Page 21 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 21
การเลา่ เรื่องในภาพยนตร์ 8-11
ซึ่งเรียกว่า “ศาสตร์แห่งการเล่าเรื่อง” (Narratology) โดยการศึกษาการเล่าเรื่องในครั้งน้ีไม่ได้เป็นตาม
แบบกระบวนทศั นเ์ ดมิ อยา่ งทก่ี ารศกึ ษาทางดา้ นภาษาศาสตรเ์ คยใชแ้ ตเ่ ปน็ ในกระบวนทศั นใ์ หม่ เหตทุ เ่ี ปน็
เชน่ นนั้ กเ็ พราะการศกึ ษาการเลา่ เรอ่ื งภายใตก้ ระบวนทศั นเ์ หตผุ ลนยิ มนน้ั เชอื่ วา่ ในเรอื่ งเลา่ นนั้ ตอ้ งมเี หตผุ ล
บางอยา่ งทเ่ี ปน็ ความจรงิ ซง่ึ อาจจะไมส่ ามารถนำ� ไปวเิ คราะหเ์ รอ่ื งเลา่ ในสมยั ปจั จบุ นั ได้ เนอ่ื งจากเรอื่ งเลา่
ในปจั จบุ นั ไมส่ ามารถหาทม่ี าทไี่ ปไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ลได้ ทงั้ นเี้ พอ่ื ใหเ้ หน็ ภาพความแตกตา่ งระหวา่ งการศกึ ษา
เรือ่ งเล่าระหวา่ ง 2 กระบวนทัศน์ ขอสรุปประเดน็ ต่างๆ ดังนี้
ตารางท่ี 8.1 เปรียบเทียบความแตกต่างในประเด็นต่าง ๆ ระหว่างกระบวนทัศน์เชิงเหตุผล
และกระบวนทัศน์การเล่าเร่ือง
ประเด็น กระบวนทัศน์เชิงเหตุผล กระบวนทัศน์การเล่าเร่ือง
เปา้ หมาย เลา่ เรอ่ื งเพอื่ สะท้อนความเป็นจริง เลา่ เรื่องเพ่ือประกอบสร้างความเปน็ จรงิ
ขอบเขต (reflection of reality) (construction of reality)
ศาสตร์ดา้ นศิลปะ อักษรศาสตร์ ขยายออกไปยงั ศาสตร์แขนงต่างๆ
หน้าที่ วรรณกรรม ครอบคลมุ ทัง้ เนื้อหาท่ีเปน็ “เรือ่ งแต่ง”
(fiction) และ “เร่ืองจรงิ ” (factual)
จดุ เน้นของการ ในเชิงสุนทรียะ (aesthetic) มุ่งท�ำความเข้าใจ (understanding)
ศึกษาเรือ่ งเลา่ ว่าเหตุใดการเลา่ เร่อื งจึงมีการประกอบ
เคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ น สนใจวา่ “จะเล่าเรื่องอะไร” (What to สร้างความหมายเช่นนัน้
การเลา่ เร่ือง narrate) กลา่ วคือลกั ษณะของเร่อื งที่เลา่ จะเนน้ ไปท่ี “วิธกี ารเลา่ เร่อื ง” มากกวา่
แนวทางในการ จะเปน็ ตวั กำ� หนดวิธีการเลา่ เร่ือง “เรือ่ งทีเ่ ลา่ ” เพราะการเล่าเรอื่ งสามารถที่
วเิ คราะห์ กระท�ำผา่ น “ภาษา” เทา่ นนั้ ซึ่งอาจจะ จะประกอบสรา้ งความหมายสิง่ ตา่ งๆ
เปน็ ภาษาเขียนหรอื พดู ไม่จำ� กดั ขอบเขตอยเู่ พยี งแค่ภาษาพดู และ
ภาษาเขียนเทา่ นัน้ แต่รวมไปถึงภาพ และ
น�ำเอาตรรกะตา่ งๆ อันเปน็ “ปัจจยั เสยี งดว้ ย
ภายนอก” ท่ีใชใ้ นการศกึ ษาโลกจริงมาใช้ ใช้ “ตรรกะภายในเรือ่ งเล่า” (internal
ในการศกึ ษาเรื่องเลา่ logic) มาเปน็ แนวทางในการวเิ คราะห์