Page 150 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 150
5-38 ก ารส ่งเสริมสุขภาพแ ละการป้องกันโรค
2) การสร้างท มี งานในการพัฒนากลุ่ม องค์กร ชมุ ชน โดยการเน้นค วามส ำคัญของการท ำงานร ่วมกัน มอง
เห็นความสำคัญและศักยภาพของสมาชิกแต่ละคน มีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น มีความเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
มีการสื่อสารที่ดีในก ลุ่ม ฝึกก ารร ะดมค วามคิดอย่างส ร้างสรรค์เพื่อเกิดการมีส่วนร่วมข องสมาชิกในการพ ัฒนาชุมชน
ต่อไป
3) การพ ฒั นาทกั ษะในก ารแก้ไขปญั หา ได้แก่
ก. ความสามารถในการระบุปัญหาของกลุ่มหรือชุมชน ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ หรือ
การพัฒนาชุมชน โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกๆ ฝ่าย รวมทั้งการสร้างความตระหนักในความสำคัญของ
ปัญหาเหล่านั้นว่า ส่งผลต่อผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่มอย่างไร มากน้อยเพียงใด เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อมส่งผล
กระทบต่อความเป็นอยู่ของสมาชิกชุมชนและความอยู่รอดของชุมชนอย่างไร มากน้อยเพียงใด ปัญหายาเสพติด
ส่งผ ลกร ะท บต ่อล ูกห ลาน ครอบครัว และช ุมชนอ ย่างไร เป็นต้น ทั้งนีเ้พื่อท ีจ่ ะส ามารถจ ัดล ำดับค วามส ำคัญข องป ัญหา
และเลือกปัญหาที่มีความสำคัญและความรุนแรงในระดับต้นๆ มาเป็นประเด็นที่จะร่วมกันวางแผนแก้ไขหรือพัฒนา
ต่อไ ป
ข. ความส ามารถในก ารว เิ คราะหโ์ ยงใยป จั จยั ส าเหตขุ องป ญั หา วา่ เกีย่ วขอ้ งก บั ใคร กลุม่ ไหน มกี ลไกใด
และสภาพแวดล้อมใดทั้งภายในและภายนอกชุมชนที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันแล้วทำให้เกิดปัญหาขึ้น รวมทั้งทำให้เกิด
ความรุนแรงของปัญหา ซึ่งจะทำให้ม องเห็นแนวทางท ี่จะหยุดย ั้ง หรือลดป ัจจัยด ังก ล่าวอันจ ะน ำไปสู่การแก้ไขป ัญหา
เหล่าน ั้นในชุมชน
ค. ความสามารถในการวางแผนการแก้ไข/พัฒนา โดยใช้วิธีการระดมความคิดสร้างสรรค์จากกลุ่ม
หรือฝ่ายต ่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา ซึ่งจากก ารว ิเคราะห์โยงใยส าเหตุข องปัญหา หรือการเชื่อมโยงป ัจจัยที่เกี่ยวข้อง
เป็นแ ผนที่ค วามค ิด จะท ำให้เห็นได้ว ่า สาเหตุส ่วนใหญ่เกิดจ ากป ัจจัยภ ายในค รอบครัว กลุ่ม หรือช ุมชน ทำให้ส มาชิก
เห็นค วามเป็นไปได้ในก ารท ี่จ ะร ่วมม ือร ่วมใจก ันแ ก้ไขป ัญหาโดยก ลุ่ม/ชุมชน การว างแผนแ บบม ีส ่วนร ่วมจ ะท ำให้เกิด
การร ะดมค วามค ิดท ี่ห ลากห ลาย ทำให้ได้ค วามค ิดท ี่ด ี และก ลุ่มให้การย อมรับ รู้สึกเป็นเจ้าของแ ละร ับผ ิดช อบร ่วมก ัน
เกิดก ารแ บ่งง านและมอบห มายง านเพื่อก ารจ ัดการที่ด ีในข ั้นด ำเนินก ารต ่อไป
ทั้งนี้ บรรยากาศในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะดังกล่าว ต้องเน้นความเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการ ใช้
กระบวนการเรียนรู้เป็นกลุ่ม สร้างความรู้สึกเท่าเทียมกันในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นสมาชิกชุมชน พยายาม
สรา้ งบ รรยากาศใหส้ มาชกิ ม คี วามส ขุ ในก ารท ำก จิ กรรมแ ละอ ยากม สี ว่ นร ว่ ม โดยเฉพาะถ า้ ส มาชกิ ป ระชาชนท ดี่ อ้ ยโอกาส
ที่มักมีข้อจำกัดเรื่องการใช้ภาษาในการอ่านและเขียน รวมทั้งความรู้ทางวิชาการ การเรียนรู้จึงควรใช้เทคนิคการพูด
คุยแ ลกเปลี่ยนค วามค ิดเห็น ประสบการณ์ในประเด็นต ่างๆ รวมถ ึงก ารแ สดงออกในลักษณะต ่างๆ เช่น ท่าทาง ศิลปะ
เป็นต้น มากกว่าการอ ่านก ารเขียน และบ รรยายวิชาการ เพื่อล ดก ารมองว ่า เรื่องด ังกล่าวเป็นเรื่องไกลตัว ไม่น่าสนใจ
อายท ี่จะพูด หรือเขียน และเป็นอุปสรรคต ่อการม ีส ่วนร ่วม
4) การสนับสนุนให้มีการดำเนินการตามแผนท่ีวางไว้ โดยส่งเสริมให้มีการสร้างพันธสัญญาร่วมกัน
ระหว่างสมาชิกชุมชนที่วางแผน รวมทั้งผู้นำชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบในพื้นที่ที่ชุมชนตั้งอยู่ ควรได้เข้ามารับฟังการนำเสนอแผนงานที่กลุ่มได้จัดทำ
ร่วมกัน ให้การชื่นชมในศักยภาพข องกลุ่ม ให้ข ้อเสนอแ นะ รวมท ั้งให้พันธส ัญญาที่จะให้การสนับสนุนในด ้านต่างๆ ที่
เป็นไปได้เพื่อช่วยให้กลุ่มด ำเนินง านได้บรรลุตามเป้าห มาย เป็นต้น
ภายหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อการเสริมพลังแล้ว กระบวนการติดตามสนับสนุนให้สมาชิกชุมชนมี
กิจกรรมแ ละม ีเครือข ่ายก ารด ำเนินง านต ามแ ผนที่ท ำร ่วมก ันน ับว ่าสำคัญ เนื่องจากจ ะเป็นต ัวก ระตุ้นแ ละส นับสนุนก าร
ดำเนินง าน เกิดก ารช ื่นชม ให้ก ำลังใจ และเสริมแ รงซ ึ่งก ันแ ละก ัน รวมท ั้งช ่วยก ันก ารว ิเคราะห์ป ัญหาแ ละแ ก้ไขป ัญหาท ี่
อาจเกิดขึ้นในร ะหว่างก ารดำเนินงาน กระบวนการติดตามส นับสนุนอ าจเป็นการให้นำเสนอความก้าวหน้าแ ละป ัญหา
ลิขสทิ ธ์ิของมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช