Page 131 - การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
P. 131
การพัฒนาโปรแกรมการปรกึ ษา 7-21
วิธดี ำเนินก าร
1. ผู้ให้การปรึกษาซักถามถึงการฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การฝึกจินตนาการตามที่ได้
ฝึกไปแ ล้ว
2. ผู้ให้การปรึกษาให้ผู้รับการฝึกนั่งตามสบาย อยู่ในสภาพผ่อนคลาย หลับตา
และจ นิ ตนาการห รอื น กึ ถึงส ถานการณห์ รอื เหตกุ ารณท์ ที่ ำใหผ้ ูร้ บั ก ารฝ กึ โกรธท ลี ะส ถานการณ์ โดยใหส้ ามารถ
เห็นภ าพเหตุก าร ณ์น ั้นๆ ในมโนภาพช ัดท ี่สุดจนเกิดอารมณ์ร ่วมก ับภาพนั้นๆ ถ้าผ ู้รับการฝ ึกแสดงออกว ่าไม่
พอใจหรือโกรธในครั้งใด ผู้ให้การปรึกษาจะขอให้ผู้รับการฝึกหยุดอยู่ที่ตรงนั้น แล้วรายงานว่ามีเหตุการณ์
อะไรเกิดขึ้น และรู้สึกอย่างไร ต่อจ ากนั้นผ ู้ให้การปรึกษาจ ะบอกให้ผ ู้รับการฝ ึกค่อยๆ ผ่อนค ลายกล้ามเนื้อ
และค ่อยๆ คลายค วามว ิตกก ังวลจ ากก ารผ ่อนค ลาย ซึ่งจ ะช ่วยให้ผ ู้รับก ารฝ ึกค ่อยๆ ขจัดค วามร ู้สึกอ ่อนไหว
อันเนื่องม าจากค วามโกรธแ ละเรียนรู้ด ้วยว ่า จะแ สดงพฤติกรรมที่เหมาะส มในการเผชิญความโกรธอย่างไร
3. ผใู้ หก้ ารป รกึ ษาใหผ้ ูร้ บั ก ารฝ กึ จ นิ ตนาการเกีย่ วก บั เหตกุ ารณท์ ที่ ำใหผ้ ูร้ บั ก ารฝ กึ โกรธ
โดยค ่อยๆ เพิ่มร ะดบั ค วามร ุนแรงข องเหตกุ ารณ์ และด ำเนินก ารฝ ึกต ามล ำดับข ั้นต อนในข ้อ 2 โดยด ำเนนิ ก าร
ฝึกเป็นครั้งที่ 6 และ 7 ต่อไป
4. ผูใ้ห้การป รึกษาต ิดตามผ ลก ารฝ ึกในแ ต่ละค รั้งแ ละใหผ้ ู้รับก ารฝ ึกร ายงานผ ลก ารฝ ึก
รวมทั้งพฤติกรรมการแสดงออกในก ารเผชิญค วามโกรธ
ครั้งท ี่ 8 เรื่อง ปัจฉิมนิเทศ
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้รับก ารฝ ึกได้ทราบถึงผ ลของการฝ ึกก ารลดค วามรู้สึกอ่อนไหวอ ย่างเป็นระบบ
ในการเผชิญความโกรธ และประโยชน์ที่ได้รับ
วธิ ีด ำเนินการ
1. ผู้ให้การป รึกษาต ิดตามผ ลก ารฝ ึกก ารล ดค วามร ู้สึกอ ่อนไหวอ ย่างเป็นร ะบบ และให้
ผู้รับก ารฝึกรายงานเกี่ยวก ับผ ลการฝึกในการเผชิญค วามโกรธ
2. ผูใ้ห้การป รึกษาใหก้ ำลังใจเกี่ยวก ับผ ลก ารฝ ึก และใหผ้ ู้รับก ารฝ ึกร ายงานด ้วยต นเอง
(Self-report) ทั้งระยะสั้น เช่น 1 เดือน หรือ 3 เดือน หรือระยะย าว เช่น 1 ปี หรือ 2 ปี เพื่อตรวจสอบว ่า
ผู้รับการฝึกสามารถน ำวิธีการล ดความรู้สึกอ ย่างเป็นระบบม าใช้ในก ารเผชิญความโกรธได้มากน้อยเพียงใด
1.3.8 กำหนดระยะเวลาในการฝึกตามที่ระบุในข้อ 1.3.7 โดยจะฝึกติดต่อกัน 6-8 สัปดาห์
สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งล ะ 50 นาที
1.3.9 นำโปรแกรมการปรึกษาเป็นรายบุคคลแบบพฤติกรรมนิยมที่พัฒนาขึ้น ไปให้ผู้ทรง
คุณวุฒิตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา แล้วจึงนำไปปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ
ก่อนน ำไปท ดลองใช้แ ละก่อนน ำไปใช้จริง
1.3.10 ควรป ระเมินโปรแกรมก ารป รึกษาฯ ทั้งร ะหว่างแ ละห ลังก ารใช้โปรแกรมด ังก ล่าว ทั้งนี้
เพราะว า่ ในร ะหวา่ งก ารใชโ้ ปรแกรมก ารป รกึ ษาน ัน้ อาจจ ะม ปี ญั หา อปุ สรรคบ างป ระการเกดิ ข ึน้ ซึง่ อ าจจ ะต อ้ ง
ปรับเปลี่ยนเทคนิควิธีให้เหมาะสมกับบริบทบางประการที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ซึ่งผู้ใช้โปรแกรมจะละเลย
ลขิ สทิ ธขิ์ องมหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช