Page 96 - การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
P. 96

2-40 การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา

                     (4)	แบบ​สำรวจ​ความ​ท้อแท้ (Burnout Inventory) สร้าง​โดย​แมส​แลช​และ
แ​ จคส​ นั (Maslach and Jackson, 1981) ดังน​ ้นั แบบส​ ำรวจ​นี้​จึงม​ ชี ือ่ ​ว่า “Maslach Burnout Inventory”
สร้าง​ขึ้น​เพื่อ​วัด​ความ​รู้สึก​ของ​บุคคล​ท่ี​มี​ต่อ​งาน และ​เพ่ือน​ร่วม​งาน ใช้​ทดสอบ​ความ​รู้สึก​ท้อแท้​ส้ิน​หวัง​ใน​การ​
ทำงานข​ องบ​ คุ คล​ท่​ปี ระกอบ​อาชีพ​ตา่ งๆ

                     (5) 	แบบสอบถามว​ ธิ กี​ ารเ​ผชิญ​ปัญหา (Ways of Coping Questionnaire) สรา้ ง​
โดย​ฟอล์ค​แมน และ​ลาซา​รัส (Folkman and Lazarus, 1981) สร้าง​ขึ้น​เพ่ือ​ใช้​วัด​กระบวนการ​เผชิญ​ปัญหา
(Coping Process) ว่า​เม่ือ​บุคคล​เผชิญ​กับ​ปัญหา บุคคล​นั้น​จะ​มี​ความ​คิด​และ​การก​ระ​ทำ​อย่างไร โดย​จะ​วัด​
กระบวนการ​เผชิญ​ปญั หา ไมไ​่ ดว้​ ัดร​ ูป​แบบ (Styles) ของ​การเ​ผชิญ​ปัญหา​แบบสอบถาม​นี้เ​หมาะ​สำหรับว​ ยั ​รุน่ ​
และ​ผูใ้ หญ่

            2.3.2	 การ​กำหนด​ขอบข่าย​ของ​เคร่ือง​มือ​มาตรฐาน​ของ​การ​แนะแนว​ที่​ต้องการ​พัฒนา​ด้าน​
สังคม

                 1) 	ขอบขา่ ยเ​นอื้ หาข​ องเ​ครอื่ งม​ อื ม​ าตรฐานท​ างการแ​ นะแนวท​ ต​่ี อ้ งการพ​ ฒั นาด​ า้ นส​ งั คม
เช่น สัมพันธภาพ​ระหว่างบ​ ุคคล ความ​สัมพันธ์​ระหว่างส​ มาชิก​ครอบครัว สภาพ​แวดล้อม​ในก​ ารท​ ำงาน สภาพ​
แวดล้อม​ใน​ชั้น​เรียน สภาพ​แวดล้อม​ใน​ครอบครัว โดย​เน้น​ปฏิสัมพันธ์​กับ​สมาชิก​ใน​หน่วย​งาน ใน​ชั้น​เรียน​
และ​ในค​ รอบครัว การ​สื่อสาร การ​ปรับต​ ัว​ในก​ ารอ​ ยู่​ร่วม​กัน​กับ​บุคคล​อื่น

                 2) 	เคร่อื ง​มือ​มาตรฐานท​ างการ​แนะแนว​ดา้ น​สงั คม เช่น
                     (1) 	แบบ​วัดส​ ภาพแ​ วดลอ้ มใ​นช​ ้ัน​เรยี น (Classroom Environment Scale: CES)

สร้าง​โดย มูส์ และ​ทริเคทท์ (Moos and Trickett, 1987) สร้าง​ขึ้น​เพ่ือ​ใช้​วัด​สัมพันธภาพ​ใน​ด้าน​ต่างๆ เช่น
การ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​กิจกรรม​การ​เรียน การ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​อภิปราย และ​ใน​งาน​ท่ี​ได้​รับ​มอบ​หมาย นอกจาก​น้ี
ยงั ไ​ด้แก่ การม​ ​ีสมั พนั ธภาพก​ บั ​เพ่ือน ความร​ ู้สกึ ​ท​่มี ตี​ ่อ​ครู การป​ ฏิบตั ิ​ตาม​กฎร​ ะเบียบข​ อง​ชั้นเ​รยี น เป็นต้น แบบ​
วดั น​ ี้ เหมาะส​ ำหรบั น​ กั เรยี นต​ งั้ แตร​่ ะดบั ม​ ธั ยมศกึ ษาป​ ท​ี ี่ 1 ขนึ้ ไ​ปจ​ นถงึ ร​ ะดบั ว​ ทิ ยาลยั และค​ รผ​ู ส​ู้ อนแ​ ละส​ ามารถ​
นำไ​ปต​ รวจส​ อบ ความค​ ดิ เ​หน็ ท​ ม​ี่ ต​ี อ่ บ​ รรยากาศแ​ ละส​ ภาพแ​ วดลอ้ มใ​นช​ น้ั เ​รยี นร​ ะหวา่ งค​ รผ​ู ส​ู้ อนแ​ ละน​ กั เรยี นว​ า่
มี​ความค​ ิด​เหน็ ​สอดคลอ้ งก​ ันม​ ากน​ อ้ ย​เพยี ง​ใด

                     (2) 	การว​ าดภ​ าพค​ รอบครวั (Kinetic Family Drawing: KFD) พฒั นาโ​ดย คนอฟฟ​์
และเ​พ​รา้ ​ท์ (Knoff and Prout, 1985) เปน็ เ​ครอ่ื ง​มอื ​มาตรฐาน​ที่​เร่มิ พ​ ัฒนา​มา​ตัง้ แต่ ค.ศ. 1926 และพ​ ฒั นา​มา​
เปน็ ​ระย​ ะๆ จนก​ ระท่งั ​ฉบับป​ จั จบุ นั ​ทพี​่ ฒั นาโ​ดย​คนอฟฟแ์​ ละเ​พ​ร้า​ท์

                     วัตถุประสงค์​ของ​การ​วาด​ภาพ​ครอบครัว เพ่ือ​ประเมิน​ความ​รู้สึก​และ​การ​รับ​รู้​
เก่ียว​กับ​สัมพันธภาพ​ของ​ผู้​วาด​กับ​สมาชิก​ครอบครัว บรรยากาศ​ใน​ครอบครัว บุคคล​สำคัญ​ที่​ผู้​วาด​รู้สึก​ว่า มี​
ความส​ ำคญั ต​ อ่ ช​ วี ติ ข​ องผ​ ว​ู้ าด ความป​ รารถนาข​ องผ​ ว​ู้ าด อารมณแ​์ ละค​ วามร​ สู้ กึ ท​ อ​ี่ ยใ​ู่ นจ​ ติ ไรส้ ำนกึ ซงึ่ ส​ งิ่ เ​หลา่ น​ ​ี้
จะ​สะท้อน​ถึง​บุคลิกภาพ​และ​เจตคติ​ของ​ผู้​วาด ตลอด​ท้ัง​ปัญหา​และ​ความ​ยุ่ง​ยาก​ใน​จิตใจ​ของ​ผู้​วาด การ​วาด​
ภาพค​ รอบครวั เ​ป็น​เครือ่ ง​มือ​มาตรฐานท​ ​่ีใชไ้ ดก​้ บั ท​ กุ ว​ ัฒนธรรม เหมาะ​สำหรบั บ​ คุ คลท​ อ​ี่ ายุ 5 ขวบข​ นึ้ ​ไป​จนถงึ ​
ผใู้ หญ่

                           ลิขสทิ ธข์ิ องมหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช
   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101