Page 34 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 34

2-24 ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์

                      ภาพท่ี 2.4 ภาพยนตร์เร่ือง The Cabinet of Dr. Caligari
       หลงั จาก The Cabinet of Dr. Caligari ออกฉายกไ็ ดร้ ับคำ� ชมเชยยกยอ่ งท่วั ไปท้ังในเยอรมนี
และนานาประเทศ เทา่ กบั วา่ การสร้างภาพยนตร์ในแบบของศิลปะเอ็กซเ์ พรสชันนสิ มเ์ ปน็ ทยี่ อมรบั และได้
มกี ารสรา้ งภาพยนตรร์ ปู แบบนตี้ อ่ มาอกี หลายเรอื่ งเกย่ี วขอ้ งกบั ความสยองขวญั ผดี บิ ดดู เลอื ด หนุ่ ดนิ เหนยี ว
ฯลฯ เชน่ The Golem (1920) Nosferatu (1922) Waxworks (1924) Faust (1926) และ Frankenstein
(1931) เป็นต้น
       ภาพยนตร์เอ็กซ์เพรสชันนิสม์ไม่ได้ใช้การวาดฉากเสมอไป ดังเร่ือง Nosferatu ของผู้ก�ำกับ
ฟรีดริค วิลเฮล์ม มัวเนา (Friedrich Wilhelem Murnau) ซึ่งเป็นเรื่องของแดร๊กคูล่าผีดูดเลือดนั้น
มวั เนาไมไ่ ดใ้ ชร้ ปู แบบการสรา้ งฉากในโรงถา่ ยเหมอื นคนอน่ื ๆ แตใ่ ชก้ ารถา่ ยท�ำนอกสถานทโ่ี ดยวธิ กี ารวาง
มมุ กลอ้ งและจดั แสงเงาสรา้ งบรรยากาศอนั นา่ สะพงึ กลวั ระทกึ ใจขนึ้ นอกจากนภ้ี าพยนตรเ์ อก็ ซเ์ พรสชนั นสิ ม์
กม็ ไิ ดม้ แี ตเ่ รอื่ งสยองขวญั เทา่ นน้ั แตย่ งั รวมถงึ เรอ่ื งทสี่ ะทอ้ นความกดดนั ในใจมนษุ ย์ เชน่ The Last Laugh
(1924) โดยมวั เนา และเร่ืองของโลกอนาคต Metropolis (1926) โดยฟริตซ์ แลง (Fritz Lang) ทใ่ี ช้แสง
เงาและจงั หวะการตดั ตอ่ เสนอภาพความขดั แยง้ ระหวา่ งกลมุ่ ผใู้ ชแ้ รงงานกบั ชนชนั้ นายทนุ ไดอ้ ยา่ งนา่ ประทบั ใจ
(Gronemeyer, 1998, pp. 62-63)
       ภาพยนตรเ์ ร่อื ง Metropolis และเร่ือง Faust ใชง้ บประมาณสร้างจำ� นวนมาก ประกอบกับเป็น
ชว่ งเวลาทเ่ี กิดภาวะเงินเฟอ้ UFA จึงเกดิ วิกฤตทางการเงิน ผ้กู ำ� กับภาพยนตร์เยอรมนั หลายคน รวมทงั้
มวั เนาเดนิ ทางไปทำ� งานยงั ฮอลลวี ดู ทำ� ใหย้ คุ ทองของภาพยนตรเ์ ยอรมนั เอก็ ซเ์ พรสชนั นสิ มด์ ำ� รงอยเู่ พยี ง
ระยะเวลาสั้นๆ แต่ผู้ก�ำกับเยอรมันเหล่านั้นได้น�ำรูปแบบน้ีไปใช้ในฮอลลีวู้ดด้วย ภาพยนตร์ของฮอลลีวูด
จงึ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลของภาพยนตรเ์ อก็ ซเ์ พรสชนั นสิ มจ์ ากเยอรมนั ตอ่ มา โดยเฉพาะเรอ่ื ง Son of Franknustein
ปี 1939 ตลอดจนภาพยนตรฟ์ ลิ ม์ นวั ร์ (Film Noir) กไ็ ดร้ บั อทิ ธพิ ลจากภาพยนตรแ์ นวเอก็ ซเ์ พรสชนั นสิ ม์
น้ีด้วยเช่นกัน ดังน้ันแม้ว่าภาพยนตร์เยอรมันเอ็กซ์เพรสชันนิสม์จะจบลงด้วยเวลาอันรวดเร็ว แต่รูปแบบ
ของภาพยนตร์เอ็กซ์เพรสชันนิสม์มิได้สูญหาย หากคงด�ำเนินอยู่ต่อมาจนกระทั่งปัจจุบัน (Bordwell &
Thompson, 1997, pp. 451-452)
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39