Page 46 - องค์การและการจัดการและการจัดการทรัพยากรมนุษย์
P. 46

2-44 องค์การและการจัดการ และการจัดการทรัพยากรมนุษย์

       5. 	การล​ ่ม​สลายข​ องร​ ะบบป​ ดิ การ​เป็น​ระบบป​ ิดน​ ั้น​มี​แนวโ​น้ม​ที่​จะล​ ่ม​สลาย​ตัว​ได้ง​ ่าย​กว่า​ระบบเ​ปิดเ​นื่องจาก​
ปิด​ตัว​เอง​จาก​สิ่ง​แวดล้อม สำหรับ​ระบบ​เปิด​นั้น​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​อยู่​รอด​ได้​มากกว่า เนื่องจาก​การ​ปรับ​ตัว​ให้​เข้า​กับ​
สิ่ง​แวด​ล้อม​ อ​ยู่ต​ ลอด​เวลา

       6. 	การ​ใช้​ข้อมูล​ป้อน​กลับ ระบบ​เปิด​นั้น​จำเป็น​ที่​จะ​ต้อง​ยึด​หลัก​ของ​การ​มี​ข้อมูล​ป้อน​กลับ​เข้า​สู่​ระบบ เพื่อ​
นำ​ข้อมูล​นั้น​มา​ปรับ​ตัว​ให้​ดำเนิน​อยู่​ต่อ​ไป​ได้​อย่าง​คงที่​สม่ำเสมอ การ​ส่ง​ข้อมูล​ป้อน​กลับ​เข้า​สู่​ระบบ เช่น ข้อมูล​
เกี่ยวกับก​ ระบวนการต​ ่างๆ ของร​ ะบบห​ รือข​ ้อมูลท​ ี่​เกี่ยวก​ ับส​ ิ่งน​ ำอ​ อกจ​ ากร​ ะบบจ​ ะช​ ่วยใ​ห้ส​ ามารถป​ รับต​ ัวไ​ด้อ​ ย่างค​ งที​่
สม่ำเสมอ

       7. 	การม​ ล​ี ำดบั ข​ นั้ ข​ องร​ ะบบ ระบบน​ ัน้ ไ​มว​่ า่ จ​ ะเ​ปน็ ร​ ะบบใ​ดก​ ต็ ามจ​ ะม​ ล​ี ำดับข​ ัน้ ข​ องร​ ะบบซ​ ึ่งม​ ค​ี วามส​ มั พันธต​์ อ่ ​
กันเ​สมอ กล่าวค​ ือ ระบบใ​ดๆ ก็ตามจ​ ะป​ ระกอบไ​ปด​ ้วยร​ ะบบย​ ่อย (subsystem) ในข​ ณะท​ ี่ต​ ัวร​ ะบบท​ ี่ป​ ระกอบไ​ปด​ ้วย​
ระบบย​ ่อยน​ ั้นก​ ็เ​ป็นร​ ะบบย​ ่อยข​ องร​ ะบบท​ ี่ใ​หญ่ก​ ว่า (supersystem) ด้วย เช่น ถ้าม​ องอ​ งค์การว​ ่าเ​ป็นร​ ะบบ ระบบย่อย​
ของอ​ งค์การก​ ค็​ ือห​ น่วยง​ านต​ ่างๆ ในอ​ งค์การ ขณะเ​ดียวกันอ​ งค์การเ​องก​ เ็​ป็นร​ ะบบย​ ่อยข​ องร​ ะบบท​ ีใ่​หญก่​ ว่า คือ สังคม
เป็นต้น

       หลัก​การ​ต่างๆ ตาม​แนวคิด​เชิง​ระบบ​นี้​สามารถน​ ำไ​ป​ใช้ได้​ทั้ง​กับ​องค์การ​และ​ระบบอ​ ื่นๆ ที่ไ​ม่ใช่​องค์การ การ​
ยึดห​ ลักก​ ารด​ ังก​ ล่าวข​ ้างต​ ้นจ​ ะก​ ่อป​ ระโยชน์​ในแ​ ง่ท​ ี่จ​ ะช​ ่วยใ​ห้ส​ ามารถ​วิเคราะห์แ​ ละอ​ ธิบาย​ความส​ ัมพันธ์​ของส​ ่วนต​ ่างๆ
ที่​มี​ปฏิสัมพันธ์​กัน​และ​กัน​ได้​อย่าง​ทั่ว​ถึง​และ​ชัด​แจ้ง อัน​จะ​นำ​ประโยชน์​ต่อ​องค์การ​ได้​มากกว่า นอกจาก​นี้​ยัง​ช่วย​ให้​
นักบ​ ริหาร​ไม่ต​ ้องม​ องห​ า​วิธีท​ ี่ด​ ี​ที่สุด​ที่จ​ ะ​นำ​มา​ใช้​ในก​ าร​จัด​องค์การ เพราะ​หลักก​ าร​ของ​แนวคิดน​ ี้​จะเ​น้นก​ ารป​ รับ​ตัว​ให​้
เข้าก​ ับส​ ภาวะแ​ วดล้อม ดังน​ ั้น ในแ​ ง่ข​ องโ​ครงสร้างก​ ็จ​ ะเ​ป็นเ​พียงก​ ารเ​น้นห​ าโ​ครงสร้างท​ ี่เ​หมาะส​ มส​ อดคล้องก​ ับส​ ภาวะ​
แวดล้อมเ​ท่านั้น

  กิจกรรม 2.3.3
         1. 	หากจ​ ะน​ ำแ​ นวคดิ เ​ชงิ ร​ ะบบม​ าป​ ระยกุ ตใ​์ ชก​้ บั ก​ ารบ​ รหิ ารก​ จิ การห​ นง่ึ ก​ จิ การใ​ดจ​ ะก​ อ่ ใ​หเ​้ กดิ ป​ ระโยชน์​

  ใน​ดา้ นใ​ด​บา้ ง
         2. 	จง​เปรียบ​เทยี บค​ วามแ​ ตกต​ า่ งข​ องท​ ฤษฎค​ี ลาสส​ ิ​กกบั ท​ ฤษฎเ​ี ชิง​ระบบม​ า​พอเ​ขา้ ใจ

  แนว​ตอบก​ จิ กรรม 2.3.3
         1. 	การนำ​เอา​แนวคดิ เ​ชงิ ​ระบบม​ า​ประยุกต์ใ​ช้ก​ บั ก​ าร​บรหิ าร​จะก​ อ่ ใ​ห้​เกดิ ป​ ระโยชน์ ดังน้ี
              1) 	ชว่ ยใ​หเ​้ กดิ ก​ ารเ​นน้ ว​ เิ คราะหแ​์ ละส​ รา้ งค​ วามเ​ขา้ ใจใ​นป​ ฏสิ มั พนั ธร​์ ะหวา่ งก​ นั ข​ องห​ นว่ ยง​ านต​ า่ งๆ

  ภายในก​ ิจการ
              2) 	ช่วย​ทำให้​เกิด​การ​เน้น​วิเคราะห์​และ​สร้าง​ความ​เข้าใจ​ปฏิสัมพันธ์​ระหว่าง​กิจการ​กับ​สภาวะ​

  แวดล้อม​ภายนอก
         2. 	ทฤษฎ​ียุคคลาสส​ กิ ​เน้นก​ าร​วเิ คราะหใ​์ น​สว่ นย​ อ่ ย​แต่ละส​ ่วน โดย​พยายาม​แสวงหาผ​ ลต​ อบแทนส​ งู สุด​

  ของแ​ ตล่ ะส​ ว่ นย​ อ่ ยน​ นั้ แตท​่ ฤษฎเ​ี ชงิ ร​ ะบบเ​นน้ ก​ ารว​ เิ คราะหใ​์ นเ​ชงิ ร​ วมโ​ดยพ​ ยายามแ​ สวงหาผ​ ลต​ อบแทนท​ ม​ี่ ค​ี วาม​
  เหมาะ​สม​เปน็ ไ​ป​ได้​มาก​ทส่ี ดุ ของส​ ่วน​ตา่ งๆ ร่วมก​ ัน

                             ลขิ สิทธิ์ของมหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51