Page 210 - องค์การและการจัดการและการจัดการทรัพยากรมนุษย์
P. 210

5-30 องค์การและการจัดการ และการจัดการทรัพยากรมนุษย์

       3.6 	ระยะเ​วลาท​ ผ​่ี นู้ ำท​ ำงานร​ ว่ มก​ บั ผ​ ต​ู้ าม ถ้าผ​ ู้นำไ​ด้ท​ ำงาน​ร่วมก​ ับผ​ ู้ต​ ามเ​ป็นร​ ะยะ​เวลา​นานจ​ นส​ นิทส​ นมห​ รือ​
รู้​ใจ​กัน​ดีแล้ว ย่อม​จะ​ทำให้​ผู้นำ​สามารถ​กำหนด​บทบาท​หรือ​ระดับ​การ​ควบคุม​บังคับ​บัญชา​ได้​ถูก​ต้อง​เหมาะ​สม​ตาม​
ความร​ ูค้​ วามส​ ามารถข​ องผ​ ูต้​ าม แตถ่​ ้าผ​ ู้นำเ​พิ่งม​ าร​ ับง​ านใ​หมห่​ รือย​ ังไ​มส่​ นิทส​ นมค​ ุ้นเ​คยก​ ับผ​ ูต้​ าม ในร​ ะยะแ​ รกผ​ ู้นำอ​ าจ​
ยังไ​ม่ม​ ั่นใจใ​น​ตัวผู้ต​ าม​จึง​ไม่ก​ ล้าม​อบ​หมาย​งานส​ ำคัญๆ ให้​ทำ จน​เมื่อ​เวลาผ​ ่านไ​ปร​ ะยะห​ นึ่ง​และม​ ี​การ​เรียน​รู้​ถึงค​ วาม​
สามารถต​ ลอดจ​ นท​ ัศนคตแิ​ ละอ​ ุปนิสัยข​ องก​ ันแ​ ละก​ ันแ​ ล้ว ย่อมจ​ ะท​ ำใหผ้​ ู้นำส​ ามารถป​ รับต​ ัวแ​ ละก​ ำหนดบ​ ทบาทใ​นก​ าร​
ควบคุมบ​ ังคับ​บัญชา​ตลอด​จน​ลักษณะแ​ ละ​ปริมาณง​ านท​ ี่ผ​ ู้​ตาม​สามารถร​ ับ​ผิด​ชอบไ​ด้

       3.7 	โครงสรา้ งอ​ งคก์ าร องคก์ ารใ​ดท​ ีม่​ โ​ี ครงสร้างแ​ ละร​ ะบบง​ านแ​ บบร​ วมอ​ ำนาจ อาจจ​ ะเ​ปิดท​ างใ​หผ้​ ู้นำม​ โี​อกาส​
ใช้​อำนาจ​หน้าที่​มาก​เกิน​ไป​หรือ​เป็น​ผู้นำ​แบบ​เผด็จการ​ไป​เลย​ก็ได้ เพราะ​ข้อมูล​ข่าวสาร​และ​การ​ตัดสิน​ใจ​ต่างๆ ไป​รวม​
ศูนย์​อยู่​ที่​ตัวผู้​นำ​หรือ​ที่​ปรึกษา​ของ​เขา​เกือบ​ทั้งหมด ใน​ทาง​ตรง​กัน​ข้าม ​ถ้า​โครงสร้าง​และ​ระบบ​งาน​เป็น​แบบ​เน้น​ให้​
ผู้ป​ ฏิบัติง​ านม​ ีส​ ่วนร​ ่วม ผู้นำม​ ักจ​ ะต​ ้องร​ ับฟ​ ังค​ วามค​ ิดเ​ห็นแ​ ละก​ ระจายอ​ ำนาจไ​ปท​ ี่ร​ ะดับต​ ่างๆ ของอ​ งค์การ ซึ่งจ​ ะท​ ำให​้
โอกาสท​ ี่​ผู้นำ​จะใ​ช้อ​ ำนาจ​เกินข​ อบเขต​นั้น​มีน​ ้อยล​ ง

       3.8 	โครงสรา้ งแ​ ละค​ วามส​ มั พนั ธภ​์ ายในก​ ลมุ่ ถา้ ส​ มาชกิ ภ​ ายในห​ นว่ ยง​ านม​ ค​ี วามส​ มั พนั ธอ​์ นั ด​ ต​ี อ่ ก​ นั มภ​ี มู หิ ลงั ​
และ​สถานภาพ​ทาง​สังคม​และ​เศรษฐกิจ​ใกล้​เคียง​กัน​ได้​ฟันฝ่า​และ​ร่วม​งาน​กัน​มา​เป็น​ระยะ​เวลา​พอ​สมควร​ สมาชิก​ใน​
หน่วย​งาน​จะ​มี​ความ​กลม​เกลียว​ไม่​แตกแยก​เป็นก​ลุ่ม​เป็น​เหล่า​ต่างๆ ซึ่ง​เป็นการ​ง่าย​ต่อ​ผู้นำ​ที่​จะ​บังคับ​บัญชา​และ​ดึง​
ให้​พวกเ​ขาม​ ีส​ ่วนร​ ่วมใ​น​การ​บริหาร แต่ถ​ ้า​หน่วยง​ านใ​ด​มีก​ ารแ​ ตกแยก​เป็นก​ ๊ก​เป็นก​ลุ่ม ขาดค​ วาม​สามัคคี​ปรองดอง​กัน
การบ​ งั คบั บ​ ญั ชาข​ องผ​ นู้ ำม​ กั จ​ ะก​ ระทำไ​ดล​้ ำบาก และผ​ นู้ ำม​ กั จ​ ะต​ อ้ งพ​ งึ่ พาอ​ ำนาจห​ นา้ ทท​่ี เ​ี่ ปน็ ท​ างการห​ รอื ใ​ชค​้ วามเ​ดด็ ข​ าด​
ใน​การ​บังคับ​บัญชา ซึ่งอ​ าจ​ส่งผ​ ลก​ระ​ทบ​ต่อค​ วาม​พอใจข​ อง​ผู้​ใต้​บังคับบ​ ัญชาใ​น​ที่สุด

       จะเ​ห็นไ​ดว้​ า่ ป​ ัจจยั ท​ มี่​ ผ​ี ลต​ ่อค​ วามเ​ป็นผ​ ู้นำม​ อี​ ยูห​่ ลายป​ ัจจยั ด​ ้วยก​ นั จ​ ึงเ​ปน็ การย​ ากท​ ีจ​่ ะห​ าส​ ูตรส​ ำเร็จข​ องค​ วาม​
เปน็ ผ​ ู้นำท​ มี่​ ปี​ ระสิทธผิ ลแ​ ละใ​ช้ไดต้​ ลอดเ​วลาใ​นท​ กุ ส​ ถานการณ์ ผู้นำท​ ีป่​ ระสบค​ วามส​ ำเร็จม​ ักจ​ ะต​ ้องค​ อยต​ รวจส​ อบแ​ ละ​
ประเมิน​สถานการณ์​ต่างๆ ด้วย​ความ​รอบคอบ​เท่า​ที่​เวลา​และ​เหตุการณ์​จะ​อำนวย​ให้​เพื่อ​ที่​จะ​ได้​กำหนด​บทบาท​และ​
วางตัวไ​ด้​เหมาะส​ ม ถ้าท​ ำได้เ​ช่น​นี้แ​ ล้ว​ก็จ​ ะ​ได้ท​ ั้ง​ผล​งาน​และ​ความพ​ อใจ​จากผ​ ู้​ใต้บ​ ังคับ​บัญชา

  กจิ กรรม 5.1.3
         ปัจจยั ท​ ม่ี​ ​ีผล​ต่อค​ วามเ​ป็น​ผูน้ ำม​ ปี​ จั จัยใ​ดบ​ า้ ง
         												

  แนว​ตอบก​ ิจกรรม 5.1.3
         ปัจจัย​ที่​มี​ผล​ต่อ​ความ​เป็น​ผู้นำ ได้แก่ ปัจจัย​เก่ียว​กับ​ตัวผู้​นำ ปัจจัย​เกี่ยว​กับ​ตัวผู้​ตาม และ​ปัจจัย​เก่ียว​กับ​

  สถานการณ์

                             ลิขสิทธ์ิของมหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช
   205   206   207   208   209   210   211   212   213   214   215