Page 14 - องค์การและการจัดการและการจัดการทรัพยากรมนุษย์
P. 14
2-12 องค์การและการจัดการ และการจัดการทรัพยากรมนุษย์
ผลง านของเฮน รี แอล แกนท์ (1861-1919)
ผสู้ นบั สนนุ แ นวคดิ ข องก ารจ ดั การเชงิ ว ทิ ยาศาสตรอ์ กี ท า่ นห นึง่ ซึง่ ต อ้ งก ลา่ วถ งึ คอื เฮน รี แอล แกน ท์ (Henry
L. Gantt) ผู้มีสถานภาพข องว ิชาชีพเป็นทั้งค รูและว ิศวกร ในปี 1887 ได้ร่วมงานก ับเทย์เลอร ์ท ี่ Midvale Steel Co.
และต ่อม าได้เป็นผ ู้ต ิดต ามเทย์เลอร ์ไปท ำงานในส ถานะต ่างๆ และร วมท ั้งส ถานะข องท ี่ป รึกษา หลังจ ากท ี่เทย์เลอร ์อ อก
จาก Midvale ในปี 1890 และเกษียณต ัวเองในป ี 1900
หลังจ ากท ี่แ ยกต ัวจ ากเทย์เลอร ์อ อกม าเป็นว ิศวกรท ี่ป รึกษาอ ิสระ แกน ท์ได้ล ้มเลิกก ารส นับสนุนต ่อร ะบบก าร
จ่ายค่าตอบแทนจากชิ้นงาน (differential rate system หรือ piece-rate system) โดยเสนอให้ใช้ระบบการจ่าย
โบนัส (bonus system) แทน
ตามแนวคิดของการจ่ายค่าตอบแทนจากชิ้นงานของเทย์เลอร์ คนงานซึ่งสามารถสร้างผลผลิตได้เกินจาก
มาตรฐานที่กำหนดจะได้รับการจ่ายค่าตอบแทนที่สูงกว่าคนงานที่ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน สำหรับการจ่ายค่าตอบแทน
ตามแนวคิดของแกนท์ คนงานซึ่งสามารถทำงานได้ตามภาระงานที่กำหนดไว้ในแต่ละวันจะได้รับโบนัส 50 cents
สำหรับหัวหน้าคนงานซึ่งสามารถผลักดันให้คนงานแต่ละคนทำงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนดในแต่ละวันก็จะได้รับ
เงินโบนัส และจะได้รับเงินโบนัสเพิ่มพ ิเศษอ ีกต่างหากถ ้าค นงานท ุกคนภ ายใต้ก ารบังคับบ ัญชาข องเขาสามารถทำงาน
ได้ต ามเป้าห มายท ี่ก ำหนดในแ ต่ละว ันด ้วย การจ ่ายค ่าต อบแทนต ามร ะบบโบนัสน ี้ แกน ท์เชื่อว ่าจ ะท ำให้ห ัวหน้าค นง าน
มีก ำลังใจท ี่จะส อนงานให้คนง านทำงานให้ด ีข ึ้นกว่าเดิม
นอกเหนือจากนั้น แกนท์ยังเสนอให้มีการจัดอันดับผ ลงานข องคนง านอ ย่างเปิดเผยให้คนง านทุกคนได้รับร ู้
โดยได้ใช้ผ ังภูมิแ ท่ง (bar chart) มาแสดงผลง านข องค นง านแต่ละค น ในวันที่คนงานส ามารถผ ลิตได้ตามม าตรฐาน
จะแสดงด้วยแท่งสีดำ ในวันที่ไม่สามารถผลิตได้ตามมาตรฐานก็จะใช้แทนด้วยแท่งสีแดง นอกจากนี้ยังได้หลักการ
เดียวกันนี้ในการกำหนดตารางเวลาในการผลิต ซึ่งเทคนิคดังกล่าวในปัจจุบันนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และเป็นที่
รู้จักกันในช ื่อ ผังภ ูมิแกนท์ (Gantt Chart)
กจิ กรรม 2.1.1
1. แก่นของแนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์กล่าวว่าอย่างใด สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับหน้าท่ี
ทางการบ ริหารไดอ้ ย่างไร
2. หลกั การข องแนวคิดก ารจ ัดการเชิงว ิทยาศาสตร์ตามท่เี ทย์เลอรเ์ สนอม อี ะไรบ า้ ง
แนวตอบก จิ กรรม 2.1.1
1. แกน่ ข องแ นวคดิ ข องก ารจ ดั การเชงิ ว ทิ ยาศาสตรน์ ก้ี ลา่ วว า่ เราส ามารถจ ะใชห้ ลกั ก ารท างว ทิ ยาศาสตร์
ช่วยในการศึกษาวิเคราะห์งานใดๆ ได้เสมอ เม่ือมองในเชิงประยุกต์กับหน้าที่ทางการบริหารอาจจะกล่าวได้ว่า
ผบู้ รหิ ารไมค่ วรท จี่ ะใชว้ ธิ กี ารแ บบล องผ ดิ ล องถ กู แตค่ วรใชห้ ลกั ข องค วามส มเหตสุ มผ ล และใชก้ ารศ กึ ษาว เิ คราะห์
ตามห ลกั ทางว ิทยาศาสตร์ (หลักเกณฑท์ ี่แน่นอน) ในการแกป้ ญั หาตา่ งๆ ทป่ี ระสบอ ยู่
2. หลกั ก ารท เ่ี ทยเ์ ลอร ์เสนอ มดี งั น้ี
2.1 การห าว ธิ ีท่ีดีทสี่ ุดวิธีเดยี ว
2.2 การค ัดเลอื กค นงานโดยใช้หลักท างวิทยาศาสตร์
2.3 การใช้ระบบจ ูงใจด้วยต ัวเงนิ
2.4 การเน้นค วามช ำนาญเฉพาะด ้าน
ลขิ สิทธิ์ของมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช