Page 237 - การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
P. 237
การประเมินคุณภาพของเครื่องมือ และก ิจกรรมแ นะแนวและก ารป รึกษาเชิงจ ิตวิทยา 14-23
กล่าวได้ว่าค่าความยาก ระดับความยาก หรือค่าความยาก-ง่าย ของข้อคำถามก็คือ “ผลจากการ
เปรียบเทียบผู้ต อบข ้อค ำถามนั้นถ ูกก ับจำนวนผู้ต อบคำถามข ้อนั้นทั้งหมด”
ความยากของข้อคำถามโดยเฉพาะที่เป็นข้อสอบมักถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวัดประเมินผล
แบบอ ิงก ลุ่ม (Norm Reference) เพราะม ีว ัตถุประสงค์ให้ค นเก่งท ำได้ม าก คนป านก ลางท ำได้ป านก ลาง และ
คนอ ่อนท ำได้น ้อย สำหรับในร ะบบก ารว ัดป ระเมินผ ลแ บบอ ิงเกณฑ์ (Criterion Reference) แล้วไม่ให้ค วาม
สำคญั ในเรื่องค วามย ากข องข ้อสอบน ัก เพราะถ อื วา่ ข อ้ สอบแ ตล่ ะข ้อม ุ่งว ัดต ามเกณฑ์ ตามจ ุดป ระสงค์ ขอ้ สอบ
ข้อใดวัดจุดประสงค์หรือเกณฑ์ง่ายๆ ข้อสอบนั้นก็ง่าย ข้อสอบใดวัดจุดประสงค์หรือเกณฑ์ที่ยากข้อสอบ
นั้นก็ยาก ดังนั้น ถ้าตั้งเกณฑ์ ตั้งจุดประสงค์ไว้เป็นที่พอใจแล้ว เรื่องความยาก ความง่ายของข้อคำถามก็
ไม่จ ำเป็นต ้องพ ิจารณา แต่ร ะบบอ ิงเกณฑ์น ั้นให้ค วามส นใจก ับค วามไว (Sensitivity) ของข ้อค ำถามม ากกว่า
ซึ่งจะได้ก ล่าวต่อไป
ในร ะบบก ารส อบว ดั ท เี่ นน้ พ จิ ารณาค วามย ากข องข อ้ สอบห รอื ข อ้ ค ำถาม (ระบบอ งิ ก ลุม่ ) ถอื วา่ ข อ้ สอบ
ที่ดีต้องม ีค วามย ากปานกลาง กล่าวค ือ ผู้ต อบสามารถท ำถ ูกประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือค่า p = .50 ข้อสอบ
ยิ่งมีค ่า p น้อยก ว่า .50 เท่าไร ก็ย ิ่งย ากขึ้นเท่านั้น และย ิ่งมีค่า p มากกว่า .50 เท่าไรก ็ยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น
ข้อสอบโดยทั่วไปมีการให้คะแนนแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ให้คะแนนแบบ 0-1 กับ
ประเภทที่ให้คะแนนไม่เป็น 0-1 การหาค่าความยากของสองประเภทดังกล่าวใช้วิธีการต่างกันจะได้อธิบาย
ไปต ามล ำดับ
1.1.1 การหาค่าความย ากข องข้อสอบทใี่หค้ ะแนนแบบ 0-1
สูตร การค ำนวณห าค ่าค วามย ากของข ้อสอบ
p = R ..........(1)
N
เมื่อ p คือ ค่าความย ากของข ้อสอบ
R คือ จำนวนคนที่ท ำข ้อสอบข ้อนั้นถ ูก
N คือ จำนวนคนที่ท ำข้อสอบข ้อนั้นท ั้งหมด
ตัวอย่าง ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์วิชาภาษาไทย 1 มีผู้ตอบถูก 15 คนจากผู้สอบทั้งหมด 20 คน
ค่าความย ากท ี่หาได้ คือ
จากสูตร p = R
N
แทนค่า p = 15
20
= .75
ลิขสทิ ธขิ์ องมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช