Page 74 - การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
P. 74
2-18 การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
ตัวอย่าง เครื่องมือม าตรฐานทางการแ นะแนวด ้านส่วนตัว เช่น
1) แบบส ำรวจค วามภ าคภ มู ใิ จในต นเอง (Self-Esteem Inventories: SES) เปน็ แ บบส ำรวจ
มาตรฐานส ร้างโดยคูเปอร์สมิท (Coopersmith, 1981) เมื่อ ค.ศ. 1981 และป รับปรุงใหม่ในป ี ค.ศ. 1990 มี
2 ฟอร์ม ฟอร์มแ รกสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 8 ปีจ นถึงว ัยร ุ่นอ ายุ 15 ปี อีกฟอร์มห นึ่งส ำหรับวัยรุ่นอ ายุ 16 ปี
จนถึงผ ู้ใหญอ่ ายุ 34 ปี แบบส ำรวจค วามภ าคภ ูมิใจในต นเองน ีส้ ร้างข ึ้นเพื่อว ัดเจตคตขิ องบ ุคคลท ีม่ ตี ่อต นเอง
การยอมรับหรือไม่ยอมรับตนเอง ความเชื่อในศักยภาพของตนเอง ความสำเร็จของตนเองตลอดทั้งคุณค่า
ของตนเอง
สำหรับฟอร์มแรกหรือเรียกว่า School Form นั้นเป็นฟอร์มที่ใช้วัดความภาคภูมิใจ
ในตนเองของเด็กและวัยรุ่นที่กำลังศึกษาในสถาบันการศึกษา แบบสำรวจความภาคภูมิใจในตนเองฉบับ
นี้ จะใช้วัดความรู้สึกของเด็กและว ัยร ุ่นท ี่มีต ่อตนเองเกี่ยวกับ การยอมรับต นเอง การได้รับก ารย อมรับจาก
กลุ่มเพื่อน การได้รับการยอมรับจากผู้ปกครอง การประสบความสำเร็จทางการเรียน ความรู้สึกต่างๆ
ดังก ล่าวนี้ ทำให้ทราบว่าเด็กและว ัยร ุ่นร ู้สึกพ ึงพ อใจแ ละเห็นค ุณค่าในตนเองม ากน ้อยเพียงใด
แบบส ำรวจค วามภาคภูมิใจในต นเองท ั้ง 2 ฟอร์มน ี้ ใช้เวลาต อบประมาณ 15 นาที ใช้
ทดสอบได้ท ั้งเป็นกลุ่มแ ละร ายบุคคล ผลก ารทดสอบจะทำให้ทราบว ่า ผู้รับก ารทดสอบมีค วามภ าคภูมิใจใน
ตนเองมากน้อยเพียงใด เมื่อผู้รับการทดสอบตอบแบบสำรวจดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จะนำคะแนนดิบที่ได้
มาแปลงเป็นค ะแนนม าตรฐาน เพื่อเปรียบเทียบกับป กติว ิสัยต ่อไป
2) แบบส ำรวจก ารแ กป้ ญั หา (Problem Solving Inventory: PSI) เปน็ แ บบส ำรวจม าตรฐาน
สร้างโดย เฮบบ์เนอร์ (Heppner, 1988) ในปี ค.ศ. 1988 เป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินการรับรู้เกี่ยวกับ
พฤติกรรมและเจตคติในการแก้ป ัญหา ประกอบด้วย 3 สเกลค ือ สเกลที่ใช้วัดความเชื่อมั่นในการแ ก้ปัญหา
รปู แ บบก ารแ กป้ ญั หา และก ารค วบคมุ อ ารมณแ์ ละพ ฤตกิ รรมข องต นเองข ณะแ กป้ ญั หา แบบส ำรวจน ี้ นอกจาก
จะใช้ประเมินกระบวนการแก้ปัญหาของแต่ละบุคคลแล้ว ยังมีประโยชน์ในการประเมินรูปแบบการเผชิญ
ปัญหา (Coping Style) ของบ ุคคลน ั้น เป็นแ บบส ำรวจท ีเ่หมาะส ำหรับว ัยร ุ่นท ีก่ ำลังศ ึกษาในร ะดับอ ุดมศึกษา
และผู้ใหญ่ และใช้เวลาตอบประมาณ 10-15 นาที ใช้ทดสอบได้ท ั้งเป็นกล ุ่มและรายบ ุคคล ผลก ารท ดสอบ
จะท ำให้ท ราบว ่าผ ู้รับก ารท ดสอบม ีพ ฤติกรรมแ ละเจตคติในก ารแ ก้ป ัญหาอ ย่างไร อย่างไรก ็ตาม แบบส ำรวจ
นี้มิได้นำมาใช้วัดทักษะในการแก้ปัญหา คะแนนที่ได้จากการตอบแบบสำรวจนี้จะนำมาแปลงเป็นคะแนน
มาตรฐานเพื่อเปรียบเทียบกับปกติวิสัยต่อไ ป
3.2 ขอบข่ายของการพัฒนาเคร่ืองมือมาตรฐานทางการแนะแนวด้านสังคม แบ่งเป็นขอบข่าย
เนื้อหาทางการแนะแนวด้านสังคม และเครื่องม ือม าตรฐานท างการแ นะแนวด ้านสังคม
3.2.1 ขอบขา่ ยเนอ้ื หาท างการแ นะแนวด า้ นส งั คม ประกอบด ว้ ยเนือ้ หาต า่ งๆ ดงั นี้ สมั พนั ธภาพ
ระหว่างบุคคล สภาพแวดล้อมทางสังคม (Social Environment) ซึ่งประกอบด้วย สภาพแวดล้อมในการ
ทำงาน สภาพแ วดล้อมในค รอบครัว สภาพแ วดล้อมในช ั้นเรียน โดยเน้นป ฏิสัมพันธ์ท ี่เกี่ยวข้องก ับส มาชิกใน
หน่วยงาน ในค รอบครัว และในชั้นเรียน การปรับตัวด ้านต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับด้านค รอบครัว สุขภาพ สังคม
อารมณ์ และอาชีพ การสื่อสาร เป็นต้น
ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช