Page 149 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 149
การเสริมพลังในการส่งเสริมสุขภาพแ ละการป้องกันโรค 5-37
5) กิจกรรมวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพ และสาเหตุของปัญหาสุขภาพท่ีสำคัญของชุมชน แบ่งกลุ่มย่อย
ระดมความคิดเกี่ยวปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในชุมชน โดยอาจนำผลการตรวจสุขภาพ สถิติการเจ็บป่วยของคนใน
ชุมชนมานำเสนอ เพื่อให้กลุ่มเลือกว่า ปัญหาสุขภาพใดที่ส่งผลกระทบต่อการเป็นอยู่ที่ดี และต้องการป้องกันแก้ไข
เช่น ปัญหาก ารเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงที่พบมากในผู้ใหญ่และผู้สูงอ ายุ ส่วนในกลุ่มเด็กม ีป ัญหาโรคอ้วน
เพิ่มมากขึ้น ในกรณีนี้จะนำมาสู่การแบ่ง 3 กลุ่มย่อย ที่ให้วิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุของปัญหาสุขภาพดังกล่าวในกลุ่ม
ผู้สูงอายุ วัยทำงาน และในกลุ่มเด็กว่า มีปัจจัยอะไรเกี่ยวข้อง ทั้งระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน สิ่งแวดล้อม และ
หน่วยงานต่างๆ โดยการเชื่อมโยงปัจจัยต่างๆ ออกมาในรูปของแ ผนที่ค วามค ิด หรือแ ผนภูมิก ้างป ลา เพื่อให้ม องเห็น
ปัจจัยในภาพรวม เมื่อกลุ่มออกมานำเสนอสมาชิกชุมชนจะมองเห็นว่า อะไรเป็นสาเหตุสำคัญ และสาเหตุส่วนใหญ่
สามารถแก้ไขด้วยการจ ัดการข องส มาชิกค รอบครัวและชุมชน ทำให้เชื่อในความส ามารถที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว
6) กิจกรรมการวางแผนการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน แบ่งกลุ่มย่อย โดยอาจแบ่ง
ตามหมู่บ้าน หรือต ามก ลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยเด็ก วัยทำงาน วัยส ูงอ ายุ หรือแ บ่งต ามก ลุ่มไม่ป่วย กลุ่มเสี่ยง และกลุ่ม
ป่วย โดยให้แต่ละกลุ่มระดมสมองกำหนดทางเลือกในการแก้ไขปัจจัยสาเหตุสำคัญที่ได้ระบุในกิจกรรมที่ผ่านมาให้
ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมสุขภาพในกลุ่มสุขภาพดี การป้องกันโรคในกลุ่มเสี่ยง และการลดภาวะแทรกซ้อนในกลุ่ม
ป่วย โดยนำการเรียนรู้และทักษะจากกิจกรรมที่ผ่านมามาใช้ในการวางแผนการดำเนินงานที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
วัฒนธรรมท้องถิ่น และปัญหาอุปสรรคและความสำเร็จในการดำเนินงานของชุมชนที่ผ่านมา ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม
วัยหรือพื้นที่ในชุมชน ระบุกิจกรรมที่จะทำ ทำเมื่อใด ทำโดยใคร จะต้องระดมทรัพยากรอะไรบ้างและจากแหล่งใด
การสนับสนุนที่ต้องการจากหน่วยงานต่างๆ และจะมีวิธีการติดตามและตรวจสอบความสำเร็จของการดำเนินงานได้
อย่างไร
หมายเหตุ
ก. สามารถสอดแทรกกิจกรรมผ่อนคลาย สนุกสนาน ที่มีวัตถุประสงค์ให้สมาชิกได้แสดงความสามารถ เรียนรู้
การท ำงานร่วมกับผ ู้อื่น และก ารโยงก ารเรียนร ู้นำเข้าสู่ก ิจกรรมก ารเสริมพ ลังได้เป็นช ่วงๆ เช่น ก่อนเริ่มกิจกรรมช ่วงเช้า และ
ช่วงบ่าย หรือคั่นระหว่างกิจกรรมกลุ่มที่ต้องคิดวิเคราะห์นาน เพื่อให้ได้ผ่อนคลาย สนุกสนานและพร้อมที่จะทำกิจกรรม
ต่อไป เป็นต้น
ข. อาจมีกิจกรรมเพิ่มทักษะท ี่จ ะเป็น เช่น ฝึกทักษะการออกก ำลังก ายเพื่อสุขภาพ การป รุงเมนูส ุขภาพ เป็นต้น
ค. เจ้าหน้าที่จะต้องศึกษาแผนการส่งเสริมสุขภาพของชุมชน และลงไปให้การสนับสนุนในช่วงต่างๆ ทั้งช่วง
เตรียมง าน ขณะดำเนินก าร รวมทั้งภ ายห ลังด ำเนินกิจกรรม เจ้าหน้าที่ควรเข้าร ่วมป ระชุมพูดคุยเกี่ยวก ับค วามสำเร็จ ปัญหา
อุปสรรค การเรียนรู้ท ี่เกิดข ึ้นและแนวทางการแ ก้ไขปรับปรุง แก้ไขในการด ำเนินก ารค รั้งต ่อไป
อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ในการเผยแพร่แนวคิดและทักษะการเสริมพลังชุมชนในการส่งเสริม
สุขภาพและการป้องกันโรคพบว่า กระบวนการเสริมพลังสามารถประยุกต์ในการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกชุมชน
และศักยภาพของชุมชนได้ อันจะนำไปสู่การร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสุขภาพและพัฒนาสุขภาพให้ดีขึ้นทั้งของบุคคล
ครอบครัว และชุมชน ไปในทิศทางที่พ ึงป ระสงค์และยั่งยืน โดยห ัวใจสำคัญในการเสริมพลังให้ประสบความสำเร็จมี
ดังนี้
1) การสร้างความรักและความภาคภูมิใจในตนเอง กลุ่ม องค์กร หรือชุมชนของตน เพื่อที่จะนำไปสู่ความ
ต้องการท ี่จะป กป้องสิ่งที่รักแ ละหวงแหนจ ากภัยค ุกคามต ่างๆ รวมทั้งต้องการที่จะร่วมก ันพัฒนาตนเอง กลุ่ม องค์กร
และช ุมชนให้ดีข ึ้น
ลิขสทิ ธิ์ของมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช