Page 32 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 32

8-22 ทฤษฎแี ละการวจิ ารณ์ภาพยนตร์

                                   ความน�ำ

       เร่ืองเล่าในภาพยนตร์นั้นมีลักษณะไม่ต่างไปจากเร่ืองเล่าในส่ืออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นมหากาพย์ บท
ประพันธ์ ละคร โอเปร่า หรือในส่ือชนิดต่างๆ กล่าวคือมันถูกสร้างให้เรื่องราวในเหตุการณ์ต่างๆ นั้นมี
ความเชอื่ มโยงกันเพอ่ื ท�ำให้ผ้รู ับสารนน้ั เกิดความเขา้ ใจในเรือ่ งราว ในการศึกษาเร่อื งเลา่ ในภาพยนตร์กใ็ ช้
แนวคิดที่ไม่ได้แตกต่างไปจากการศึกษาเร่ืองเล่าในศาสตร์อ่ืนๆ หรือในรูปแบบอื่น เช่น มีการศึกษา
โครงสร้าง ไวยากรณ์ ตัวละครในภาพยนตร์

       อย่างไรก็ดีในทรรศนะของนักวิชาการด้านภาพยนตร์อย่าง เมอร์เฟต (Murphet, 2005,
pp. 47-48) นนั้ เหน็ วา่ เครอ่ื งมอื สำ� คญั ในการเลา่ เรอื่ งในภาพยนตรท์ แี่ ตกตา่ งไปจากเรอื่ งเลา่ ในรปู แบบอน่ื
คอื การตัดต่อและการจัดองค์ประกอบภาพ ซ่งึ เปน็ คณุ สมบัติที่ไมป่ รากฏในเรือ่ งเล่าในรปู แบบอืน่

1. 	 การตัดต่อ

       การตัดต่อเป็นการวางช็อตต่างๆ มาเชื่อมโยงกัน การมองที่เกิดข้ึนในภาพยนตร์มิใช่การมองใน
แบบเดียวกับสายตามนุษย์ แต่เป็นการผลิตประสบการณ์ในการมองเห็นของมนุษย์ผ่านเคร่ืองจักร โดย
สรา้ งสงิ่ ทด่ี วงตาของมนษุ ยไ์ มส่ ามารถทจี่ ะกระทำ� ได้ เชน่ ภาพรถไฟทกี่ ำ� ลงั วง่ิ จากภาพภายนอกมาสภู่ าพ
ดา้ นในรถไฟ หรอื ภาพซา้ํ ภาพสโลวโ์ มชนั่ ของการทำ� กริ ยิ าใดกริ ยิ าหนง่ึ ของนกั แสดง เชน่ ภาพสโลโมชน่ั
วินาทที ่พี ระเอกขอนางเอกแตง่ งาน การตดั ตอ่ ทำ� ให้มุมมองของสอ่ื ภาพยนตร์มคี วามแตกต่างจากส่ืออน่ื ๆ
ทเ่ี คยถูกสร้างมา การเล่าเรอื่ งในภาพยนตรน์ ้ันสามารถท่จี ะกระโดดข้ามชอ็ ตต่างๆ ได้ เวลาในภาพยนตร์
จงึ มักเป็นเวลาทเี่ ดนิ เร็วกวา่ โลกจริง เช่น ถา้ เปน็ เน้อื หาเกีย่ วกับการทำ� อาหาร การตัดต่อก็สามารถท�ำให้
อาหารเสรจ็ ไดภ้ ายในเวลา 5 วนิ าที การวางโครงเรอ่ื งวา่ ลำ� ดบั เหตกุ ารณอ์ ะไรจะเกดิ ขน้ึ กอ่ นและหลงั กเ็ ปน็
อำ� นาจของการตดั ต่อเช่นกนั ภาพยนตรส์ ่วนใหญม่ ักจะตัดต่อตามโครงสร้างเร่อื งท่ผี ูเ้ ขยี นบทไดว้ างลำ� ดบั
ของเหตกุ ารณไ์ ว้ แตก่ ม็ ภี าพยนตรส์ ว่ นหนงึ่ ทห่ี ลงั จากการถา่ ยทำ� สนิ้ สดุ ลง อำ� นาจของการเลา่ เรอ่ื งไดก้ ลบั
มาอยใู่ นมอื ของผทู้ มี่ อี ำ� นาจในการกำ� กบั การตดั ตอ่ เรอ่ื งราวสามารถถกู เลา่ ใหมผ่ า่ นการตดั ตอ่ อกี ครง้ั วา่ จะ
เลา่ เหตุการณใ์ ดเปน็ ล�ำดบั แรก ลำ� ดบั ต่อมา ไปจนถงึ การส้นิ สุดเหตุการณใ์ นเรื่องเลา่

2. 	 การจัดองค์ประกอบภาพ (mise-en-scène)

       การจดั องคป์ ระกอบภาพหรอื มสี ซ์ องแซนในภาษาฝรงั่ เศสเปน็ การเลา่ เรอ่ื งดว้ ยภาพ 1 ชอ็ ต ซง่ึ จะ
ประกอบดว้ ยฉาก เสอ้ื ผา้ และการแตง่ หนา้ แตง่ กายของนกั แสดง การจดั แสง การแสดงและการเคลอ่ื นไหว
ของนักแสดงท่ีเกิดข้ึน ซึ่งต่อมากลุ่มผู้ก�ำกับชาวฝรั่งเศสที่เคลื่อนไหวในช่วงทศวรรษที่ 1950 อย่างกลุ่ม
วารสารกาแยร์ ดู ซนิ มี า่ (Cahiers du cinéma) ไดน้ ำ� ไปใชใ้ นความหมายทเ่ี ฉพาะเจาะจงมากยง่ิ ขน้ึ โดย
สอ่ื ความหมายถงึ การจดั องคป์ ระกอบภาพในภาพยนตรท์ แี่ สดงถงึ เอกลกั ษณใ์ นการทำ� งานของผกู้ ำ� กบั ซง่ึ
เทยี บไดก้ บั ศลิ ปนิ คนหนง่ึ เชน่ ผลงานภาพยนตรข์ องอะกริ ะ คโุ รซาวา่ กม็ กั ถกู กลา่ วถงึ ในเรอ่ื งเอกลกั ษณ์
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37