Page 26 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 26
8-16 ทฤษฎแี ละการวิจารณภ์ าพยนตร์
ในการวเิ คราะห์โอดปิ ุสน้นั เลว่ี สเทราส์มองว่าความหมายที่ซอ่ นอยูใ่ นนิยายปรัมปราเร่อื งนี้ คือ
เรื่องเล่าทางวัฒนธรรมที่ซ่อนความหมายให้คนในสังคมน้ันปรองดองกัน ซ่ึงเป็นการตีความหมายจาก
พ้ืนฐานความเป็นนักวชิ าการด้านมานษุ ยวทิ ยาของเขา
แม้เลว่ี สเทราส์ จะระบวุ ่าการวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งการเลา่ เรื่องน้มี ีความเปน็ วตั ถุวสิ ัย (มหี ลกั การ/
แนวคิด ปราศจากความเห็น/ความรู้สึกเฉพาะตัว) และความเป็นวิทยาศาสตร์ (scientific) แต่เขาก็ถูก
นักวิชาการหลังโครงสร้างนิยมวิจารณ์ในประเด็นเดียวกับที่พร็อพถูกวิจารณ์คือเป็นการตีความท่ีมีความ
เปน็ อตั วสิ ยั สงู (มคี วามเหน็ /ความรสู้ กึ เฉพาะตวั ) และการตคี วามนนั้ มาจากพน้ื ฐานความเปน็ นกั มานษุ ย-
วทิ ยาของเขา
3. การศึกษาเรื่องเล่าของเทฟทัน โธโดรอฟ
เทฟทัน โธโดรอฟ (Tsvetan Todorov, 1939-2014) เป็นนักวชิ าการชาวบลั แกเรีย ซง่ึ ได้แปล
งานของพร็อพเปน็ ภาษาฝรง่ั เศส งานของโธโดรอฟนน้ั อธิบายถงึ โครงสร้างของเรื่องเลา่ ว่าประกอบดว้ ย
สถานการณท์ ี่ 1 สภาวะทีส่ มดุลในจดุ เรมิ่ ต้น
การทำ� ลายสภาวะสมดุลด้วยการกระท�ำบางอย่าง
การยอมรับว่าสภาวะที่สมดลุ นั้นได้ถูกทำ� ลายลงไปแล้ว
ความพยายามท่จี ะซอ่ มแซมสภาวะความสมดลุ ทถี่ ูกท�ำลาย
สถานการณท์ ี่ 2 การท่ีสภาวะสมดุลน้ันกลับคนื มา
แนวคิดดังกล่าวของโธโดรอฟถูกมองว่าคล้ายคลึงกับค�ำอธิบายของอริสโตเติลท่ีอธิบายพ้ืนฐาน
ของการเล่าเรื่องว่าประกอบด้วย จากสภาพที่ทุกข์ยากสู่สภาพท่ีมีความสุข และจากสภาพที่มีความสุขสู่
สภาพทีท่ ุกขย์ าก ขณะที่คำ� อธิบายของโธโดรอฟนัน้ จะมี 3 ข้นั ไดแ้ ก่ จากภาวะสมดุล สู่ภาวะที่ลม่ สลาย
และจากสภาวะลม่ สลายสสู่ ภาวะสมดลุ
นักวิชาการทั้ง 3 ท่านข้างต้นน้ันเป็นนักคิดในกลุ่มโครงสร้างนิยม ส่วนนักวิชาการ 3 ท่านท่ีจะ
กล่าวถึงต่อไปเป็นนักคิดในกลุ่มหลังโครงสร้างนิยม ซึ่งได้เปลี่ยนความสนใจจากเดิมท่ีสนใจใน “ตัวบท”
(text) อย่างท่ีนักวิชาการกลุ่มโครงสร้างนิยมกระท�ำมาสู่ “การศึกษาผู้อ่าน” และมองว่าความหมายใน
ตัวบทไม่เคยมหี น่งึ เดยี ว แต่มีลักษณะเป็นการลื่นไหลของความหมาย (the play of meanings) ท่ีขึ้นอยู่
กับผู้ที่ตีความสาร
4. การศึกษาเร่ืองเล่าของโรล็องด์ บาร์ธส์
แนวคดิ ของโรล็องด์ บาร์ธส์ (Roland Barthes, 1915-1980) นน้ั ตา่ งจากแนวคดิ ของนกั วชิ าการ
กลมุ่ โครงสรา้ งนยิ มทมี่ งุ่ หาโครงสรา้ งของการเลา่ เรอ่ื งในตวั บท โดยเขาใหค้ วามสำ� คญั กบั ผรู้ บั สารในฐานะ
ที่เป็นผู้สร้างความหมายให้เกิดขึ้นในขณะที่ตีความสาร ผู้ประพันธ์เป็นเพียงแต่เขียนเพียงช่ัวขณะหนึ่ง
เทา่ นั้น ดงั ที่เขาได้เขียนในบทความชอ่ื “มรณกรรมของผปู้ ระพันธ”์ (The Death of the Author)