยี ใจให้เเกน่ างอัว้ เปน็ อย่างมาก นางจึงสง่ คนรบั ใช้ไปเชญิ ท้าวขูลูมาพบ เเละเมือ่ พบ
กนั นางไดเ้ ลา่ ความทกุ ขใ์ จใหท้ า้ วขลู ฟู งั ทา้ วขลู จู งึ บอกใหน้ างรอกอ่ นเพราะเดยี๋ วตนเองจะไปยกทพั มาเเยง่ ตวั
นางจากขุนลางเอง
เมอ่ื มารดาของนางอว้ั ทราบขา่ วการลกั ลอบมาพบกนั ของทา้ วขลู เู เละนางอว้ั นางกโ็ กรธมาก
จงึ ไปด่าว่านางอั้วว่าไปเลน่ ชู้กับสามคี นอ่นื ไม่รกั นวลสงวนตัว ท�ำให้เเมเ่ สยี หน้าเพราะว่าไดย้ กให้ขุนลาง
ไปเเล้ว นางอ้ัวเสียใจมากที่ถูกเเม่ด่าว่า จึงหนีไปผูกคอตาย เม่ือมารดาทราบข่าวว่านางอ้ัวหายไปก็ออก
ตามหาจนไดร้ วู้ า่ นางอว้ั ไปผกู คอตายทต่ี น้ จวง จงึ ใหค้ นไปสง่ ขา่ วเเกท่ า้ วขลู ู เมอ่ื ทา้ วขลู ทู ราบขา่ วการตาย
ของนางอ้ัวเสียใจมากจนไม่เป็นอันกินอันนอนเเละโดนผีตายโหงเข้าสิงจึงคว้ามีดมาเเทงที่คอตนเองตาย
ทงั้ ทา้ วขลู ูเเละนางอ้วั ไดไ้ ปเกดิ บนสวรรค์เเละได้พบกนั อีกครง้ั หนงึ่
มารดาของท้าวขูลูเเละนางอ้ัวจึงจัดพิธีศพของทั้งสองพร้อมกันที่ตรงกลางระหว่างเมืองกา
สีเเละเมอื งกายจากนน้ั จึงสร้างเจดียบ์ รรจอุ ฐั ขิ องทงั้ สองไว้ทเ่ี ดยี วกัน เเละตง้ั เมอื งขึ้นมาใหม่ ประชาชนอยู่
กันอย่างมีความสุข ส่วนพระมารดาของทั้งสองเมืองนั้นได้ออกบวช ในที่สุดก็ได้ไปเกิดบนสวรรค์เเละได้
พบกับทา้ วขลู ูเเละนางอ้วั
ว่ากันว่าตอนท่ีท้าวขูลูกับนางอั้วอยู่ร่วมกันบนสวรรค์นั้นจะปรากฏเป็นรูปรุ้งกินน�้ำที่มีสีสัน
สวยงามบนท้องฟ้า ส่วนเศษเถ้าอัฐิของท้าวขูลูกับนางอั้วน้ัน ได้เกิดเป็นดอกกล้วยไม้ดิน ที่มีรูปร่างสีสัน
สวยงามดอกเล็กๆ สองชนดิ มที งั้ สีขาวมว่ งชมพู และสีขาวขึ้นมาในบริเวณที่เผาศพชชู ่อให้คนท่ีผ่านไปมา
ไดพ้ บเห็น
4. สังข์ศิลป์ชัย หรือสินไซ
4.1 ความสำ� คญั ของเรอ่ื ง วรรณกรรมทอ้ งถน่ิ อสี านเรอื่ งสงั ขศ์ ลิ ปช์ ยั หรอื สนิ ไซเปน็ วรรณกรรม
ทแ่ี พรห่ ลายในทอ้ งถนิ่ ตา่ งๆ ของไทย ในภาคเหนอื เปน็ สำ� นวนคา่ วซอเรยี กวา่ “สงั ขศ์ ลิ ปธ์ นชู ยั ” ภาคกลาง
เปน็ สำ� นวนกลอนสวดเรียกว่า “สงั ขศ์ ิลปช์ ัยกลอนสวด” ภาคอีสานเรียกว่า “สงั ขศ์ ลิ ป์ชัย” หรือ “สินไซ”