Page 201 - องค์การและการจัดการและการจัดการทรัพยากรมนุษย์
P. 201

ผู้นำ​และ​การ​จูงใจ 5-21

ปจั จยั สถานการณ์ 1 2 3 4 5 6 7 8

ความสัมพันธ์ ดี ดี ดี ดี ไม่ดี ไม่ดี ไม่ดี ไม่ดี
ระหว่างผู้นำ
กับผู้ตาม

โครงสร้างงาน มาก มาก น้อย น้อย มาก มาก น้อย น้อย

อำนาจหน้าที่           มาก น้อย มาก น้อย มาก น้อย มาก น้อย
ในตำแหน่ง

สถานการณท์ เ่ี ปน็ ใจ     สถานการณท์ เ่ี ปน็ ใจกบั
กับผู้นำมากที่สุด               ผู้นำน้อยที่สุด

บุคลิกผู้นำ            มุ่งงาน มุ่งงาน มุ่งงาน มุ่งคน มุ่งคน มุ่งคน ได้ทั้ง มุ่งงาน
ที่เหมาะสม                                                          สอง

ที่มา: ดัดแปลง​จาก Fred E. Fiedler. A Theory of Leadership Effectiveness. New York: McGraw - Hill 1967, p. 146

                            ภาพท​ ่ี 5.7 ​ตัว​แบบ​ผู้นำต​ าม​สถาน​การ​ ณข​์ อง​ฟดี ​เลอ​ร์

            จาก​ภาพ​ที่ 5.7 จะ​เห็น​ได้​ว่า​บุคลิก​ผู้นำ​แบบ​มุ่ง​งาน​เหมาะ​สม​ที่สุด​ใน​สถานการณ์​ที่​เป็นใจ​กับ​ผู้นำ​มาก​
ที่สุด (สถานการณ์ 1,2,3) และ​ใน​สถานการณ์​ที่​ไม่​เป็นใจ​กับ​ผู้นำ​มาก​ที่สุด (สถานการณ์​ที่ 8) ส่วน​บุคลิก​ผู้นำ​แบบ
ม​ ุง่ ค​ นเ​หมาะท​ ีส่ ดุ ใ​นส​ ถานก​ าร​ ณก​์ ลางๆ (สถานการณท​์ ี่ 4,5,6,7) เมือ่ ผ​ ลก​ ารศ​ กึ ษาว​ จิ ยั เ​ปน็ อ​ ยา่ งน​ ี้ ฟดี เ​ลอร​ จ์ งึ ส​ รปุ ว​ า่ ไมม่ ​ี
บุคลิกผ​ ู้นำ​แบบใ​ด​มีป​ ระสิทธิผล​ที่สุด​ใน​ทุก​สถานการณ์ สถานการณ์​แต่ละ​อย่างต​ ้องการบ​ ุคลิก​ผู้นำท​ ี่แ​ ตกต​ ่าง​กัน

       3.2 	ทฤษฎห​ี นทาง-เปา้ ห​ มายข​ องเ​ฮาส​ ์ (House’ Path-Goal Theory) จุดเ​ริ่มต​ ้นข​ องท​ ฤษฎนี​ ีม้​ าจ​ ากก​ ารศ​ ึกษา​
ขอ​งมาร์​ติน อีแ​ วน​ส์ (Martin Evans) ในป​ ี ค.ศ. 1970 อี​แวนส​ ์​เห็น​ว่า​ผู้​มี​ประสิทธิผลน​ ั้น​จะ​ต้องค​ อย​ช่วยเ​หลือ​ผู้​ตาม​
ให้​สามารถ​ทำงาน​จน​บรรลุ​เป้า​หมาย​และ​คอย​ให้​รางวัล​ตอบแทน​เป็น​กำลัง​ใจ การก​ระ​ทำ​ของ​ผู้นำ​เช่น​นี้​จะ​ทำให้​ผู้​ตาม​
เกิดค​ วามพ​ อใจแ​ ละเ​กิดค​ วามพ​ ยายามท​ ี่จ​ ะท​ ำงานใ​ห้ส​ ำเร็จ หน้าที่ข​ องผ​ ู้นำท​ ี่ต​ ้องค​ อยช​ ่วยเ​หลือแ​ ละใ​ห้ร​ างวัลป​ ลอบใจ
​ดัง​กล่าว​เรียก​ว่า “การ​ชี้​ทาง” (path clarification)19 ต่อ​มา โร​เบิตร์ เฮา​ส์ และ​เทอเรนซ์ มิท​เซล (Robert Hour
Terence Mitchell) ได้​นำ​ความ​คิด​ของอ​ ีแ​ วน​ส์ม​ าพ​ ัฒนา​จนส​ ร้าง​เป็นท​ ฤษฎีห​ นทางเ​ป้าห​ มายข​ ึ้น กล่าว​คือ เขา​ทั้งส​ อง​
สามารถ​พัฒนา​จน​สร้าง​เป็น​ตัว​แบบ​ที่​แสดง​ความ​สอดคล้อง​ต้อง​กัน​ระหว่าง​พฤติกรรม​ผู้นำ​และ​แรง​จูงใจ​ของ​ผู้​ตาม​ที่​
จะ​ทำงานใ​ห้ส​ ำเร็จ20

         19 Martin G. Evans “The Effects of Supervisory Behavior Behavior on the Path–Goal Relationship.” Organization
Behavior and Human Performance. May, 1970, pp. 277-298.

         20 Robert J. House “A Path–Goal Theory of Leadship Effectiveness.” Administrative Science Quarterly. September
1971, pp. 321-339; Robert J. House and Terrence R. Mitchell. “Path – Goal Theory of Leadership.” Journal of Contemporary
Business. Autumn, 1974, pp. 81-98.

                              ลขิ สิทธิ์ของมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช
   196   197   198   199   200   201   202   203   204   205   206