Page 297 - การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
P. 297
การป ระเมินค ุณภาพข องเครื่องม ือ และกิจกรรมแ นะแนวและการป รึกษาเชิงจิตวิทยา 14-83
จากผลการวิเคราะห์ความแ ปรปรวน พบนัยส ำคัญที่องค์ประกอบ A องค์ประกอบ B
และปฏิสัมพันธ์ระหว่าง A กับ B
พิจารณาท ี่อ งค์ป ระกอบ A และอ งค์ป ระกอบ B ต่างแ บ่งเป็น 2 กลุ่ม เมื่อพ บน ัยส ำคัญ
ของค วามแปรปรวนพ ิจารณาค ่าเฉลี่ยของก ลุ่มได้เลย ซึ่งพ บว่าในด ้านอ งค์ประกอบ A ซึ่งเป็นการฝึกกลุ่มท ี่
ฝึกท ักษะก ารค ิดแ ก้ป ัญหาม คี ่าเฉลี่ยค ะแนนท ักษะก ารค ิดแ กป้ ัญหา (X = 6.80) สูงก ว่าก ลุ่มท ีไ่มไ่ดฝ้ ึกท ักษะ
ดังก ล่าว (X = 5.85) ในด ้านอ งค์ป ระกอบ B ซึ่งเป็นส ติป ัญญา กลุ่มท ี่ส ติป ัญญาส ูงม ีค ะแนนท ักษะก ารค ิดแ ก้
ปัญหา X = 7.05) สูงก ว่าก ลุ่มท ี่ม ีส ติป ัญญาต ่ำ (X = 5.60) (ค่าเฉลี่ยเหล่าน ี้ ดูได้จ ากต าราง Descriptive ซึ่ง
อยู่ใน Print Out ของก ารวิเคราะห์โดย ANOVA)
ในส่วนของ A และ B เนื่องจากเมื่อพิจารณาสององค์ประกอบดังกล่าวร่วมกันแบ่ง
ได้เป็น 4 กลุ่ม เมื่อพบว่าความแปรปรวนของปฏิสัมพันธ์มีนัยสำคัญ ต้องทำการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยเป็น
รายคู่ต่อไป สมมติว ่าเลือกว ิธีก ารของเชฟเฟวิเคราะห์แ ล้วได้ผล ดังตารางท ี่ 14.25
ตารางท่ี 14.25 ผลการเปรยี บเทียบค ่าเฉลย่ี ค ะแนนทักษะการคดิ แกป้ ญั หา
เมอื่ พ ิจารณาแบง่ ก ลุ่มต ามการฝ ึก (A) ร่วมก ับส ติปัญญา (B)
ฝึกทักษะ สตปิ ญั ญา รหสั คา่ เฉลี่ย 12 22 21 11
5.30 5.80 5.90 8.30
ฝึก ต่ำ 12 5.30 - .50 .60 3.00*
ไม่ฝึก ต่ำ 22 5.80 - .40 2.50*
ไม่ฝึก สูง 21 5.90
ฝึก สูง 11 8.30 - 2.40*
-
จากตาราง แสดงว่ากลุ่มสติปัญญาสูงที่ได้รับการฝึกทักษะการคิดแก้ปัญหามีคะแนน
เฉลี่ยการค ิดแ ก้ปัญหาสูงกว่าก ลุ่มอื่นท ุกกลุ่ม
จากผลการวิเคราะห์ทั้งหมด ประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมการฝึกทักษะการคิด
แก้ปัญหาได้ว่า กิจกรรมก ารฝึกมีประสิทธิภาพทำให้ผ ู้รับการฝึกมีทักษะแก้ปัญหาส ูงขึ้น (กว่าก ลุ่มไม่ได้รับ
การฝึก) โดยผ ู้ได้ร ับผลด ีจ ากการฝึกเด่นชัดคือ ผู้ม ีสติป ัญญาสูงซึ่งได้รับการฝึกท ักษะก ารแก้ป ัญหา
4.2) การประเมินประสิทธิภาพหลายองค์ประกอบ แบบมีการปรับความเท่าเทียม
กันของกลุ่มตัวอย่าง กรณีน้ีเกิดจากไม่ได้มีการจัดกลุ่มตัวอย่างให้มีความเท่าเทียมกันตั้งแต่เร่ิมต้นก่อน
การท ดลอง หรือไดพ้ ยายามจ ดั แลว้ (เชน่ ท ำการส มุ่ เข้ากลมุ่ ) แตก่ ย็ งั ไม่เกิดค วามเทา่ เทยี มก นั กรณเีช่นน เ้ี มอ่ื
ทำการวิเคราะห์คะแนนหลังการทดลองมักต้องปรับด้วยคะแนนของตัวแปรอ่ืน (หรือตัวแปรเดิมที่วัดไว้ก่อน
ทดลอง) ซึง่ เปน็ ตวั แปรท ่มี คี วามส ัมพนั ธก์ บั ตัวแปรท ่ีวัดหลงั การทดลองมากที่สุด ทน่ี ยิ มใช้กนั ม ักเป็นคะแนน
จากก ารวดั ร ั้งแ รก (Pretest) ของตวั แปรตาม นัน้ ๆ
ลิขสทิ ธิ์ของมหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช