Page 57 - ลักษณะภาษาไทย
P. 57

การเปลี่ยนแปลงของภาษา 7-47

สานวนเดมิ  สานวนปัจจุบนั                 ความหมาย

1) กลง้ิ ครกข้ึนภูเขา เข็นครกข้นึ ภูเขา  “ทางานท่ียากเกินกาลังความสามาร

                                         ของตน ต้องใช้ความอดทน และความ

                                         พยายามมาก”

2) แขนใครยาวสาวได้ มื อ ใ ค ร ย า ว ส า ว ไ ด้ “ใครมีกาลังความสามารถมากกว่า

สาวเอา     สาวเอา                        ก็กอบโกยเอาไปได้มากกว่า, ใครดี

                                         ใครได้”

3) พายเรอื ในหนอง พายเรือในอ่าง          “คดิ พดู หรอื ทาวกวนกลับไปกลบั มา”

4) พง่ึ จมูกคนอื่นหายใจ ยมื จมูกคนอ่ืนหายใจ “อาศัยผู้อนื่ มักไม่สะดวก”

       จากตัวอย่างสานวนข้างต้นจะเห็นได้ว่า สานวนที่ 1) ถึง 4) ปรากฏคาต่างกันแต่มีความหมาย
ใกล้เคียงกันของสานวนเดิมและสานวนปัจจุบนั กล่าวคือ สานวนท่ี 1) กล้ิงครกข้ึนภูเขา กับ เข็นครกขน้ึ
ภูเขา สังเกตได้จากคาว่า กลิ้ง (อาการอย่างของกลมพลิกเล่ือนไปตามพ้ืน) กับ เข็น (ดันส่ิงท่ีติดขัด
ไม่อาจเคลื่อนไปได้โดยปรกติให้เคล่ือนไปบนพื้น) ท้ังสองคามีความหมายเหมือนกันคือทาให้วัตถุไป
ข้างหนา้ ปัจจุบันนยิ มใช้ว่า เขน็ ครกขนึ้ ภเู ขา เพราะทาให้รูส้ กึ ถึงความพยายามท่ยี ากลาบาก

       สานวนที่ 2) แขนใครยาวสาวไดส้ าวเอา กบั มือใครยาวสาวได้สาวเอา สังเกตไดจ้ ากคาว่า แขน
(อวัยวะที่ต่อจากไหล่ทง้ั 2 ข้าง) กับ มือ (อวัยวะส่วนหน่ึงของร่างกายอยู่ต่อจากปลายแขนประกอบด้วย
ฝ่ามือและน้ิวมือ สาหรับจับเป็นต้น) ท้ังสองคาหมายถึงอวัยวะคนละส่วนกัน หากพิจารณาแล้วจะพบว่า
แขน น่าจะใช้ในสานวนมากกว่าคาว่า มอื เพราะเป็นอวัยวะทส่ี ามารถหยบิ หรอื จับอะไรได้ในระยะท่ีไกลๆ
มากกวา่ มอื แตโ่ ดยภาพรวมของสานวนแลว้ ไม่ได้แสดงถึงความหมายที่แตกต่างกัน

       สานวนท่ี 3) พายเรอื ในหนอง กับ พายเรอื ในอา่ ง สังเกตได้จากคาวา่ หนอง (แอง่ น้า) กับ อา่ ง
(ภาชนะสาหรับใส่น้าเป็นต้น มักมีลักษณะกลม ปากผายก้นต้ืน) ท้ังสองคามีความหมายต่างกันไป
กล่าวคือ หนอง จะเป็นแอ่งน้าที่เกิดข้ึนจากธรรมชาติ ขณะท่ี อ่าง เป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นจากมนุษย์ เช่น
อ่างเก็บนา้ เปน็ ต้น ดงั นนั้ ปัจจุบนั นยิ มใชว้ า่ พายเรือในอ่าง เพื่อเปรียบเทียบใหช้ ัดเจนกว่าสานวนเดิม

       สานวนท่ี 4) พึ่งจมูกคนอ่ืนหายใจ กับ ยืมจมูกคนอื่นหายใจ สังเกตได้จากคาว่า พึ่ง (อาศัย,
พกั พิง, ขอความช่วยเหลอื ) กับ ยืม (ขอส่งิ ของ เงนิ เป็นต้น มาใชช้ ่วั ระยะเวลาหนง่ึ แลว้ คนื ใหห้ รอื ใช้คืน)
ท้ังสองคามีความหมายใกล้เคียงกัน เพราะทั้ง พึ่ง กับ ยืม ก็ต้องอาศัยผู้อื่นเหมือนกัน และคาท้ังสองก็
สามารถใชแ้ ทนกนั ได้ แตป่ จั จบุ ันนยิ มใชค้ าวา่ ยมื มากกว่า
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62