Page 47 - องค์การและการจัดการและการจัดการทรัพยากรมนุษย์
P. 47

ทฤษฎีอ​ งค์การ​และ​การจ​ ัดการ 2-45

เรื่อง​ท่ี 2.3.4
แนวคิด​เชงิ ​สถานการณ์

       	
       แนวคิดเ​ชิงร​ ะบบซ​ ึ่งก​ ล่าวใ​นเ​รื่องท​ ี่ 2.3.3 ยอมรับถ​ ึงค​ วามส​ ำคัญข​ องส​ ภาวะแ​ วดล้อมใ​นฐ​ านะเ​ป็นส​ ิ่งน​ ำเ​ข้า ซึ่ง​
องคก์ ารจ​ ะต​ อ้ งพ​ จิ ารณาท​ ำใหส​้ ามารถแ​ กป​้ ญั หาข​ องค​ วามซ​ บั ซ​ อ้ นแ​ ละต​ วั แปรเ​กีย่ วก​ บั ป​ จั จยั ส​ ภาวะแ​ วดลอ้ มท​ มี​่ อ​ี ทิ ธพิ ล​
ต่ออ​ งค์การ​ในป​ ัจจุบันไ​ด้​อย่างม​ ี​ประสิทธิภาพ แนวคิดเ​ชิง​สถานการณ์​นั้น​ยึด​ปรัชญาข​ อง​แนวค​ ิด​เชิงร​ ะบบ​เป็น​พื้น​ฐาน
แต่​ก้าว​ไป​ไกล​กว่า​แนวคิด​เชิง​ระบบ​อีก​ขั้น​หนึ่ง คือ พยายาม​ที่​จะ​ทำให้​เกิด​ความ​สอดคล้อง​เข้า​กัน​ได้​ระหว่าง​สภาวะ​
แวดล้อมก​ ับโ​ครงสร้างข​ องอ​ งค์การ นักท​ ฤษฎตี​ ามแ​ นวคิดเ​ชิงส​ ถานการณจ์​ ะก​ ล่าวว​ ่าโ​ครงสร้างข​ องอ​ งค์การท​ ีด่​ ที​ ี่สุดน​ ั้น​
จะข​ ึ้นอ​ ยู่​กับ​สภาวะแ​ วดล้อมข​ อง​องค์การ กล่าวค​ ือ ไม่มีโ​ครงสร้างอ​ งค์การ​ใด​จะ​สามารถน​ ำ​มาใ​ช้ได้​กับอ​ งค์การใ​นท​ ุก​
สภาวการณ์ ตามแ​ นวคิดน​ ีเ้​ห็นว​ ่าใ​นบ​ างก​ รณโี​ครงสร้างใ​นล​ ักษณะท​ ีเ่​ป็นร​ ะบบเ​ปิด หรือโ​ครงสร้างท​ ีไ่​มเ่​ป็นพ​ ิธีการ หรือ​
โครงสร้างใ​นล​ ักษณะย​ ืดหยุ่นก​ ็อ​ าจใ​ช้ได้อ​ ย่างม​ ีป​ ระสิทธิภาพ แต่ใ​นบ​ างก​ รณีโ​ครงสร้างท​ ี่เ​ป็นร​ ะบบป​ ิด หรือโ​ครงสร้าง​
ที่เ​ป็นพ​ ิธีการ และไ​มย่​ ืดหยุ่นก​ ็ส​ ามารถน​ ำม​ าใ​ช้ได้อ​ ย่างม​ ีป​ ระสิทธิภาพไ​ด้เ​ช่นก​ ัน นอกจากน​ ี้ใ​นอ​ งค์การห​ นึ่งอ​ งค์การใ​ด​
นั้น​อาจ​จะท​ ำ​โครงการส​ ร้าง​องค์การ​แบบ​หนึ่ง​มา​ใช้​กับห​ น่วยง​ านห​ นึ่ง​หน่วยง​ าน​ใด และท​ ำโ​ครงส​ ร้าง​อีก​แบบห​ นึ่ง​มา​ใช​้
กับห​ น่วยง​ า​นอื่นๆ ใน​องค์การเ​ดียวกันน​ ั้นก​ ็ได้ เช่น อาจ​นำโ​ครงสร้าง​แบบเ​ป็นพ​ ิธีการ​มา​ใช้​กับห​ น่วยก​ ารผ​ ลิต และน​ ำ​
โครงสร้าง​แบบ​ไม่เ​ป็น​พิธีการ​มาใ​ช้​กับ​หน่วย​งานท​ ี่​ทำห​ น้าที่​ด้าน​การว​ ิจัย​และพ​ ัฒนา เป็นต้น ดัง​นั้น จะ​เห็น​ได้​ว่าค​ วาม​
มีป​ ระสิทธิผลข​ องอ​ งค์การ​ตามแ​ นวคิดข​ องน​ ักท​ ฤษฎีเ​ชิงส​ ถานการณ์​นั้นจ​ ะข​ ึ้นอ​ ยู่ก​ ับค​ วามส​ อดคล้องเ​ข้าก​ ันไ​ด้ร​ ะหว่าง​
โครงสร้าง​ภายในอ​ งค์การ​กับ​สภาวะ​แวดล้อมภ​ ายนอกอ​ งค์การ
       จุดเ​ริ่มต​ ้นข​ องแ​ นวคิดเ​ชิงส​ ถานการณต์​ ่อก​ ารจ​ ัดการแ​ ละท​ ฤษฎอี​ งค์การน​ ั้นเ​ป็นท​ ีย่​ อมรับก​ ันว​ ่าเ​กิดจ​ ากผ​ ลข​ อง​
การว​ ิจัยข​ อง โจน วูดว​ าร์ด​ (Joan Woodward)53 ในท​ ศวรรษ 1950 ซึ่งไ​ด้ท​ ำการศ​ ึกษาบ​ ริษัทต​ ่างๆ ใน South Essex
ประเทศ​อังกฤษ​และ​พบ​ว่า​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​โครงสร้าง​ของ​องค์การ​กับ​คนใน​องค์การ​มี​ความ​สัมพันธ์​อย่าง​ใกล้​ชิด
หลังจ​ ากน​ ั้นก​ ็ม​ ีผ​ ลก​ ารว​ ิจัยข​ องน​ ักท​ ฤษฎีอ​ ื่นๆ ตามม​ า ซึ่งส​ นับสนุนแ​ นวค​ วามค​ ิดเ​ชิงส​ ถานการณ์ เช่น ผลก​ ารว​ ิจัยข​ อง​
เจมส์ ทอมป​ ์​สัน (James Thompson)54 ลอเรนซ์ และ​ลอ​ ร์ช (Lawrence and Lorsch)55 และฟ​ ีด​เลอร​ ์ (Fiedler)56
เป็นต้น อย่างไร​ก็​ดี​เนื่องจาก​ข้อ​จำกัด​ใน​ขอบเขต​ของ​เรื่อง​นี้​จึง​จะ​ขอ​นำ​ผล​การ​วิจัย​ของ​วูด​วาร์​ด กับ​ลอเร็นซ์ และ
​ล​อร์​ชมา​เสนอ​โดย​สรุป​เท่านั้น เพราะ​เป็น​ผล​การ​วิจัย​ซึ่ง​เน้น​การ​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​การ​หาความ​สัมพันธ์​ของ​โครงสร้าง​
องค์การก​ ับส​ ภาวะ​แวดล้อมโ​ดยตรง​ต่อ​ไปน​ ี้ คือ

ผล​การ​วิจัยข​ องว​ ดู ว​ าร์​ด

       วูด​วาร์​ด​ซึ่ง​มี​ความ​เชี่ยวชาญ​ด้าน​สังคมวิทยา​อุตสาหกรรม และ​เป็น​อาจารย์​ที่ Imperial College ใน​
กรงุ ล​ อนดอน ไดท​้ ำการศ​ กึ ษาบ​ ริษทั ท​ ีด​่ ำเนนิ ก​ ารท​ างด​ า้ นเ​กีย่ วก​ ับก​ ารผ​ ลิตใ​น South Essex ประเทศ​อังกฤษ ประมาณ
100 บริษัท โดยจ​ ำแนก​ประเภท​ของบ​ ริษัทต​ าม​สภาวะค​ วาม​ซับ​ซ้อน​ทางเ​ทคโนโลยี​ของ​การผ​ ลิต​ซึ่ง​ได้จ​ ัด​แบ่งไ​ว้​เป็น 3
สภาวะ คือ57

       1. 	การผ​ ลิตต​ าม​คำ​สั่ง (Unit and Small-Batch) เช่น การผ​ ลิต​รถยนต์ต​ ามค​ ำ​สั่ง​ซื้อ
       2. 	การ​ผลิตจ​ ำนวน​มาก (Large-Batch and Mass Production) เช่น การผ​ ลิต​รถยนต์​เพื่อ​ขาย
       3. 	การผ​ ลิตต​ าม​กระบวนการ (Process Production) เช่น การผ​ ลิต​สารเ​คมี

                              ลขิ สิทธ์ขิ องมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52