Page 31 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 31

การเล่าเร่อื งในภาพยนตร์ 8-21

       2.	 	ก ารเลา่ เรอื่ งในภาพยนตรน์ นั้ สามารถแบง่ ออกเปน็ 3 แบบ ไดแ้ ก่ (1) การเลา่ เรอ่ื งแบบ
          กระแสหลัก (classical narration) เปน็ การเล่าเรอื่ งทมี่ ีทีม่ าจากสตูดิโอภาพยนตร์ใน
          ฮอลลีวูด ซึ่งครอบง�ำการเล่าเรื่องในโลกของภาพยนตร์ส่วนใหญ่ มีลักษณะให้ตัวตน
          ปจั จยั ทางจติ วทิ ยาของตวั ละคร ความตอ้ งการของตวั ละครเปน็ สาเหตขุ องเหตกุ ารณท์ ่ี
          เกิดในเร่อื งเล่า การเลา่ เรือ่ งเป็นไปในลักษณะของเหตุและผล (cause-effect chain)
          ตอนจบมีลักษณะปิด การเล่าเร่ืองน้ันจะปรากฏคู่ขัดแย้งเป็นคู่ๆ เร่ืองราวก็ด�ำเนินไป
          ภายใตค้ ขู่ ดั แยง้ ทง้ั คู่ (2) การเลา่ เรอ่ื งแบบสมยั ใหม่ (modernist narration) มลี กั ษณะ
          ท่ีปฏิเสธการเล่าเร่ืองแบบคลาสสิกของฮอลลีวูด ทีมีสไตล์ส่วนบุคคลของผู้ก�ำกับผ่าน
          การจดั องคป์ ระกอบภาพ (mise-en-scène) เล่าในลกั ษณะทต่ี น้ เหตขุ องเรอ่ื งมาจาก
          ปจั จยั ทางการเมอื ง หรอื เปน็ การวพิ ากษป์ ระเดน็ ทางสงั คมไมใ่ ชป่ จั จยั ทางจติ วทิ ยาของ
          ตัวละคร การเล่าเรื่องจะไม่ถูกเล่าจากมุมมองในการเล่าเร่ืองเพียงคนเดียวเท่าน้ัน แต่
          เร่ืองอาจถูกเล่าจากหลายคน หลายแบบ การล�ำดับเรื่องราวไม่เป็นไปตามการล�ำดับ
          การเกดิ กอ่ นหลงั ของเวลา แตอ่ าจเลา่ เรอื่ งในลกั ษณะทยี่ อ้ นกลบั ไปกลบั มาระหวา่ งเรอื่ ง
          ราวในอดตี กบั เรอ่ื งราวทเี่ กดิ ขนึ้ ปจั จบุ นั (3) การเลา่ เรอื่ งแบบหลงั สมยั ใหม่ (Postmo-
          dern narration) มีลักษณะที่ปฏิเสธการเล่าเร่ืองแบบคลาสสิก ปฏิเสธความเป็น
          ศูนย์กลาง และอ�ำนาจที่ครอบง�ำในเรื่องน้ันๆ อยู่ โดยท�ำการร้ือถอน (deconstruct)
          ระบบคิดและความเชื่อเดิม เช่น การเล่าเรื่องตามล�ำดับเวลาก่อนหลังเร่ืองมีลักษณะ
          สัมพันธบท (intertextuality) โหยหาอดีต (nostalgia) และการผสมผสานกันของ
          ศลิ ปะต่างยุคสมยั

วัตถุประสงค์

       เมอื่ ศึกษาตอนท่ี 8.2 จบแล้ว นกั ศกึ ษาสามารถ
       1. 	อธบิ ายหลกั การส�ำคัญของการเล่าเรือ่ งในภาพยนตร์ได้
       2. 	อธิบายประเภทของการเล่าเรอื่ งในภาพยนตรไ์ ด้
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36