Page 41 - องค์การและการจัดการและการจัดการทรัพยากรมนุษย์
P. 41

ทฤษฎี​องค์การ​และ​การ​จัดการ 2-39

เรอื่ งท​ ่ี 2.3.1
ลกั ษณะข​ อง​ทฤษฎีอ​ งคก์ าร​และ​การจ​ ดั การ​สมัยใ​หม่

        	
       จาก​ที่​ได้​ศึกษา​ตอน​ที่ 2.1 และ​ตอน​ที่ 2.2 พอ​จะ​สรุป​ได้​ว่า แนวคิด​ทางการ​จัดการ​หรือ​ทฤษฎี​องค์การ​ยุค​
คลาสสกิ เ​นน้ โ​ครงสรา้ งท​ เี​่ ป็นพ​ ธิ กี าร บนพ​ ืน้ ฐ​ านข​ องห​ ลกั ก​ ารเ​กี่ยวก​ บั ก​ ารอ​ อกก​ ฎร​ ะเบยี บว​ นิ ัยท​ เี​่ ครง่ ครัด การใ​ชอ​้ ำนาจ​
หน้าที่ล​ ักษณะร​ วมอ​ ำนาจ และ​การ​ดำเนินก​ าร​ตามห​ ลักก​ าร​ของ​ความม​ ีเ​หตุ​และผ​ ลโ​ดยม​ ี​คติ​ฐาน​เกี่ยว​กับ​มนุษย์​ว่า​เป็น​
คนเ​กียจคร้านไ​มช่​ อบท​ ำงานแ​ ละจ​ ำต​ ้องใ​ชว้​ ิธกี​ ารค​ วบคุมพ​ ฤติกรรมม​ นุษยโ์​ดยใ​กลช้​ ิด เพื่อใ​หเ้​กิดค​ วามม​ ปี​ ระสิทธิภาพ​
และ​ประสิทธิผล​ต่อ​องค์การ ส่วน​แนวคิด​การ​จัดการ​เชิง​มนุษย​สัมพันธ์​และ​พฤติกรรม​ศาสตร์​นั้น เน้น​ความ​สนใจ​ที่​
ตัว​คน โครงสร้าง​ที่​ไม่​เป็น​พิธีการ ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​คนใน​ขณะ​ทำงาน และ​ปทัส​ถาน​ทาง​สังคม​ของ​กลุ่ม ​โดย​มี​
คติ​ฐาน​เกี่ยว​กับ​มนุษย์​ว่า​เป็น​คน​รัก​งาน ขยัน​ขัน​แข็ง และ​มี​ความ​รับ​ผิด​ชอบ​และ​ไม่​จำเป็น​จะ​ต้อง​ทำการ​ควบคุม​
พฤติกรรม​ของ​คน​โดย​ใกล้​ชิด ด้วย​คติ​ฐาน​นี้​ทำให้​จุด​เน้น​การ​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​การ​หา​สิ่ง​จูงใจ​คน​ให้​ยอมรับ​และ​ร่วม​มือ​
ปฏิบัติ​งาน​ให้​บรรลุ​วัตถุประสงค์​ของ​องค์การ​เปลี่ยน​ไป​เป็นการ​ศึกษา​ใน​แง่​บวก​มาก​ขึ้น กล่าว​อีก​นัย​หนึ่ง​ได้​ว่า​ทฤษฎี​
องค์การย​ ุคคลาสส​ กิ​ นั้นเ​น้นท​ ีโ่​ครงสร้างแ​ ละส​ ิ่งจ​ ูงใจท​ างเ​ศรษฐกิจ เช่น ตัวเ​งิน แตน่​ ักท​ ฤษฎอี​ งค์การเชิงม​ นุษยส​ ัมพันธ​์
และ​พฤติกรรม​ศาสตร์เ​น้น​ที่ค​ วามส​ ัมพันธ์ร​ ะหว่างค​ น​และ​สิ่ง​จูงใจ​ที่​ไม่ใช่​ใน​แง่​เศรษฐกิจ
       แนวคิด​ของ​นัก​ทฤษฎี​แนว​หลัง​ได้​รับ​ทั้ง​การ​วิจารณ์​ที่​เห็น​ด้วย​และ​ไม่​เห็น​ด้วย​จาก​นัก​ทฤษฎี​ทั่วไป พวก​ที่​ไม่​
เหน็ ด​ ว้ ยไ​ดว​้ จิ ารณว​์ า่ แ​ นวคดิ ข​ องน​ กั ม​ นษุ ยสมั พนั ธแ​์ ละพ​ ฤตกิ รรมศ​ าสตรเ​์ สนอส​ ิง่ ซ​ ึง่ ข​ ดั แ​ ยง้ ก​ บั ค​ วามเ​ปน็ จ​ รงิ เนือ่ งจาก​
เห็น​ว่าการ​เน้น​โครงสร้าง​องค์การ​ที่​เป็น​ทางการ​และ​การ​ใช้​สิ่ง​จูงใจ​ทาง​เศรษฐกิจ​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​และ​จำเป็น เพราะ​จาก
​หลัก​การ​ของ​นัก​ทฤษฎี​ยุค​คลาส​สิก​เกี่ยว​กับ​การ​จัด​แบ่ง​งาน​กัน​ทำ​ตาม​ความ​ชำนาญ​เฉพาะ​ด้าน​และ​การ​เน้น​การ​มี​
มาตรฐาน​ของ​การ​ปฏิบัติ​งาน​ได้​พิสูจน์​ให้​เห็น​เป็น​หลัก​ฐาน​ว่า​ได้​ทำให้​สังคม​พัฒนา​ก้าวหน้า​ไป​ได้​และ​คนใน​สังคม​มี​
มาตรฐานค​ วามเ​ป็นอ​ ยูท่​ ีส่​ ูงข​ ึ้น ดังน​ ั้น จึงไ​มเ่​ห็นด​ ้วยท​ ีจ่​ ะใ​หม้​ กี​ ารล​ ะทิ้งป​ รัชญาข​ องแ​ นวคิดย​ ุคค​ ลาสส​ ิก และโ​ดยเ​ฉพาะ​
ของแ​ นวคดิ เ​ชงิ ว​ ทิ ยาศาสตรไ์​ป ทา่ มกลางค​ วามค​ ดิ เ​หน็ ข​ ดั แ​ ยง้ ข​ องท​ ัง้ 2 กลุม่ แ​ นวคดิ ด​ งั ก​ ลา่ วไ​ดเ​้ กดิ ม​ แ​ี นวคดิ ใ​หมข​่ ึน้ อ​ กี ​
แนวคิดห​ นึ่งค​ ือ แนวคิดเ​ชิงร​ ะบบ และแ​ นวคิดเ​ชิงส​ ถานการณ์ (situational concept) ทั้งส​ องแ​ นวคิดน​ ี้ม​ ุ่งท​ ี่จ​ ะศ​ ึกษา​
เพื่อ​ทำความ​เข้าใจ​เกี่ยว​กับ​ความ​ซับ​ซ้อน (complexity) และ​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ต่างๆ ภายใน​องค์การ​
โดยไ​ม่พ​ ยายามท​ ี่จ​ ะค​ ้นหาว​ ิธีท​ ี่ด​ ีท​ ี่สุด ในก​ ารจ​ ัดอ​ งค์การเ​หมือนเ​ช่นแ​ นวคิดท​ ั้งส​ องแ​ นวท​ ี่เ​กิดข​ ึ้นก​ ่อนห​ น้า โดยแ​ นวคิด
​เชิง​ระบบ​นั้น​มอง​ว่า การ​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​องค์การ​นั้น ควร​จะ​ต้อง​ทำการ​วิเคราะห์​ความ​มี​ปฏิสัมพันธ์​ระหว่าง​ส่วน​ต่างๆ
เพื่อท​ ี่จ​ ักไ​ด้ภ​ าพร​ วมข​ องอ​ งค์การท​ ี่ถ​ ูกต​ ้องไ​ม่ใช่น​ ำแ​ ต่ละส​ ่วนข​ องค​ นแ​ ละห​ น่วยง​ านใ​นอ​ งค์การม​ าว​ ิเคราะห์แ​ ยกจ​ ากก​ ัน
และแ​ นวคิดเ​ชิงส​ ถานการณ์ซ​ ึ่งย​ ึดป​ รัชญาข​ องแ​ นวคิดเ​ชิงร​ ะบบเ​ป็นพ​ ื้นฐ​ านไ​ด้เ​สนอค​ วามค​ ิดเ​กี่ยวก​ ับก​ ารม​ ีป​ ฏิสัมพันธ​์
กัน​ระหว่าง​สภาวะ​แวดล้อม เทคโนโลยี โครงสร้าง​และ​การ​จูงใจ​คน​ให้​ทำงาน โดย​เห็น​ว่า​ไม่มี​วิธี​การ​ใด​ที่​ดี​ที่สุด​ที่​
จะ​นำมา​ใช้ได้​กับ​องค์การ​ใน​ทุก​สถานการณ์ องค์การ​ที่​จะ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​จะ​ต้อง​ปรับ​ตัว​ให้​สอดคล้อง​เข้า​กัน​ได้​กับ
​สภาวะ​แวดล้อม​ที่​เปลี่ยน​ไป​เสมอ ซึ่ง​แนวคิด​เชิง​ระบบ​จะ​ได้​นำ​มา​กล่าว​ใน​เรื่อง​ที่ 2.3.3 และ​แนวคิด​เชิง​สถานการณ์​
จะ​กล่าว​ไว้​ใน​เรื่อง​ที่ 2.3.4 อย่างไร​ก็​ดี​ใน​ยุค​ทฤษฎี​องค์การ​และ​การ​จัดการ​สมัย​ใหม่​นี้​ยัง​มี​นัก​วิทยาศาสตร์​ใน​กลุ่ม​
แนวคิด​เชิง​วิทยาศาสตร์​ได้​มี​พัฒนาการ​จาก​เดิม โดย​หัน​ไป​เน้น​ใช้​ตัว​แบบ​ทาง​คณิตศาสตร์​มา​ช่วย​ใน​การ​แก้​ปัญหา​
ของก​ ารจ​ ัดการม​ ากข​ ึ้น นักท​ ฤษฎีใ​นก​ ลุ่มน​ ี้ภ​ ายห​ ลังถ​ ูกเ​รียกข​ านว​ ่าเ​ป็นแ​ นวคิดก​ ารจ​ ัดการเ​ชิงป​ ริมาณ (Management
Science) ซึ่งไ​ด้ร​ ับ​ความ​นิยมน​ ำม​ า​ใช้ใ​น​การแ​ ก้ป​ ัญหา​ที่ซ​ ับ​ซ้อน​ของ​โลกธ​ ุรกิจ​สมัยใ​หม่​เช่น​กัน

                              ลขิ สทิ ธิ์ของมหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46